‘ทักษิณ’ ต้นเหตุประเทศตีบตัน ดิ้นขอ ‘ดีลใหม่’ หวังหาทางรอด
บนความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ใจกลางปัญหา และมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงหรือเกิดวิกฤตจนถึงทางตัน
ทักษิณ กล่าวบนเวที งาน 55 ปี เนชั่น Exclusive Talk ผ่าทางตันประเทศไทย เป็นแบบแผ่นเสียงตกร่อง โทษขาประจำ โทษรัฐประหาร ไม่สำนึกผิดในการกระทำของตัวเอง
หากย้อนไปช่วง ทักษิณ เป็นนายกฯ ครั้งแรก ปี 2544 ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ซึ่งถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่เป็นประชาธิปไตยที่สุด มาจากการเรียกร้องของประชาชนชูสัญลักษณ์ "ธงเขียว" มุ่งหมายให้มีนายกฯ-รัฐบาลที่เข้มแข็ง มีองค์กรอิสระติดตามตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
แต่ทักษิณกลับใช้อำนาจที่รัฐธรรมนูญเป็นฐานรองรับ ทำลายเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญจนพังทลาย ด้วยการแทรกแซงองค์กรอิสระ คอร์รัปชันเชิงนโยบายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ อุ้มฆ่าในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลไกการตรวจสอบกลายเป็นเป็ดง่อย ประชาชนที่ รู้จักทักษิณ จึงลงถนนเดินขบวนต่อต้าน ขณะที่ทักษิณก็ปลุกมวลชนตัวเองออกมาสนับสนุน การเมืองถึง ทางตัน ทหารเข้ามายึดอำนาจถึง 2 ครั้ง
รัฐบาลปัจจุบันพยายามจะแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลตาม MOU 44 กับกัมพูชา แบบ 50:50 เปิดบ่อนกาสิโน-พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ขณะที่ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปล่อยคลิปที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โทร.ไปเจรจาเรื่องเปิดด่าน และกล่าวหาแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของชาติ ประชาชนเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก แต่ไม่ลาออก จึงลงถนนร่วมชุมนุมแสดงพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย
เมื่อมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ และมีการสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพื่อรอคำตัดสินจะถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่กลับใช้เทคนิคทางกฎหมายปรับ ครม.แล้วไปนั่ง รมว.วัฒนธรรม เข้าประชุม ครม.ได้เหมือนเดิม ไม่สนใจหลัก จริยธรรม และ นิติรัฐ ส่วนการมอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า รักษาการนายกฯ ยุบสภาไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลพยายามบอกว่ายุบสภาได้
อย่างไรก็ตาม ทักษิณ ยืนยันว่ายังไม่ถึงทางตัน และมีหลายออปชัน คือนายกฯ แพทองธารรอด ก็กลับไปทำงานเหมือนเดิมเต็มที่ ผลักดันนโยบายต่อ ถ้าสมมติว่าไม่รอด มีทางเลือก 2 อย่าง คือ เสนอ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ หรือยุบสภา แต่หากยุบสภาก็จะมีผู้ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยอีกว่ารักษาการนายกฯ ยุบสภาได้หรือไม่?
ทักษิณ ยืนยันด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใด เขายังอยู่เป็น สทร.-เสือกทุกเรื่อง เพราะรักบ้านเมือง เมื่อถามย้ำว่าจะมีบทบาทการเมืองมากขึ้นหรือ นายทักษิณ บอกว่า"ผมต้องทำงานให้บ้านเมือง จะให้ผมทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ถ้าผมไม่เสือก ใครจะเสือก มันยาก วันนี้ปัญหาบ้านเมืองอย่างนี้ ผมอยู่เฉยไม่ได้ ผมเป็นอดีตนายกฯ ลูกเป็นนายกฯ ก็ต้องช่วยกัน ยังออกนอกประเทศไปเจรจาไม่ได้ เพราะถูกล่ามขาไว้"
ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ ที่บ้านพิษณุโลก มีการประชุมทีมไทยแลนด์ร่วมกับทีม ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งไทยถูกเก็บที่ 36% เท่าเดิม ปรากฏ ทักษิณ เข้าร่วมประชุมวงดังกล่าวด้วย
เกิดคำถามว่า ทักษิณ เข้าประชุมในฐานะอะไร แม้จะเป็นพ่อนายกฯ แต่การเข้าร่วมตัดสินทางนโยบายรัฐบาล เป็นการแทรกแซงอำนาจรัฐโดยไม่มีตำแหน่งทางการเมือง หากเกิดความเสียหายต่อส่วนรวมก็ไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมืองแต่อย่างใด
แต่ก็จะถูกร้องเรียนว่าเป็นความผิดตามมาตรา 28 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ที่กำหนดห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้ามาควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรคหรือสมาชิกพรรคไม่เป็นอิสระทั้งทางตรงและทางอ้อม และมาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองฯ
ยิ่ง ทักษิณ แสดงบทบาท สทร. เป็นนายกฯ ตัวจริง ชี้นำ-บงการรัฐบาลชัดเจนมากขึ้น ก็ยิ่งประจานบุตรสาวตัวเองว่าเป็นแค่ เด็กฝึกงานทางการเมือง รัฐบาลก็เหมือนเป็ดง่อย
ส่วนการเล่าเรื่องคลิปว่า น.ส.แพทองธารบอกพ่อว่าจะไป รร.โรสวูดเพื่อไปพบกับนายฮวด ล่ามชาวกัมพูชา โดยนายฮวดจะต่อสายให้นายกฯ ได้คุยกับฮุน เซน โดยที่ฝ่ายฮุน เซน เองเป็นฝ่ายที่อยากหารือกับไทย จึงเชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมขณะนั้น รวมถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ และพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อรอรับสายจากฮุน เซน แต่ฝ่ายไทยรอสายเกือบ 3 ชั่วโมง ฮุน เซน ก็ยังไม่โทร.มา และอ้างว่าหลับ จึงบอกให้นายกฯ และคณะกลับ แล้วฝ่ายฮุน เซนก็โทร.เข้าโทรศัพท์มือถือส่วนตัว จึงสงสัยว่าฝ่ายกัมพูชาเตรียมอัดเสียง
แต่เรื่องเล่าเพื่อปกป้องบุตรสาวกลับสวนทางกันที่บอกว่าโทร.ไปเอง และถูกวิจารณ์ว่าใช้โทรศัพท์ส่วนตัวเจรจาความต่างประเทศผิดระเบียบปฏิบัติ ซึ่งคงจะถูกซักถามในศาล รธน.ว่าจริงเท็จประการใด
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ตั้งข้อพิรุธกับการเคลื่อนไหวของทักษิณ ที่บังเอิญเกิดขึ้นในวันเดียวกัน ทั้งถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือบ่อนกาสิโน โชว์วิสัยทัศน์เวทีโอท็อป ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และแสดงความเห็นผ่าทางตันการเมือง หลังจากคลิปอุ๊งอิ๊ง-ฮุน เซน หลุดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เป็นเวลากว่า 20 วัน ทักษิณจึงรุกกลับรุนแรงเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ประกาศตัดความสัมพันธ์พี่น้องกว่า 30 ปีกับฮุน เซน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่น่าสงสัยว่าได้จัดวาง เตรียมการและจัดฉากที่สมจริงสมจังมากที่สุด
“ถ้าฮุน เซนเงียบ จึงน่าสงสัยว่าการถอนร่างกาสิโนเป็นการแลกเปลี่ยนอะไรหรือไม่?"
จตุพร-อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เคยเป็นแม่ทัพคนเสื้อแดง ชุมนุมต่อต้านคณะรัฐประหาร ปกป้องระบอบทักษิณ เคยไปสุมหัวที่่กัมพูชากับแกนนำเสื้อแดง รวมทั้งนายทักษินด้วย โดยมีฮุน เซน คอยต้อนรับขับสู้ จนต้องออกมาทวงบุญคุณกัน จตุพรย่อมรู้ดีว่าที่ฮุน เซน ขู่ว่า มีหลักฐานทักษิณหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มีนัยอย่างไร?
