โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ลงทุนอย่างไร ? ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศ

Amarin TV

เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ลงทุนอย่างไรท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศ การวางแผนการลงทุนโดยนำปัจจัยความขัดแย้งด้านประวัติศาสตร์และการเมืองเข้ามาพิจารณาด้วยนั้นมีข้อแนะนำ

ช่วงนี้ความสนใจจากสาธารณะพุ่งเป้าไปยังความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทั้งเรื่องของความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน อิสราเอล และสหรัฐฯ กับความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนของไทยที่กลายเป็นปัญหาใหญ่หลังจากมีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้นำไทยและผู้นำ (ในทางปฏิบัติ) ของกัมพูชาออกมาเผยแพร่ ทำให้บรรยากาศการลงทุนในเวลานี้อยู่ในสภาวะที่เรียกได้ว่า “ตึง” กันไปหมด โดยไม่ต้องพึ่งคลินิกเสริมความงามแต่ประการใด

นอกจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ทุกคนถามว่าจะจบยังไงแล้วอีกคำถามหนี่งที่ได้รับมาสำหรับในโลกการเงินคือ จะวางสถานการณ์การลงทุนอย่างไรในสภาวะที่มีความขัดแย้งเช่นนี้

สำหรับคนที่มีความเข้าใจด้านประวัติศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเมืองระหว่างประเทศ เรื่องเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องยากพอสมควร เนื่องจากแต่ละประเทศมีความขัดแย้งไม่เหมือนกัน และพัฒนาการด้านการเมืองที่แตกต่างกัน ดังนั้นการวางแผนการลงทุนโดยนำปัจจัยความขัดแย้งด้านประวัติศาสตร์และการเมืองเข้ามาพิจารณาด้วยนั้น ไปไกลกว่าความรู้ในเรื่องของการเงินและความสัมพันธ์ทางสถิติในอดีตโดยทั่วไปครับ

สิ่งแรกที่อยากแนะนำสำหรับนักลงทุนทั่วไป คือการอ่านครับ แต่ไม่ใช่การอ่านปกติ ทว่าเป็นการอ่านประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศต่างๆ เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ส่วนตัวใช้เลือกอ่านคือการอ่านบทความหรือข้อเขียนของนักวิชาการที่อยู่ในภาควิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น สาขาประวัติศาสตร์ สาขาสังคมวิทยา หรือสาขารัฐศาสตร์ ที่ทำงานโดยตรง มากกว่าจะเป็นข้อเขียนจากผู้ที่ไม่ได้อยู่ในสาขาวิชาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง เว้นแต่ผู้ที่อยู่นอกสาขานั้นจะมีผลงานเป็นประจักษ์จากคนในสาขา (เช่น อ้างอิงบ่อยในงานวิชาการ) สาเหตุประการสำคัญอยู่ที่ว่า คนที่ทำงานโดยตรงในประเด็นดังกล่าวจะมีความเข้าใจในเรื่อง “ข้อถกเถียง” ที่อยู่ในแวดวงวิชาการโดยตรงมากกว่า ซึ่งมีความสำคัญ เนื่องจากข้อถกเถียงเหล่านี้มักเปลี่ยนแปลงได้หากค้นพบหลักฐานใหม่ หรือเมื่อบริบทและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

ประการถัดมาคือการกระจายความเสี่ยง นักลงทุนโดยทั่วไปมักจะมีค่านิยมแบบ “all-in” หรือใส่ลงไปทั้งหมด เปรียบเสมือนการใส่ไข่ทั้งหมดลงในตระกร้าใบเดียว ถ้าเกิดตระกร้าใบหนึ่งหล่นไข่ก็แตกทั้งหมดดังนั้นเราไม่ควรผูกตัวเองกับสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่ง รวมถึงภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งด้วย กล่าวคือ เราอาจมีภูมิภาคหรือสินทรัพย์ที่เราถนัดเป็นพิเศษ (specialized) มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แต่ก็ต้องไม่ปฏิเสธภูมิภาคอื่นๆ ด้วย

จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน หากผู้ลงทุนมีขอบเขตการลงทุน (investment universe) ที่ไม่หลากหลายพอ เช่น มีแต่ลงทุนในจีน สหรัฐฯ หรืออินเดีย แต่เพียงอย่างเดียว เมื่อเจอกับสถานการณ์ที่การลงทุนที่มีปัญหา สิ่งที่นักลงทุนโดยส่วนมากเจอคือการขายออกเพื่อหลบความเสี่ยงเข้าสู่ตราสารหนี้ แต่ที่จริงแล้วในสถานการณ์ลักษณะนี้ มักจะมีผู้รอดอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่นสงครามการค้าที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่รอดคือกลุ่มประเทศอย่างละตินอเมริกาและออสเตรเลียที่โดนจัดเก็บภาษีต่ำสุดเพียง 10% ซึ่งหากเรากระจายการลงทุนเพียงพอ จะช่วยทำให้ลดความผันผวนในช่วงเวลาที่อาจไม่เอื้อกับการลงทุนของเราได้

