โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ประธาน FETCO เตือนวิกฤตภาษีสหรัฐไม่ง่าย มองเจรจาลดให้ไทยที่ 10% เป็นไปได้ยาก คาดมีผลกระทบระยะยาว ต้องรักษาโมเมมตัมเศรษฐกิจ ลดดอกเบี้ยช่วย

BTimes

อัพเดต 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 1.49 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Biz

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า การที่สหรัฐประกาศคงอัตราเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทยที่ 36% สถานการณ์ไม่ได้ผันผวนอย่างที่นักลงทุนหลายคนกังวลเหมือนที่ช่วงที่ประกาศอัตราภาษีหลายประเทศในครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม จะกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงทั้งในแง่ของภาคการส่งออก, SME ในประเทศ และการลงทุนโดยตรงที่จะเข้ามาไทย ขณะเดียวกันก็ยังมีผลกระทบระยะยาวที่ตามมา เรื่องของความสามารถในการดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทย โดยเบื้องต้นยังประเมิน GDP ไทยปี 68 ที่ 2% โดยมีดาวน์ไซด์ 1.5% ซึ่งจะต้องรอข้อสรุปอัตราภาษีที่ไทยจะถูกเรียกเก็บและอัตราภาษีประเทศคู่แข่งการค้าของไทยด้วย อาทิ อินเดีย และจีน โดยต้นปีประเมิน GDP ปี 68 ที่ 3% โดยยังมีอัพไซด์ และปรับลงมาที่ 2% มีดาวน์ไซด์ ซึ่งปัจจุบันดาวน์ไซด์ตอนนี้ยังต้องรอผลการเจรจาทั้งหมด GDP อาจจะอยู่ที่ 1.5-2% เป็นเบื้องต้น

ทั้งนี้ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศภาษีศุลกากรอัตราใหม่กับประเทศต่าง ๆ เมื่อคืนนี้ ตลาดทุนทั่วโลกไม่ได้สะเทือนเหมือนตอนที่ประกาศอัตราภาษีครั้งแรก โดยตลาดฟิวเจอร์สติดลบเล็กน้อย ขณะเดียวกันบางตลาดในเอเชียยังบวกได้เล็ก ๆ ทุกประเทศได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้รุนแรงอย่างที่เคยกังวล สะท้อนว่าตลาดรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปมากแล้ว

ประกอบกับก่อนหน้านี้สหรัฐผ่อนผันระยะเวลาจัดเก็บภาษีอัตราใหม่ 90 วัน ทำให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวเรื่องสต็อกสินค้าและหาซัพพลายเออร์รายใหม่ นอกจากนี้สหรัฐได้ออกมาตรการอื่น ๆ เข้ามาประกอบ โดยเฉพาะ One Big Beautiful Bill ที่ช่วยลดผลกระทบต่อตลาดทุนและผลกระทบต่อภาคประชาชนให้บรรเทาลงบ้าง

โดยนายกอบศักดิ์ ประเมินทางเลือกของไทย 3 ทางเลือก ได้แก่

1) ยอมรับสภาพที่ 36%

2) กลับไปเจรจาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ประมาณ 25% ซึ่งทางเลือกนี้มองว่าภาคเอกชนจะสามารถรับได้และปรับตัวได้มากที่สุด

และ3)ทางเลือกสุดท้าย เดินตามทางเวียดนาม ทำเต็มที่ให้ได้ 20%

ทั้งนี้ มองว่าอัตราภาษีที่ 10% คงเป็นไปได้ยากเนื่องจากเป็นอัตราที่สหรัฐให้กับประเทศที่เกินดุล 20% นอกจากนี้มองว่าจดหมายที่ประกาศออกมาเมื่อคืนเป็นการเตือนว่าการเจรจาก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่พอใจ คำถามต่อมาคือไทยจะสามารถเสนอดีลได้อย่างที่สหรัฐฯ ต้องการหรือไม่

มุมมองของภาคเอกชนจากที่มีการพูดคุยมา ไม่ต้องการให้อัตราภาษีระหว่างไทยและประเทศคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญแตกต่างมากนัก ซึ่งอัตราภาษีระดับ 25% มีส่วนต่างจากเวียดนาม 5% ยังพอบริหารจัดการ ลดค่าใช้จ่าย ลดกำไรบางส่วนลง และทำงานให้หนักขึ้น เพื่อจัดการส่วนต่างภาษีระดับดังกล่าวได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าไทยจะมีข้อเสนออะไรให้กับสหรัฐบ้าง ซึ่งปัจจุบันสินค้าจากสหรัฐหลายชนิดไม่ได้มีการผลิตในไทยสามารถนำเข้ามาได้ เช่น ชิปอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่บางกลุ่มอาจต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่นภาคเกษตร ซึ่งจะต้องมีการเยียวยาให้กลุ่มนี้ยังขับเคลื่อนไปได้

โดยหากอัตราภาษีของไทยไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 36% เช่นเดิม จะกระทบทั้งภาคการส่งออกที่ต้องปรับตัว ภาค SME ในไทย ซึ่งต้องติดตามต่อว่าจีนจะถูกเรียกเก็บภาษีอัตราเท่าไร หากยังสูงทำให้จีนต้องกระจายสินค้ามายังตลาดอื่น ซึ่งทำให้ SME ไทยเกิดปัญหาได้ ขณะที่ยอดการขอ BOI ที่ก่อนหน้านี้บริษัทแจ้งจำนงอาจต้องพิจารณาหนักมากขึ้น หากมาตั้งฐานการผลิตที่เมืองไทย ส่งออกไปสหรัฐต้องจ่ายภาษี 36% ย้ายไปตั้งที่เวียดนามที่เสียภาษี 20% ดีกว่า ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาจะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อไทยในระยะถัดไป