จากเหตุการณ์ทั้งหมดบ่งบอกว่า ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทุขึ้นมาจากความขัดแย้งส่วนตัวของครอบครัวสองตระกูล "ฮุน-ชิน" โดยมีประเทศชาติเป็นตัวประกัน โดยเฉพาะความขัดแย้งเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลในพื้นที่ทับซ้อน และธุรกิจสีเทา การเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ธุรกิจสีเทาในปอยเปตคือท่อน้ำเลี้ยงของผู้มีอำนาจในกัมพูชา เมื่อผู้มีอำนาจสองฝั่งขัดแย้งกัน รัฐบาลนี้จึงเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย นายก๊ก อาน คนใกล้ชิดฮุน เซน จึงต้องจับตาต่อไปว่าความขัดแย้งของ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด จะลงเอยอย่างไร เพราะการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
เช่นเดียวกับความขัดแย้งของการเมืองไทยที่ยืดเยื้อ ทำให้ทักษิณหนีออกนอกประเทศ กลับมาโดยไม่ยอมติดคุก ขณะที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไต่สวน คดีป่วยทิพย์ ชั้น 14 ใกล้จะปิดคดีและนัดฟังคำตัดสิน ซึ่งมีแนวโน้มเป็นลบกับทักษิณ รวมทั้งคดี ม.112 เช่นเดียวกับคดีคลิปลุงฮุน แพทองธาร ก็ไม่น่าจะรอด!
ทักษิณ จึงเดินเกม เปิด ดีลใหม่ ต่อรองกับ กลุ่มอนุรักษนิยม โดยกล่าวบนเวทีว่า “การจะทำงานกับใคร ต้องไม่ขัดนโยบายหลักๆ โดยเฉพาะสถาบัน” "ผมไม่ได้เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง เชื่อว่าทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้เยอะ" ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็พลิกหนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมือง โดยไม่นิรโทษฯ คดี ม.112
การเปลี่ยนจุดยืนตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ไม่นิรโทษฯ ม.112 ก็เพื่อแลกกับการให้พรรคเพื่อไทยได้ครองอำนาจ หวังให้ทักษิณพ้นผิดจากคดีที่เป็นชนักติดหลัง แต่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ฝ่ายประชาธิปไตยที่ต่อสู้กับชนชั้นอำมาตย์ กับความอยุติธรรม เป็นต้นทุนที่สั่งสมมาเสื่อมสลายหมดสิ้น มวลชนที่เคยเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กก็หดหายไปเรื่อยๆ เหลือแต่พวกนายแบก-นางแบก กับพวกที่เกาะขาหวังผลประโยชน์ตัวเอง
การขับเคลื่อนของทักษิณวนเวียนอยู่กับการเจรจาต่อรองเพื่อตัวเอง เหมือนพ่อค้าที่ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ มีประเทศเป็นตัวประกัน ไม่ได้คิดปฏิรูปประเทศเพื่อนำพาบ้านมืองออกจากทางตัน ประชาชนทั่วไปหมดความอดทน ฐานเสียงของตัวเองยังบ่นว่าภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่
ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรค พปชร. 21 คน ส่วนใหญ่เป็นอดีต สส.พรรคเพื่อไทย ย้ายมาซบ พปชร. เพราะมองเห็นว่ากระแสพรรคเพื่อไทยตกต่ำอย่างไม่เคยปรากฏ คนในพรรคก็รู้ดีว่า นายน้อย ทำให้พรรคตกต่ำ แต่ก็ต้องทนแบกกันต่อไป
เมื่อ ทักษิณ ถูกต้อนเข้ามุมอับ จะไม่ยอมจนมุมง่ายๆ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ตัวเองพ่ายแพ้ เมื่อครั้งการชุมนุมของคนเสื้อแดงประกาศว่า เมื่อตัวเองไม่มีความสุข ก็อย่าหวังว่าประเทศจะมีความสุข ช่วงวันที่ 10 พ.ค.2553 แกนนำ นปช.เจรจากับตัวแทนรัฐบาลเป็นที่ยุติแล้ว ตกลงรัฐบาลจะยุบสภาใน 6 เดือน แกนนำเตรียมจะสลายการการชุมนุม บางคนออกจากเวทีไปแล้ว แต่ ทักษิณ ไม่ยอม บอกว่า "ผมได้อะไรวะ ผมไม่ได้อะไร" แล้วสั่งให้แกนนำ นปช.บางคนยึดเวทีม็อบชุมนุมต่อ ก่อนที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้ากระชับพื้นที่ มีคนล้มตาย 99 ราย (รวมเจ้าหน้าที่ด้วย)
จึงต้องจับตาว่า คดีป่วยทิพย์ ชั้น 14-ม.112-คลิปเสียงลุงฮุน ที่กำลังต้อนทักษิณกับบุตรสาวเข้าสู่ คิลลิงโซน จะทำให้ทักษิณดิ้นออกจากวงล้อม แล้วทำให้การเมืองไทยวิกฤต ถึงทางตันอีกหรือไม่?.