พท.โต้แจกกล้วย8หลัก

เพื่อไทยดาหน้าปฏิเสธแจกกล้วยงูเห่าภูมิใจไทย ประธานวิปรัฐบาลยัวะ! ย้อนในอดีตภูมิใจไทยเป็นงูเห่าหรือเปล่า ลั่นผู้แทนไม่ใช่ทาส ยันคุมเสียงปริ่มน้ำได้ “ธรรมนัส” มั่นใจรัฐบาลไปรอด เผย “กล้าธรรม” มีสิทธิเสนอชื่อคนนั่งรอง ปธ.สภาฯ มอบเลขาฯ พรรคไปคุยพรรคร่วมฯ เผยมีความเป็นไปได้ "อนุทิน" กลับเข้าร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ระบุคาดไม่ถึงว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีงูเห่า แต่รู้ค่าตัว 8 หลัก เติมเสียงให้รัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำว่า ในอดีตที่เขาไปอยู่พรรคภูมิใจไทยเป็นงูเห่าหรือไม่ ช่วงหนึ่งที่ไปหาพรรคภูมิใจไทย ในสมัยที่พรรคเพื่อไทยไหลไปพรรคภูมิใจไทยเยอะแยะ เป็นงูเห่าหรืองูเขียว ตอนนี้ สส.พรรคภูมิใจไทยที่มา เป็นงูเห่าหรือเป็นเอกสิทธิ์ของเขา

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า บางคนมองว่าการใช้สิทธิ์ในการลงมติในสภาเป็นเอกสิทธิ์ สส. 3 คนของพรรคภูมิใจไทยเขาอาจมีความคิดว่า สิ่งไหนที่เขาจะทำเราไปบังคับจิตใจเขาไม่ได้ว่าต้องอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นเอกสิทธิ์ วันนี้ สส. 3 คนจะไปว่าเขาเป็นงูเห่าทำไม

“ตอนที่เขาไปพรรคภูมิใจไทย เรียกว่าอะไร อุดมการณ์หรือไง ตอนที่หนีไปอยู่พรรคคุณยุคหนึ่งจำได้ไหม กลับไปดูหน่อย อันนั้นเป็นอุดมการณ์หรือไม่ที่ย้ายไปอยู่พรรคคุณ พอมาลงคะแนนให้รัฐบาลเป็นงูเห่าเหรอ ในฐานะที่เป็นวิปรัฐบาลผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร แต่ผมเชื่อว่าเขามาด้วยเอกสิทธิ์ สส. คนเป็นผู้แทนฯ ไปบังคับเขาไม่ได้หรอก เป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของผู้แทนฯ 3 คนอาจจะคิด หรืออยากเห็นรัฐบาลไปต่อ ก็เป็นเอกสิทธิ์ของเขา อย่าไปบังคับเขาเลย ผู้แทนฯ ไม่ใช่ทาส”

ผู้สื่อข่าวถามว่า วิปรัฐบาลจะคุมเสียงอย่างไร เพราะขณะนี้ถือว่าเสียงปริ่มน้ำมาก ประธานวิปรัฐบาลตอบว่า เรายอมรับว่าเป็นสภาที่มีเสียงปริ่มน้ำในข้อเท็จจริง แต่หากทุกคนมาสภาก็ผ่านได้ วันนั้นยอมรับว่ามีรัฐมนตรีบางท่านเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ และมีประชุมในห้องกรรมาธิการต่างๆ ดังนั้นจึงต้องบอกประธานในที่ประชุม อย่างน้อยๆ การจะเรียกคนทั้งหมดลงมาอาจจะใช้เวลาซักครึ่งชั่วโมง ควบคุมได้อยู่ ถ้ารัฐมนตรีทุกคนมาประชุมที่สภา เหตุการณ์อย่างนี้ก็ไม่น่ากังวลอะไร ถ้าทุกคนรับผิดชอบต่อสภา เชื่อมั่นว่าจะฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ไม่มีปัญหา

นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวแกนนำพรรคเพื่อไทยนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและ สส.รับประทานอาหารในวันที่ 22 ก.ค.นี้ว่า มีการพูดคุยกัน มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ สส.มีโอกาสได้ไปทานข้าว คุยกันบ้าง ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทำความรู้จักกัน

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องภายในของพรรคภูมิใจไทย และดูเหมือนว่ายังมีความเห็นในทิศทางที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เพิ่งออกมาขอว่าอย่าด่วนเรียก 3 สส.ภูมิใจไทยว่าเป็นงูเห่า หลังโหวตสวนมติพรรคร่างเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ คนติดตามข่าวอาจสับสน ไม่รู้ว่าจะฟังความเห็นของนายภราดรหรือนายไชยชนก ที่แตกต่างกันชนิดหนังคนละม้วน ให้ความเห็นกันไปคนละทิศคนละทาง สังคมอาจอยากเห็นว่าที่สุดบทสรุปเรื่องนี้จะออกมาในทิศทางใด

สมัยไทยรักไทยเห็นอะไรมาเยอะ

เขากล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่าไม่มีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนเพิ่ม และพยายามจะทดแทนปริมาณเสียงที่น้อยลงด้วยคุณภาพที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคการเมืองที่เคยดูดหรือซื้องูเห่าระดับชำนาญการพิเศษในเรื่องนี้ วันนี้กำลังประสบปัญหานั้นเสียเองหรือไม่ เชื่อว่าประชาชนตัดสินใจได้ จากนี้ไปฝ่ายค้านต้องคิดให้ดีที่จะขอนับองค์ประชุม เพราะนอกจากสภาจะไม่ล่มเพราะ สส.รัฐบาลทำงานเข้มแข็งพร้อมรับการนับองค์ประชุมทุกเมื่อ แต่ฝ่ายค้านต้องไปตรวจสอบกันเองว่าจะคุมเสียงโหวตให้ไปในทิศทางเดียวกันตลอดได้อย่างไร

