‘เฮลท์แคร์ 2025’ คึกคัก A Better Life รุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ รักสุขภาพ
“สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.กระทรวงสาธารณสุข เปิดงาน “Thailand Healthcare 2025” ปีที่ 17 “เครือมติชน” แท็กทีมพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน บรรยากาศคึกคัก สมมงงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ ประชาชนทุกช่วงวัยทั้งรุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ ตื่นตัวร่วมงานแน่นสามย่านมิตรทาวน์ แห่เข้าคิวตรวจสุขภาพ ไฮไลต์บริการฟรี 3 เมืองสุขภาพ 60 รายการจาก 30 โรงพยาบาลชั้นนำ อัดโปรแกรมดูแลกาย-ใจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดงานใหญ่ในปีนี้ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.),
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย, พญ.เสาวณีย์ เกิดดอนแฝก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว, นางเบญญาภา นนทมาลย์ เลขานุการกรม กรมการแพทย์, นายศราวุธ เลิศพลังสันติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ, นายพัชรดนัย แก้วสม ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลกรุงเทพ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และ นางภรณี กนิษฐานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
โดยมี นายปราปต์ บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารจากเครือมติชน ร่วมให้การต้อนรับ
โครงสร้างประชากรคือปัญหาท้าทาย
นายสมศักดิ์กล่าวปาฐกถาพิเศษว่า โครงสร้างประชากรเป็นความท้าทายที่สำคัญของประเทศ ปัจจุบันมีผู้สูงอายุกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่จำนวนเด็กเกิดใหม่ก็ลดน้อยลงทุกขณะ โดยปี 2567 ที่ผ่านมามีเด็กเกิดใหม่ไม่ถึง 5 แสนคน ถือเป็นสถิติใหม่ครั้งแรกในรอบ 70 ปี
จากความท้าทายดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน รวมถึงระบบสุขภาพของประเทศด้วย ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนทุกช่วงวัย เพราะเราตระหนักดีว่า
“คนคือทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ผมจึงมีความยินดีที่ได้มาเปิดงาน Thailand Healthcare 2025 A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย ซึ่งธีมงานในปีนี้ตรงกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งมั่นดูแลสุขภาพของประชาชนตั้งแต่วัยเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ”
นายสมศักดิ์ย้ำว่า วัยเด็กและวัยเรียน เป็นช่วงเวลาสำคัญของการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นรากฐานของการเติบโต ทั้งทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม กระทรวงสาธารณสุขจึงเน้นย้ำในเรื่องการดูแลสุขภาพของแม่และเด็ก เช่น การจัดตั้งคลินิกส่งเสริมการมีบุตร การส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสม แก้ไขปัญหาเตี้ย ผอม อ้วน ในเด็ก การฉีดวัคซีนเอชพีวี (HPV) ป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้แก่เด็กนักเรียนหญิง เป็นต้น
เพราะวัยรุ่นและวัยทำงานเป็นวัยที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบมากขึ้น ต้องเผชิญกับความเร่งรีบ กดดัน อาจก่อให้เกิดวิถีชีวิตที่ไม่เหมาะสม เพราะมีความเครียดและปัญหาสุขภาพมากขึ้น
โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายหลักที่จะแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต ซึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้ผลักดันให้สุขภาพจิตที่ดีเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดให้เดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งสุขภาพใจ
พร้อมตั้งเป้าหมายจัดตั้งศูนย์ให้การปรึกษาสุขภาพจิต 340 แห่งให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการปรึกษาและดูแล ก่อนที่จะเจ็บป่วยทางใจ
ปลุกคนไทยให้ห่างไกล NCDs
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังมุ่งเน้นที่จะทำให้คนไทยห่างไกล NCDs ส่งเสริมการนำแนวคิดเวชศาสตร์วิถีชีวิตมาสู่การปฏิบัติ ซึ่งมีประชาชนได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพไปแล้วกว่า 33 ล้านคน
จากผลการดำเนินงานคลินิก NCDs รักษาหาย พบว่า จากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 120,000 คน มีผู้ที่หายป่วยแล้ว 17,000 คน หยุดยาได้กว่า 8,500 คน ลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 450 ล้านบาทต่อปี
และสำหรับวัยสูงอายุ เป็นช่วงที่ต้องการการดูแลและฟื้นฟู ทั้งร่างกายและจิตใจเป็นพิเศษ นอกจากโรค NCDs ซึ่งพบมากในผู้สูงอายุแล้ว ยังมีความเสี่ยงด้านสุขภาพอื่น ๆ เช่น การมองเห็น สุขภาพช่องปาก การเคลื่อนไหว ปัญหาด้านความคิด ความจำ เป็นต้น กระทรวงจึงต้องเร่งพัฒนาระบบดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงระยะยาวในชุมชน
โดยตั้งเป้าหมายให้มีผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ที่มีคุณภาพและได้รับค่าตอบแทนตามมาตรฐาน อย่างน้อย 15,000 คน ในช่วงปี 2568-2570 และจัดตั้งสถานชีวาภิบาลดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง เพื่อให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้มีโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวง โดยจัดให้มีคลินิกเฉพาะทางด้านต่าง ๆ ไปให้บริการพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ เช่น คลินิกโรคอ้วน, โรค NCDs, ชะลอไตเสื่อม, ต้อกระจกและจอประสาทตา, ตรวจการได้ยิน, ฉีดวัคซีนเอชพีวี, ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่, สร้างความรอบรู้การใช้ยาสมุนไพร รวมถึงการนวดไทย เป็นต้น
ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นทุกเขตสุขภาพ ดำเนินการไปแล้ว 32 จังหวัดทั่วประเทศ มีผู้เข้ารับบริการแล้ว 17 ล้านคน ผมมีความยินดีที่หน่วยงานระดับกรม และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ประชาชน
ตลอด 4 วันของการจัดงานในครั้งนี้ ผ่านกิจกรรมการตรวจสุขภาพเชิงรุก ให้ความรู้จากการเสวนา การแสดงศักยภาพของระบบสาธารณสุขของประเทศในด้านต่าง ๆ ถือเป็นประโยชน์มากต่อพี่น้องประชาชน
ขอขอบคุณและชื่นชมคณะทำงานเครือมติชน และทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนการจัดงานที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในครั้งนี้
“เพราะเชื่อว่า ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน การป้องกันไม่ให้เกิดโรคย่อมดีกว่าการเยียวยารักษาโรค ซึ่งเราสามารถทำได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมและวิถีชีวิตให้เหมาะสม โดยขอให้เริ่มปรับเปลี่ยนกันตั้งแต่วันนี้ เพราะให้เรามีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี”
เทรนด์ใหม่ ‘อภัยภูเบศร’ เอาใจทุกช่วงวัย
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้ผลิตและจำหน่าย “สมุนไพรไทย” ที่ได้มาตรฐานและเป็นแบรนด์ไทยขนานแท้ที่ครองใจคนไทยมาเนิ่นนาน ปีนี้ได้จัดเต็มบูทตรวจสุขภาพและสินค้าสมุนไพรเพื่อสุขภาพมาให้ทุกคนเลือกซื้อในราคาที่จับต้องได้ ส่วนที่ยังขายดีมาตลอด อาทิ ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ฯลฯ
ที่พิเศษและเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงของกลุ่มสมุนไพรไทยในรอบนี้ คือ สมุนไพรที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ โดยเฉพาะ “อภัย-บี กลีบบัวแดง” ตำรับพื้นบ้าน ช่วยให้นอนหลับดี มีงานวิจัยระบุช่วยเสริมความทรงจำด้วย
นอกจากนี้ ยังมีสกินแคร์หรือเครื่องสำอางจากสมุนไพร ที่มีคุณภาพเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ดัง
ที่น่าสนใจ “อภัยภูเบศร” ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานมากขึ้น นอกเหนือจากกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิม เนื่องจากกระแสกลุ่มวัยรุ่นเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการรักษาและใช้สมุนไพรกันมากขึ้น
สามารถเลือกซื้อได้ในราคาพิเศษ พร้อมรับฟรี หนังสือสมุนไพร และต้นสมุนไพร 4 ชนิด ได้แก่ หูเสือด่าง บัวบก หญ้าปักกิ่ง และอัญชัน
งานจัดเต็ม 4 วัน
Thailand Healthcare 2025 จัดใหญ่จัดเต็มตลอด 4 วัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 – วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
งานนี้ได้รับการตอบรับสูงมากจากทุกกลุ่มอายุ โดยมีรุ่นใหญ่มารอคิวตั้งแต่เช้ามืด ขณะที่คนรุ่นใหม่วัยทำงานก็เข้าร่วมลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศคึกคัก ทั้ง 5 โซน โซน A : นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ โซน B : คลินิกเพื่อสุขภาพ โซน C : ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โซน D : เมืองสุขภาพ โซน E : เมืองสาธารณสุข และโซนเวทีกิจกรรม
ส่วนผู้ที่วอล์กอินสามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาสุขภาพได้ฟรี ในโซนเมืองสาธารณสุข อาทิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, กรมควบคุมโรค, สภาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์, โรงพยาบาลราชวิถี และกรมการแพทย์
ไฮไลต์โซน 3 เมืองสุขภาพได้เปิดให้บริการตรวจสุขภาพ 60 รายการ โดย 30 โรงพยาบาลชั้นนำ, จุดตรวจพิเศษตาและฟัน, รถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ มะเร็ง ปอด และฟัน, 30 เวทีเสวนาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีกิจกรรมทอล์กฮีลใจ 2 เวทีเสวนา และเวิร์กชอปงานคราฟต์ พร้อมช็อปสินค้าเพื่อสุขภาพจาก 80 ร้านค้า รวมถึงกิจกรรมเพื่อการกุศล Healthcare Charity 2025
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘เฮลท์แคร์ 2025’ คึกคัก A Better Life รุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ รักสุขภาพ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net