ได้กลิ่นเลือกตั้งโชย ธรรมนัสขอ70ที่นั่ง

ส่อใกล้เลือกตั้ง “ธรรมนัส” สัมมนาพรรค ปลื้มโตไว จาก 4 เป็น 20 ประกาศผมคือคนบ้า กล้าทำ กล้าคิด ลั่นสมัยหน้าต้องมี สส. 70 ที่นั่ง ส่งสัญญาณรบ “สันติ” จ่อตีเพชรบูรณ์ ขู่พังงาเจอถล่มแน่ โม้ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ต้องสยบ ต้องเกรงใจ

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนาพรรคกล้าธรรม ในวันที่ 11-13 กรกฎาคมนี้ว่า เป็นการจัดสัมมนาของพรรคกล้าธรรมครั้งแรก มี สส.และว่าที่ผู้สมัคร สส.ในแต่ละภาคมาแสดงพลังว่าเราพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และเพิ่มความสนิทสนมของสมาชิกพรรค ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เราก็พร้อม ทั้งนี้ การเป็นนักการเมือง โดยเฉพาะหากเป็นสถาบันการเมือง ก็ต้องมีความพร้อม นักการเมืองพร้อมเสมอ ดังนั้นการจัดเวทีสัมมนาครั้งนี้ก็เป็นการประกาศให้สมาชิกพรรคเรารู้ว่าเรามีความพร้อม

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าพรรคประเมินแล้วใช่หรือไม่ว่าอาจจะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมตอบว่า ตามกรอบเวลาอย่างไรก็ไม่เกินปี 2570 ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเวลาแค่หนึ่งปีกว่า ซึ่งมองว่าไม่นาน แป๊บเดียวเท่านั้น ดังนั้นต้องมีความพร้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ซักว่าพรรคกล้าธรรมจะชูยุทธศาสตร์อะไรในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า ร.อ.ธรรมนัสเผยว่า ขณะนี้พรรคเราได้รับมอบหมายให้กำกับ 2 กระทรวงใหญ่ คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นเราจะเน้นเรื่องของคนฐานราก โดยเฉพาะเรื่องการศึกษากับเรื่องของพี่น้องเกษตรกร รวมถึงผู้ใช้แรงงานภาคการเกษตร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งหมดกว่า 50 ล้านคน โดยพรรคกล้าธรรมจะชูวิธีการให้คนเหล่านี้พ้นกับดักความยากจน

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวเปิดงานเสวนา สส.และสมาชิกพรรค หัวข้อ “DARE TO DO คนกล้าลงมือทำ” ว่า ไม่คิดว่าครอบครัวของเราโตไว มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองของจริง หลายคนถามว่าเรามาทำอะไรกัน หลายคนสงสัยว่าจะมีการเลือกตั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่ ตั้งแต่เช้าตนได้รับโทรศัพท์ว่าวันนี้พรรคกล้าธรรมทำอะไรที่พัทยา

"ผมตอบว่าเรามีความพร้อมที่สุดที่จะรับใช้ประชาชน ครอบครัวของเราเริ่มจากในสภา มีพี่น้อง สส. 4 คน ที่กล้าเข้าไปอยู่ในพรรคกล้าธรรม ทั้ง 4 คนก็ไม่รู้ว่าในอนาคตพรรคกล้าธรรมจะไปถึงไหน แต่เมื่อนำร่องแล้วก็ตามมาอีก 20 คน และตามมาเรื่อยๆ อย่างที่หัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้ ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดี แม้หัวหน้าพรรคไม่อยู่ แต่เรามีผู้หลักผู้ใหญ่ มีประธานยุทธศาสตร์พรรค เลขาธิการพรรค และรัฐมนตรีทั้งสองคน"

ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมกล่าวว่า อยากฝากความเชื่อมั่นให้ทุกคนที่มาวันนี้ ได้พูดปากต่อปากที่เรามีตัวแทนทั้ง 77 จังหวัด ครอบครัวของเราสมบูรณ์ ไม่กล้ามีพรรคไหนจัดเหมือนพรรคกล้าธรรม ทำให้ดี ทำให้เวอร์ไว้ก่อน พรรคนี้คนปกติอยู่ไม่ได้ เพราะคนปกติคิดมาก ฉลาดมาก ละเอียดมาก อยู่ไม่ได้ เพราะพรรคนี้จะเป็นพรรคที่กล้า กล้าทำเพื่อประชาชน

คุยวงภาษีทรัมป์พูดเยอะสุด

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวอีกว่า พวกเราไป จ.สกลนคร มีคนถามว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่จะเป็นอย่างไร เพราะเป็นมือใหม่ จะทำอะไรให้เกษตรกร ตนอยู่กระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่ปี 62 ไม่ต้องอ่านสคริปต์ รู้ว่าจะตอบชาวบ้านอย่างไร

