หนุ่มกัมพูชาลอบเข้าไทย เล่าสิ่งที่เจอหลังโดนเรียกกลับประเทศ
มีรายงานจาก พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ที่ได้สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 และ ร.อ.อาคม มงคลนำ ผบ.ร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว จัดตั้งชุดปฏิบัติการร่วมกองกำลังบูรพา ออกลาดตระเวนตรวจตราตามแนวชายแดนบริเวณบ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายคุมเข้มชายแดนไทย-กัมพูชา
ผลการปฏิบัติพบชายชาวกัมพูชาอายุประมาณ 30 ปี พยายามมุดรั้วลวดหนามชายแดน 3 ชั้น จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามายังฝั่งไทยบริเวณทิศเหนือตลาดโรงเกลือ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในไทย
จากการสอบสวน ชายชาวกัมพูชาคนดังกล่าวระบุว่า เคยทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ในตลาดโรงเกลือ และเคยใช้หนังสือเดินทางท้องถิ่น (บอเดอร์พาส) เข้าออกอย่างถูกต้อง แต่หลังเกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดน และการเปลี่ยนแปลงเวลาเปิด-ปิดด่าน รวมถึงคำสั่งจากรัฐบาลกัมพูชาที่ให้แรงงานกลับประเทศพร้อมสัญญาว่าจะมีงานรองรับ เขาจึงตัดสินใจกลับบ้านเกิด
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าเมื่อลงหลักปักฐานในกัมพูชา กลับไม่มีงานทำตามที่รัฐสัญญาไว้ ต้องอยู่อย่างยากลำบากจนตัดสินใจลักลอบกลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อทำงาน แต่ถูกจับกุมได้ และถูกส่งตัวให้ สภ.คลองลึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก เปิดเผยว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา (4-11 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ทั้งหมด 61 ราย แบ่งเป็นคนไทย 44 ราย และชาวกัมพูชา 17 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย การเปิดบัญชีม้า คดีฉ้อโกง ฟอกเงิน และคดีเทคโนโลยี รวมถึงพบหมายจับจำนวน 6 ราย และกลุ่มผู้มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอีกหลายคน อยู่ระหว่างการขยายผล
เจ้าหน้าที่ฝากเตือนประชาชนให้ระวังการถูกหลอกลวงโดยเฉพาะข้อความชักชวนผ่านเฟซบุ๊กหรือแอปแชทต่าง ๆ ที่มักเสนอ "งานสบาย รายได้ดี" ซึ่งมักพาไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ขอให้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเสมอ