สองทนายบุกแจ้งความ “หมอปลาย” ปมพยากรณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ทำประชาชนตื่นตระหนก

จากกรณี “หมอปลาย พรายกระซิบ” ออกมาทำนายตามคำท่านยม พยากรณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่าภายใน 1–2 วัน จะเกิดเหตุใหญ่และความไม่สงบ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความวิตกกังวล และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความเหมาะสมของคำทำนาย

ก่อนหน้านี้ ทนายเกิดผล แก้วเกิด และ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้โพสต์ข้อความและอัดคลิปแสดงความคิดเห็นว่าคำทำนายดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สมควร อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา มีโทษจำคุก และสร้างผลกระทบต่อสังคม

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 5 ส.ค.68 เวลา 15.30 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทนายเกิดผล และทนายรณณรงค์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับ “หมอปลาย พรายกระซิบ” ในข้อหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 384 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนตื่นตระหนก โดยรู้ว่าเป็นเท็จ หรือโดยไม่มีเหตุอันควรเชื่อว่าข้อความนั้นเป็นความจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

นายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ตนและทนายเกิดผลมาแจ้งความหมอปลาย พรายกระซิบ ในเรื่องการสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน โดยตนติดตามหมอปลายมาตั้งแต่กรณีทำนายเรื่องตึกสำนักงาน สตง. ครั้งก่อน ครั้งนี้คำพยากรณ์เรื่องชายแดนทำให้ชาวบ้านแตกตื่น หลายครอบครัวต้องหนีออกจากบ้าน ย้ายถิ่นฐานเพราะเชื่อคำทำนาย บางคนถึงขั้นนอนไม่หลับ ส่งผลกระทบต่อการค้าขายบริเวณชายแดนที่ควรดำเนินไปตามปกติแต่ต้องหยุดชะงัก การพยากรณ์ที่ทำให้ประชาชนเชื่อเช่นนี้ก่อให้เกิดความเดือดร้อน

ตนขอย้ำว่า ประชาชนควรฟังข้อมูลจากกองทัพและหน่วยงานราชการ ไม่ใช่จากหมอดู และตนไม่ได้มีความโกรธเคืองส่วนตัวกับหมอปลาย หากโกรธจริงคงไม่มาดำเนินการในลักษณะนี้ ตอนนี้ผ่านไป 2 วันแล้วตามที่หมอปลายทำนาย เหตุการณ์ก็ไม่เกิดขึ้นตามที่พูดไว้ ตนอยากถาม “พยายม” ว่าที่บอกหมอปลายมาเป็นเพราะอะไร และหากหมอปลายต้องการแจ้งความกลับก็ให้มาที่ สภ.ปากเกร็ด ตนพร้อมสู้คดี

นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ชายแดนขณะนี้ยังคงมีความตึงเครียด ไม่ได้เงียบหายตามที่บางคนเข้าใจ และตนกังวลว่าหมอดูคนอื่นอาจจะออกมาทำนายเรื่องนี้อีก หากมีตนก็จะเข้ามาแจ้งความทุกครั้ง เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรพูดให้ชาวบ้านหวาดกลัว ถึงขั้นขนเสื่อมาหลบนอนหนีสงคราม การพูดเรื่องนี้อย่างไม่มีข้อมูลเป็นการสร้างความเดือดร้อน และหากหมอปลายทำนายได้จริง ตนจะให้ไปถามพยายามว่าระเบิดที่เหลืออยู่ในพื้นที่อยู่ตรงไหน ถ้าหาเจอ ตนพร้อมกราบเท้าทันที ทั้งนี้อยากให้ร้อยเวรออกหมายเรียกพยายมด้วย อย่างไรก็ตามอยากจะฝากถึงหมอดูคนอื่นที่คิดจะทำแบบนี้ หากตนเห็นคลิปตนจะดำเนินการแจ้งความทุกคน

ด้านทนายเกิดผล กล่าวว่า กรณีนี้มีตัวอย่างเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 ซึ่งขณะนั้นมีเหตุการณ์เผยแพร่ข้อมูลเท็จจาก “เด็กชายปลาบู่” ที่เคยทำนายเหตุการณ์ต่าง ๆ ก่อนเสียชีวิต โดยระบุว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เขื่อนแตก และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ประชาชนแตกตื่น จนมีผู้ไปแจ้งความดำเนินคดี ศาลพิพากษาจำคุก 15 วัน ปรับ 500 บาท และสั่งห้ามพูดเพ้อเจ้ออีก

ทนายเกิดผล กล่าวต่อว่า ครั้งนี้คำทำนายของหมอปลายส่งผลกระทบมากกว่าในอดีต หากเป็นเมื่อก่อนอาจถูกกล่าวหาว่าเป็น “สาย” ของอีกฝ่ายเพราะเอาข่าวลักษณะนี้มาปล่อย จึงอยากเตือนให้หมอปลายหยุด เพราะหากไม่หยุดจะมีคนอื่นออกมาทำนายมั่ว ๆ ตามมาอีก วันนี้จึงมาเพื่อเตือนและปราม พร้อมฝากถึงหมอปลายว่าหากร่างกายแข็งแรงแล้วให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ต้องรอให้ “พยายม” บอก และกรณีการทำนายเรื่องภัยพิบัติก็เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องเป็นหมอดู อย่างไรก็ตามกรณีนี้อาจเข้าข่าย พรบ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย แต่ตอนนี้ตนอยากแค่ปรามยังไม่อยากให้ทำแบบนี้อีก