“เวลาพูดแล้วคำพูดคือนายผม พูดแล้วต้องรับผิดชอบ พูดแล้วต้องทำให้ได้ พี่น้องข้าราชการสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ต้องสยบ ต้องเกรงใจ ทำงานด้วยให้เราด้วยหัวใจ ใช้หัวใจใส่สมอง ทำงานไม่ใช่ให้สมองสั่งใจ เวลารัฐมนตรีเกษตรฯ ไปตรวจราชการ ปลัดอธิบดี เขาจะเดินตาม เขาให้ใจ ครอบครัวกล้าธรรม กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ จนถึงปัจจุบันก็ยังดูแลอยู่"

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่ามองว่าประเทศไทยจะเจริญมั่นคงด้วยอุตสาหกรรม ตนพูดทุกเวทีว่าจีดีพีรวมของประเทศ มองภาคอุตสาหกรรมมากเกินไป พอย้ายฐานการผลิตเราก็ดิ่งลงเหว หากฐานรากไม่มีหนี้ก็จะทำให้จีดีพีขึ้น ตนในฐานะกูรู ผู้ที่คลุกคลีกับเกษตรกร วันนี้ในการประชุมทีมไทยแลนด์ กับทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ก็เชิญตนไปคุยภาษีทรัมป์ที่บ้านพิษณุโลก และตนก็เป็นคนพูดเยอะที่สุด ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่ตนรู้เยอะ รู้มาก คลุกคลีกับความเป็นจริงของเกษตรกรคนฐานราก พูดว่าเราจะรับปากใครไม่ได้ เกษตรกรตายหมด แต่บางสินค้าไม่กระทบกับเรา ไม่เกี่ยวกับเกษตรกร ให้นำเข้ามาเลย ไม่ใช่อาชีพหลักของเรา แต่ถ้าเป็นหมูเห็ดเป็ดไก่วัวนำเข้ามาก็เจ๊ง เกษตรกรจะอยู่อย่างไร ที่เรากลัวแล้วไปแก้ผ้าให้เขาเอาอย่างเวียดนาม เจอไป 20% สหรัฐไม่ลดให้ ถ้าคนรู้จริงจะกล้าพูดว่าทำไม่ได้ ทั้งนี้ การเจรจาบ้านพิษณุโลกวันนี้ ไม่ให้ใครยอมทุกเรื่อง การตกลงท้ายที่สุดจะจบที่สภา ถ้าสภาไม่เห็นชอบต่อสนธิสัญญาเหล่านี้ก็พับไป ทุกอย่างให้จบที่สภา พรรคกล้าธรรมต้องกล้าคิด ต้องเอาความคิดไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ คือคนฐานราก

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เรามี สส.อย่างไม่เป็นทางการกว่า 30 ชีวิต วันนี้เราได้แค่นี้ การเลือกตั้งครั้งต่อไปตนเชื่อว่าเจ้าที่เจ้าทาง เพราะสมัยที่พรรคพลังประชารัฐอยู่อาคารปานศรี (ที่ทำการพรรคกล้าธรรมปัจจุบัน) มี สส. 121 คน พอย้ายไปตึกนายสันติ พร้อมพัฒน์ เหลือ 40 คน และตอนนี้เหลือ 18-19 คน ไม่รู้จะมาอีกเมื่อไหร่ ที่นี่ทำเลดี เป็นชัยภูมิดี

ฟุ้งเลือกตั้งกวาด 70 ที่นั่ง

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคกล้าธรรมจะมากกว่า 70 ชีวิต สิ่งสำคัญที่สุด ผู้แทนฯ แต่ละจังหวัดของพรรคกล้าธรรมมีความพร้อมทุกเรื่อง นโยบายดีๆ ที่กำลังจะวางยุทธศาสตร์ ตนเชื่อว่าที่ น.อ.อนุดิษฐ์ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่คนธรรมดา เป็น สส.กี่สมัย มาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค จะนำเรื่องนโยบาย ตนไม่มีความกังวล ตนเป็นคนบ้า จะนำพาให้ชนะการเลือกตั้ง การเลือกตั้งที่จังหวัดนครศรีธรรมราชครั้งที่ผ่านมา ตนไปวันแรกกลับมาเอามือก่ายหน้าผากตัวเองแล้วคิดว่าแพ้แน่ เหนื่อย เพราะเขาจ่ายน้ำลงไปแต่ละบ้าน แต่เราไม่ทำเลย เขามีความพร้อมทุกอย่าง ไม่ใช่ยิงกระสุน แต่เราไม่มีความพร้อม ตนใช้เวลาตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. มีเวลา 10 วัน เราชนะ อย่างนี้เราธรรมดาไหมล่ะ ถ้าเป็นมวยเราเป็นรอง แล้วเจอความบ้าของธรรมนัส เจอความบ้าของหลายคนเราชนะเป็นหมื่น