ภาพที่ 1 กลุ่มประเทศที่โดนเรียกเก็บภาษีตามอัตราภาษี โดยละตินอเมริกาและออสเตรเลียถือว่าต่ำที่สุด (ที่มา: XSpring Asset Management Investment Research, White House, The Guardian, Mapchart.net)

ประการสุดท้ายคือการคิดเป็นเหตุเป็นผลและแยกเสียงรบกวนออกจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ในหลายกรณีที่เราเห็นกันตามสื่อ (ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรญี่ปุ่นตัวยาว) สิ่งที่เกิดขึ้นคือเรามักจะวิเคราะห์กันไปว่าอัตราพันธบัตรที่ดีดตัวสูงขึ้นนั้นจะทำให้ระบบการเงินของโลกปั่นป่วน แต่ถ้าคิดด้วยเหตุผลที่แท้จริง เงินเฟ้อญี่ปุ่นปรับขึ้น ตามมาด้วยรายได้ประชาชนเพิ่มขึ้น ผสมกับการลงทุนจากต่างประเทศทางตรงที่เพิ่มขึ้น และการซื้อคืนพันธบัตรระยะยาวของธนาคารกลางญี่ปุ่นลดลง ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ติดอยู่ในวงจรเงินฝืดมานานหลายปี และไม่ไปไหน พ้นจากสถานการณ์เงินฝืดกลับเข้าสู่เงินเฟ้อในที่สุด ซึ่งก็ต้องตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามภาพการเติบโตของเศรษฐกิจที่โตขึ้นในระยะยาวนั่นเอง ตลาดก็ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นสูงเป็นธรรมดา

การแยกเสียงรบกวนในการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากจะทำให้เราไม่เสียสมาธิและเหตุผลกับการลงทุนครั้งแรกที่เราทำไป เช่นเดียวกับความขัดแย้งด้านการเมืองระหว่างประเทศ หากเราวิ่งตามสถานการณ์ความขัดแย้งและปรับเปลี่ยนการลงทุน โดยเฉพาะในยุคนี้ที่นโยบายทางการเมืองสามารถเปลี่ยนได้วันเว้นวัน ในที่สุดการลงทุนของเราก็จะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ เผลอๆ อาจจะทำให้เราขาดทุนเนื่องจากการวิ่งตามสถานการณ์เสียด้วยซ้ำครับ

โดยสรุปแล้ว สิ่งที่นักลงทุนควรทำ คือการหาข้อมูลที่ตรงสายหรือเป็นผู้รู้จริง ตามมาด้วยการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ต่างๆ อย่างทั่วถึง และสุดท้ายคือใช้สติและเหตุผลในการแยกเสียงรบกวนออกจากสิ่งที่มีผลกับการลงทุนจริงๆ สามอย่างแค่นี้ก็จะทำให้เราฟันฝ่าสถานการณ์การลงทุนที่ยากลำบาก โดยเฉพาะในยุคนี้ที่การเมืองระหว่างประเทศและความขัดแย้งระหว่างประเทศชัดเจน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

ระทึก! โจรอ้างอยากเท่ วิ่งราวต่อหน้าผบช.น. ตำรวจตะครุบทันควัน

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สลด! ลูกเรือประมง ลงไปในห้องเก็บปลา เจอแก๊สเหม็นเน่า ขาดอากาศหายใจดับ3

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

รู้หรือไม่? 17 ปีก่อน “น้ำมันโลก” เคยสูงสุดถึง 140 ดอลล์... ปัจจุบันราคายังต่ำกว่า “จุดสูงสุด” กว่า -53% รู้จัก 5 ทางเลือก ช่วยลงทุน “น้ำมันโลก” ง่ายๆ !!!

Wealthy Thai

Dutch Mill Point Rewards 2025 กลับมาอีกครั้ง แจกทองคำน้ำหนัก รวมกว่า 227 บาท

สยามรัฐ

“พาณิชย์” ยกทัพสินค้าราคาประหยัดจำหน่ายให้พี่น้องชาวมหาสารคามในงาน “ธงฟ้าราคาประหยัด จังหวัดมหาสารคาม”

สยามรัฐ

เชียงราย นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ย้ำรัฐบาลเร่งช่วยเหลือเต็มที่

สยามรัฐ

"ทวีฉัตร จุฬางกูร" โละหุ้น VGI พบช่วง 1 ปี เทขาย 172 ล้านหุ้น โบรกฯแนะถือ หลังชวด VirtualBank

Share2Trade

เศรษฐกิจไทยเจ็บมาเท่าไหร่? กับปัญหาเมืองไทย หุ้นไทยร่วง22.70%จากต้นปี

Amarin TV

ข่าวและบทความยอดนิยม

หุ้นไทย บวกกลับอลังการ  ตลท.ใช้เกณฑ์เดิม Ceiling & Floor +/- 30%

Amarin TV

รวบ 14 เขมรอพยพเดินเท้ากลับประเทศ บอกกลัวเกิดสงคราม

Amarin TV

อิหร่านเร่งปราบสายลับต่างชาติ CIA ยืนยันโครงการนิวเคลียร์อิหร่านพังยับ

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...