“ก่อนที่คนในพรรคภูมิใจไทยจะไปโวยวายคนนอกพรรค ควรตรวจสอบภายในพรรคตัวเองก่อนว่าปัญหาของการควบคุมเสียงภายในพรรคตัวเองไม่ได้นั้นเกิดจากสาเหตุใด” นายอนุสรณ์ กล่าว

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ว่า เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน ส่วนเรื่องเสียงพรรคร่วมรัฐบาลปริ่มน้ำ ได้หยิบยกชี้ให้เห็นว่ายุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนั้นก็เสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนเองได้คุมเสียงในสภาไม่มีปัญหาอะไรผ่านมาได้ หากพรรคร่วมรัฐบาลสามัคคีและนำตัวเลขมาคุยกัน เชื่อว่าองค์ประชุมจะรอดไปได้

“ถ้าคนอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน เริ่มมาตั้งแต่ปี 2541 สมัยพรรคไทยรักไทยเห็นอะไรมาเยอะ สถานการณ์การเมือง ณ เวลานี้ ผมอยู่วงในผมรู้ รู้ว่าสถานการณ์การเมืองตอนนี้เอาอยู่หรือไม่เอาอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรากับพรรคร่วมฯ จะต้องคุยกัน ถามว่าสถานการณ์อย่างนี้มีเสถียรภาพหรือไม่ มันอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาล ถ้าจับมือกันก็มีเสถียรภาพ” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรค กธ.จะเสนอบุคคลดำรงตำแหน่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พรรค กธ.มีสิทธิ์เสนอ โดยจะให้ สส.ในพรรคหารือกันเรื่องนี้ เพราะพรรคมีความเป็นประชาธิปไตย 100% ที่ต้องถามเสียงส่วนใหญ่ โดยมอบหมายเลขาธิการพรรค กธ.ไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนักการเมืองด้วยกัน ได้คุยเหมือนเดิมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่างที่เห็นภาพในสภา ก็มีแต่พูดคุยเหมือนเดิม และไม่เคยสร้างศัตรูทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล

ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร

ถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่า การจะดึงพรรคภูมิใจไทยกลับมา มีความเป็นได้ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ยอมรับว่า ทุกอย่างการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีมิตรแท้และไม่มีศัตรูที่ถาวร ด่ากันในสภาออกมาก็กอดคอกัน อย่าคิดมาก

ซักว่าหากมองสถานการณ์การเมืองขณะนี้ นายอนุทินมีโอกาสหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การเมืองในตำแหน่งผู้นำจะมีโอกาสหรือไม่มีโอกาสอยู่ที่เสียง สส.หรือโหวตเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ก็มีโอกาสทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการรองรับกรณีอุบัติเหตุทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมตอบว่า วันที่นัดพรรคร่วมรัฐบาลหารือกันคงต้องคุยกันในเรื่องนี้ และย้ำว่าในฐานะที่ดูแล สส.กว่า 30 คน ต้องรักษาเสียงให้เต็มตลอดเวลาในการโหวตทุกครั้ง อย่างการโหวตในวันพุธที่ผ่านมา เสียงพรรค กธ.เต็มทุกครั้ง ไม่มีขาด

เมื่อถามว่า การเมืองยังไม่ถึงทางตันใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสเผยว่า ถ้าประสบการณ์ที่ทำการเมืองมา เสียงปริ่มน้ำเป็นเสียงที่เตือน สส.ว่าต้องพร้อมในการโหวตเรื่องทุกวาระ ไม่น่ามีปัญหาถ้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคกำชับเสียง เมื่อถามว่ามีโอกาสเปลี่ยนขั้วการเมืองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรที่แน่นอน

ถามถึงเสียงของรัฐบาลในตอนนี้มีเท่าไหร่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า 260 เสียง ส่วนที่ไม่เป็นทางการนั้น ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าเท่าที่พยากรณ์เสียง สส.ฝ่ายค้านที่ออกไปมีโอกาสกลับมาหนุนรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่างที่เห็น อย่าให้ตนพูดมาก เมื่อถามย้ำว่าอาจจะมีมามากกว่า 3 คนล่าสุดที่โหวตให้รัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่แน่ การเมืองไม่แน่นอน เมื่อถามว่าเป็นในส่วนที่พรรค กธ.ดีลมาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ใช่ เที่ยวนี้จะสังเกตเห็นว่าตนหาย ไม่ได้ซุ่มไปทำอะไร แต่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ

ส่วนนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลเรื่องโควตารองประธานสภาฯ คนที่ 2 ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ซึ่งจะมีการนัดรับประทานข้าวกัน ซึ่งคงจะมีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า พรรค กธ.จะยืนยันเสนอชื่อรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ใช่หรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เราย้ำเสมอว่าเราจะไม่เรียกร้องอะไร ใช้การพูดคุยกัน แม้เราจะมีความพร้อม แต่ถ้าได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ และยืนยันว่าเรามีบุคคลที่มีความสามารถเยอะอยู่.