สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป

เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ

โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง จึงหยิบและทำทีว่าเอามาดูเล่น และเมื่อเห็นว่าพระหลับตาอยู่ ก็เอาโทรศัพท์ใส่เข้าไปในเอี๊ยมและพากันเดินออกไป เหตุการณ์ทั้งหมดวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ ทางวัดจึงรวบรวมเป็นหลักฐานและต่อมาหลานชายของพระได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วที่ สน.ราษฎร์บูรณะ

จากการสอบถามหลวงตาสุข ผู้เสียหาย เล่าว่าป่วยมานานแล้ว เดินไปไหนมาไหนไม่ได้และไม่ได้รับกิจนิมนต์มานานแล้ว ตอนเกิดเหตุกำลังนอนอยู่แล้วมีหญิง 2คนเข้ามา ทำทีว่ามาเยี่ยม มาพูดคุย สักพักก็เอ่ยปากขอยืมเงิน แล้วก็บอกกับอาตมาว่า วันนี้จะนำราดหน้ามาถวาย อาตมาก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแถวนี้หรือเปล่า ตอนนั้น รู้สึกเพลียก็เลยเผลอหลับไป แล้วเขาก็ลงมือก่อเหตุตามที่เห็นในกล้องวงจรปิดเลย

ด้านพระโสรพล พระลูกวัดอีกรูป กล่าวว่า อาตมาติดกล้องไว้ที่ห้องหลวงปู่ เพื่อคอยดูอาการ เนื่องจากหลวงปู่ไม่สบาย เป็นโรคลมชักมาตั้งแต่พรรษาที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้น ชักแล้วล้มลงไปตอนกลางคืน ไม่มีคนเห็น มารู้กันอีกทีตอนเช้า ตั้งแต่นั้นมา เลยติดกล้องไว้ พระเล่าด้วยว่าก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ ที่มีคนเข้ามาหาหลวงปู่นั่งรถเก๋งมาและเข้าไปหาในกุฏิ หันไปหันมาเห็นวงจรปิด เลยทำทีเข้าไปบีบนวดที่ขา แล้วกระซิบพูดเบาๆไม่ให้กล้องได้ยินเสียง ใจความว่ามาทำบุญที่วัดแล้วจะขอค่ารถกลับ หลวงปู่ก็หยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิด บอกมีแค่นี้ เพราะไม่สบาย ไม่ได้ออกไปกิจนิมนต์และก็หยิบให้ไป 200 บาท หลังจากนั้น ก็มีอีกเป็นรายนี้ ตอนนั้นมาคนเดียว มาขอยืมเงิน หลวงปู่ก็หยิบกระเป๋าแบบพับขึ้นมาเปิด ซึ่งมี 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งมีเงิน 500 บาท ส่วนอีกฝั่งมี 400 บาท แต่เปิดเห็นแค่ฝั่ง 400 บาท เลยรีบหยิบเงินจากมือไป ได้ไปแค่ 400 บาท แต่ครั้งนั้น ไม่ได้ไปแจ้งความ แต่มาเห็นพฤติกรรมครั้งนี้ ก็คิดว่าปล่อยไปแบบครั้งก่อนไม่ได้แล้ว จึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ.-สำนักข่าวไทย