“หลายคนที่นั่งอยู่ตรงนี้คิดถูกแล้วที่เดินเข้ามาสู่ครอบครัวพรรคกล้าธรรม วันนี้เรามีตั้งแต่ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา กระบี่ พังงา ถล่มแน่ ไม่ดูสภาพตัวเองเลยว่าเนี่ยเหรอเป็นผู้นำ ยังขอสตางค์ผมใช้อยู่เลย นราธิวาสเรามีความพร้อมที่สุด ส่วนนราธิวาสทั้ง 5 เขต ถ้าไม่มาในเที่ยวหน้า ตกงาน ฝากไปถึงนายสันติด้วยว่า เพชรบูรณ์ 6 เขต อย่าคิดว่าไม่กล้า”

เขากล่าวว่า สำหรับภาคตะวันออก ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ขอมอบให้นายอิทธิ ศิริลัทธยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลภาคตะวันออก เฟ้นหาผู้สมัครส่วนภาคอื่นเรามีความพร้อม ภาคเหนือตนกำกับดูแลเอง ไม่ต้องห่วงสมัยหน้าตนไม่ลงแค่ 2 เขต จะไปลุยกับทุกคน วันนี้ (11 ก.ค.) ประกาศเลยว่า พรรคกล้าธรรมคือพรรคที่มีความพร้อม กล้าคิด กล้าทำ เพื่อพี่น้องประชาชน

ร.อ.ธรรมนัสเผยว่า ในปัจจุบันพรรคกล้าธรรมมี 2 อดีตกับเลขาธิการพรรคปัจจุบัน ตนมั่นใจว่าจะนำพรรคกล้าธรรมในสมัยหน้าเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน เลือกตั้งครั้งหน้าเชื่อว่าผู้สมัครของพรรค โดยตอนนี้ที่ จ.มุกดาหาร นายก อบจ. เป็นของพรรคกล้าธรรม 2 เขตในการเลือกตั้งสมัยหน้าเรามีความพร้อมสุด จ.แม่ฮ่องสอน ตอนนี้เรามี สส. 1 คนแล้ว ซึ่งหากนายวิทยา หวานซึ้ง อดีตผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยในครั้งที่แล้วมาอยู่ใต้ร่มเงาธรรมนัส ป่านนี้เป็น สส.ไปแล้ว แต่ครั้งที่แล้วไปลงในนามพรรคอื่น ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เราปักหมุดได้เลยว่า 2 เขตเป็นของพรรคกล้าธรรมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมี จ.พะเยาอีก 3 เขตเป็นของพรรคกล้าธรรม จ.กำแพงเพชรอีก 4 เขตก็เป็นของเรา จ.ตาก 3 เขตก็เช่นกัน

สส.บ้านนอกโต้ 'ไอติม'

“และเดี๋ยวจะมีการเข้าไปตีที่ จ.เพชรบูรณ์ด้วย อย่าคิดว่าจังหวัดเพชรบูรณ์ 6 เขตผมจะตีไม่ได้ ฝากไปบอกด้วย จ.ขอนแก่น 8 เขตก็เป็นของเราอย่างแน่นอน ส่วน จ.นราธิวาส 5 เขต ผมก็เชื่อว่าเป็นของเราอย่างแน่นอน จ.สุราษฎร์ธานี 6 เขต เราปักหมุดเอาทั้ง 6 เขต รวมถึงสงขลา มุกดาหาร กาฬสินธุ์ บึงกาฬ ราชบุรี และสระบุรี รวมถึงโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ พรรคกล้าธรรมสามารถปักหมุดได้ในหลายจังหวัด วันนี้เราพร้อมที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ด้านนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวว่า มั่นใจตามที่ ร.อ.ธรรมนัสพูด เพราะเรามั่นใจว่ามีคนดีๆ มาสมัคร ให้เราได้คัดเลือก เราจะทำให้เต็มที่ ซึ่งผลจากการกระทำของเราทั้งหมดก็จะตัดสินในวันเลือกตั้ง ตนมีความมั่นใจมากๆ ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสระบุว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น มองว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีสมาชิกจากพรรคการเมืองอื่นมาซบเพิ่มเติมหรือไม่ นายไผ่ตอบว่า เห็นนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่าพรรค กธ.ไม่เคยได้รับเสียงโหวตที่ผ่านการเลือกตั้งมาเลย แต่มี สส.เข้ามาเพิ่ม ซึ่งขอชี้แจงว่า เราอยู่กันเป็นกลุ่มทางการเมือง ที่ตนหาเสียงก็หาเสียงเป็นตัวบุคคล ชาวบ้านเขาเลิกถามเรื่องพรรคแล้ว ซึ่งนายพริษฐ์อาจจะไม่ทราบ เพราะอยู่แต่ใน กทม. เลยอาจไม่รู้ว่า สส.บ้านนอกอย่างตนทำงานแบบไหน จึงอยากจะชักชวนไปดูที่กำแพงเพชรบ้าง

เมื่อถามว่า พูดแบบนี้จะเป็นการสร้างศัตรูทางทางการเมืองเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า ตนพูดความจริง มันไม่ได้ผิดอะไร.