สำหรับผลกระทบต่อ SME ไทย หากสินค้าจากจีนไหลเข้าไทยในราคาที่ถูกกว่า โดยอยากเห็นมาตรการที่เคยใช้ในอดีต นั่นคือการที่ภาครัฐจัดซื้อจัดจ้าง ให้มีสัดส่วนสินค้า SME มากขึ้นจากเมื่อก่อนมีสัดส่วนสินค้า SME 30% แต่ปัจจุบันลดลงเรื่อย ๆ โดยมองว่าระดับ 50% ที่รัฐบาลจะซื้อของ SME ในประเทศ จะทำให้ SME ไม่ต้องสู้กับสินค้าจีน ขณะเดียวกันอยากให้ช่วยภาคการส่งออก จัดงบให้กับกระทรวงพาณิชย์เพื่อทำให้การค้าขายที่อินเดีย ตะวันออกกลาง อาเซียนและจีน เพิ่ม เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดทดแทนได้

แม้ตัวเลขการส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่อง แต่เป็นการสะท้อนความตั้งใจของผู้ประกอบการสหรัฐที่พยายามสต็อกสินค้า โดยมองว่าครึ่งปีหลังการส่งออกจะไม่ดีเนื่องจากผู้ประกอบการสต็อกสินค้าไปหมดแล้ว จนถึงต้นปี 69 หลังจากนั้นผู้ประกอบการมีเวลาในการหาซัพพลายเออร์รายใหม่ที่มีกำแพงภาษีไม่สูง ซึ่งปัจจุบันไทยมีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 60-70% ของ GDP ซึ่งการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มีสัดส่วน 18% ของการส่งออกทั้งหมด โดยหากถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% คาดสัดส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะลดลงเหลือประมาณ 10% อย่างไรก็ตามมองว่าไทยต้องหาตลาดอื่นทดแทน อาทิ อินเดีย จีน ยุโรป และยังมีอีกหลายตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งมองว่าในเวลานี้ไทยควรเร่งหาตลาดใหม่ ควบคู่ไปกับการเจรจาการค้า รวมทั้งไทยควรต้องทำงานเรื่องพหุภาคีให้เข้มแข็งขึ้น เนื่องจากทรัมป์จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 3 ปีครึ่ง หลังจากนั้นทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิม และไทยจะมีพหุภาคีที่เข้มแข็ง และจะเป็นทางออกให้กับทุกคน

ขณะเดียวภาคการท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวมาน้อยกว่าที่คาด ภาคการบริโภคในประเทศชะลอตัว ภาคอุตสาหกรรมไทยก็ค่อย ๆ ขยายตัวต่ำลง ทำให้ไร้ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ไปต่อได้ นอกจากนี้การเมืองในประเทศที่ยังมีปัญหาด้านเสถียรภาพส่งผลต่อการทำงานภาคราชการไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีอย่างที่คิด อย่างไรก็ตามยอดการขอ BOI ยังเติบโตต่อเนื่อง หวังว่าอย่างน้อยจะเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปต่อได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BTimes

พายุไมโครซอฟท์แรง ปลดพนักงานอีก 9,000 คน ปลด 3 รอบปิ๋วกว่า 15,000 | คุยกับบัญชา | 3 ก.ค. 68

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

มาสด้า ฉลองครบรอบ 58 ปี มาสด้าราชาออโต้เซลส์ ในนครราชสีมา ทุ่มงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เปิดโชว์รูมใหม่ 4 สาขา รองรับฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

“ทรัมป์” ยืนยันไม่ขยายเส้นตายบังคับใช้ภาษีใหม่ 1 ส.ค.68

การเงินธนาคาร

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ครม. เคาะ 13 เส้นทาง เริ่ม 1 ต.ค. 68

sanook.com

ไขข้อสงสัย! ทำไม สหรัฐฯ ถึงมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก

SMART SME

ทรัมป์ ส่งจดหมายถึงไทย ส่งสัญญาณเปิดกว้างเจรจา แม้ประกาศรีดภาษีนำเข้า 36%

sanook.com

SCB เปิดตัว ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัน ครอบคลุมถึงอายุ 88 ปี

sanook.com

"เซินเจิ้น" ออกโรงเตือนการหลอกลวง Stablecoin "แชร์ลูกโซ่ - ระดมทุนเถื่อน"

Manager Online

"พงศ์กวิน" ห่วงแรงงานหลังเหตุอาคารถล่มเชียงราย สั่งเร่งเยียวยาผู้ประสบภัยเต็มที่

สยามรัฐ

บิทคอยน์ติดกับดัก 100K-110K เกมยื้อราคา "ปลาใหญ่ vs นักลงทุนรายย่อย" – สัญญาณฟองสบู่หรือจังหวะสะสม

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ยูโอบี เปิดผลสำรวจ ภาคธุรกิจไทยเสี่ยงท้าทาย  มากกว่า 90% คาดว่าจะเผชิญกับภาวะหยุดชะงักเมื่อเจอมาตรการภาษีทรัมป์ ต้องเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล มุ่งยั่งยืน

BTimes

ไทยหลุดฮับผลิตอุตสาหกรรม รั้งบ๊วย 10 ชาติเอเชีย 5 ชาติอาเซียน | คุยกับบัญชา | 17 มิ.ย. 68

BTimes

ประธานสภาอุตสาหกรรมชี้ส่งออกไทยพังยับ 8-9 แสนล้านบาท ถ้าปธน.ทรัมป์36ยันเก็บภาษี 36% กับไทย รัฐมนตรีช่วยคลัง จุลพันธ์เผยกันงบมา 50,000 ล้านบาท ช่วยดูแลเอกชนไทยรับภาษีทรัมป์ 

BTimes
ดูเพิ่ม
Loading...