7 หุ้นเล็กฟอร์มฮอต
วันนี้ “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอิริยาบทจากการเม้าท์หุ้นใหญ่มาเป็นเม้าท์ถึงหุ้นเล็กเพื่อชี้ให้เห็นพฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อยที่ยังกล้าลุยไฟแบบนี้ มันเป็นเคสที่น่าสนใจในภาวะตลาดหุ้นผันผวน ขณะเดียวกันก็ได้เห็นก๊วนเจ้ามือต่าง ๆ เริ่มออกมาปฏิบัติการดันหุ้นสุดลิ่มทิ่มประตู ซึ่งมีทั้งหุ้นที่ “undervalue”และหุ้นที่ “overvalue” คละเคล้ากันไปแบบนี้..สนุกแน่เจ้าค่ะ
เหมือนกับการขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้นแปรรูปผลิตภัณฑ์โลหะ (ตู้ไฟฟ้า และแม่พิมพ์) อย่าง BM ถือเป็นเรื่องที่อีฉันรับได้อย่างแน่นอน เพราะในช่วง 4 ปีทำกำไรดีมาโดยตลอด แถมปี 67ก็เพิ่งทำกำไรนิวไฮไว้ที่ระดับ 82 ล้านบาทขณะที่ไตรมาส 1 ปี 68ทำกำไรไว้ที่ระดับ 45 ล้านบาทอีฉันเลยเชื่อว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1.67 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 10.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 8.20 เท่าเหมาะสมค่ะนาย!
เช่นเดียวกับน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าเทรดต้นปี 68 อย่างหุ้น MOTHER ก็มีประเด็นกำไรโตต่อเนื่องให้ติดตามเป็นระยะ และเมื่อเหลือบดูกำไรก่อนเข้าตลาดหุ้นปี 66 อยู่ที่ระดับ 16 ล้านบาทถัดมาในปี 67 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 22 ล้านบาทขณะที่ไตรมาส 1ทำได้เกือบ 10 ล้านบาทโดยราคาหุ้นยืนปิดที่ระดับ 1.35 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาท และเป็นการเทรดบน PE 16 เท่าแบบนี้..น่าเล่นไหมจ๊ะ
ส่วนรายที่ขึ้นมาแล้วสองรอบแต่ยังยืนเหนือแนวต้าน 21 บาทไม่สำเร็จอย่างหุ้น NETBAY ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรในแต่ละปียังทำได้ดี และถ้ามองถึงแก่นของธุรกิจที่เป็นผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มแก่พิธีการศุลการ ตรวจสอบลูกค้าให้กับสถาบันการเงิน และบริการรับชำระเงิน จึงเชื่อว่าการย่อตัวลงมาปิด 20.50 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 1.90% ด้วยมูลค่า 71 ล้านบาท เป็นการย่อเพื่อขึ้นใหม่กระมัง!
อีกรายที่เด้งแรงเป็นช่วง ๆ เพราะมีความหวังเกี่ยวกับธุรกิจเหล็กและโซลาร์เซลล์อย่างหุ้น CHOW กลายเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่ขาลุยไม่ควรมองข้าม เพราะในช่วงต้นเดือนยังยืนอยู่ที่ 0.80 บาทแต่มาวันนี้หุ้นยืนอยู่ที่ 1.62 บาทลบไป 0.07 บาท หรือลงไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47 ล้านบาท ผนวกกับอีฉันเห็นว่า หุ้นตัวนี้มี BV อยู่ที่ระดับ 2.66 บาทจึงกลายเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นน่าจะขึ้นไปยืนใกล้ ๆ บุ๊กเท่านั้นเองจ้า!
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น BKA เพื่อชี้ให้เห็นราคาหุ้นอยู่ในลักษณะแกว่งตัวขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น เหมือนเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นว่า เตรียมโชว์ของดีในไม่ช้าหรือเปล่า? บรรดาขาลุยถึงวนเวียนเข้ามาเล่นเป็นรอบ ๆ ซึ่งทำให้อีฉันมองการยืนปิดที่ระดับ 2.08 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 11 เท่า น่าสนใจนะออเจ้า
สำหรับรายที่พาคนไปติดดอยเป็นที่เรียบร้อย “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น DV8 ซึ่งมาด้วยเกมหุ้นล้วน ๆ แถมกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ที่กำลังจะเข้ามาสิงในไม่ช้า ก็ไม่มีใครรู้จักหัวนอนปลายตีนเสียด้วย ส่งผลให้ ตลท.ต้องออกมาดับซ่าด้วยมาตรการขึงพืดหุ้น วานนี้จึงเห็นราคาหุ้นร่วงมากองอยู่ที่ 6 บาท ลบไป 2.60 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25 ล้านบาทแบบนี้..โอกาสลงต่อสูงเหลือเกิน เพราะใครจะกล้าเล่นอีกล่ะคะ
ส่วนรายที่ประหลาดสุดคงมองไปที่หุ้นโลกลืมอย่างหนูนิว NEWS หลังมีวอลุ่มเทรดมากถึง5.61 พันล้านหุ้น (ซื้อขายกันที่ราคา 1 สตางค์ และผลดังกล่าวก็ทำให้หุ้นขึ้นมาติด TOP 5 บนกระดานเอ็ม เอ ไอ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 20 อันดับแรกช่วงเช้าวานนี้ มันกลายเป็นเกมปริศนาที่ทำให้ขาเผือกอยากรู้เหลือเกินว่า กลุ่มไหนเป็นคนโยนหุ้น?และโยนหุ้นกันทำไม?..อิอิอิ
โมนิก้าและทีมงาน