ระทึก! โจรอ้างอยากเท่ วิ่งราวต่อหน้าผบช.น. ตำรวจตะครุบทันควัน
ระทึก! โจรอ้างอยากเท่ วิ่งราวต่อหน้าผบช.น. ตำรวจตะครุบทันควัน อ้างโกนผมเตรียมจะไปบวชเข้าพรรษานี้
เมื่อเวลา 20.15 น. (28 มิ.ย. 2568) ที่บริเวณริมฟุตบาทหน้ากรมแพทย์ทหารบก พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมชายสวมเสื้อสีน้ำเงิน ก่อเหตุกวิ่งราวโทรศัพท์ของนายณรงค์ ชาวจังหวัดอุดรธานีที่เดินทางมาร่วมชุมนุมิที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
โดยระหว่างการเดินกลับจากการตรวจความเรียบร้อยของการชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระหว่างที่เดินทางมาถึง บริเวณริมฟุตบาทหน้ากรมแพทย์ทหารบกปรากฏว่าผู้ก่อเหตุกระชากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายที่กำลังชาร์จแบตอยู่ที่บริเวณป้ายรถเมล์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินผ่านมาพอดีจึงได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อทางผู้ก่อเหตุเห็นท่าไม่ดีจึงโยนโทรศัพท์มือถือที่วิ่งราวมาทิ้ง แต่ทาง พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้เข้าล็อคและจับกุมผู้ต้องหา
จากการซักถามผู้ก่อเหตุคือ นายพงษ์พันธ์ (สงวนนามสกุล) อ้างว่า สาเหตุที่วิ่งราวเป็นการทำเล่นๆ เมื่อเห็นตำรวจเดินผ่านจึงอยากทำเท่ จากการสังเกตุพบว่าลักษณะของผู้ก่อเหตุ โกนผมและโกนคิ้วจึงได้สอบถามว่าเป็นพระหรือไม่ ทางผู้ก่อเหตุอ้างว่า โกนผมเตรียมจะไปบวชเข้าพรรษานี้ ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ
นอกจากนี้ทางตำรวจได้ตรวจสอบภายในกระเป๋าเป้ของผู้ก่อเหตุพบว่ามีแหวนทอง 1 วงบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก จึงได้สอบถามว่าเป็นแหวนของใครทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นแหวนพระที่ได้มาจากวัดพระธรรมกาย ซึ่งจะได้มาก็ต้องเข้าไปบวชมาก่อนเท่านั้น แต่ก็ไม่ตรงกับคำให้การที่ทางผู้ต้องหาให้การกับตำรวจว่ากำลังจะไปบวชแต่ได้แหวนวงนี้มาได้อย่างไร
นอกจากนี้ทาง พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังได้สอบถามว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วกี่ครั้งทางผู้ก่อเหตุบอกว่าประมาณ 10 ครั้ง ส่วนมากจะเป็นการก่อเหตุขโมยเบียร์กระป๋องไม่เคยขโมยของมีค่า นอกจากนี้เมื่อถามว่าตัวผู้ก่อเหตุดื่มสุรามาหรือไม่เจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าดื่มเบียร์มา 1 ขวด หลังจากนั้นทางตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุไป สอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท
ด้านนาย ผู้เสียหายบอกว่าก่อนที่จะเกิดเหตุตนเองนั่งรอรถประจำทางอยู่บนฟุตบาทบริเวณหน้ากรมแพทย์ทหารบกระหว่างนั้น มีการชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือและใส่ไว้ในกระเป๋าก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุจะเดินผ่านมา 1 รอบและหันมามอง และสบจังหวะที่ตนเองหันหน้าไปมองเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่เดินผ่านมาทางผู้ก่อเหตุจึงได้วิ่งมากระชากโทรศัพท์ ก่อนจะวิ่งหลบหนีตนเองจึงได้วิ่งติดตามมาอย่างกระชั้นชิด พร้อมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ก่อเหตุโยนโทรศัพท์ที่ขโมยมาจากตนเองทิ้งไป จากนั้นจึงโดน พล.ต.ท.สยาม และ พล.ต.ต.นพศิลป์ จับกุม