สั่งอพยพ 600 พิทักษ์ป่า ปิด ‘6อุทยานฯ-เขตรักษาพันธุ์ฯ’ ชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทหารได้อพยพเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากเสี่ยงได้รับอันตราย โดยยืนยันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าฯ พร้อมจะสนับสนุนฝ่ายความมั่นคง ทั้งเรื่องการดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว พร้อมทำบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยไว้เรียบร้อย สำหรับหลบภัยระหว่างเกิดเหตุปะทะ สิ่งสำคัญยังพร้อมให้การสนับสนุนเส้นทางและลาดตระเวนในพื้นที่กับทหาร
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรฯ ได้เร่งประสานไปยังกองทัพไทยดำเนินการซื้ออาวุธปืนที่ได้ยื่นเรื่องไปก่อนหน้านี้ เพื่อมาใช้ปฏิบัติงานลาดตระเวนตามแนวชายแดนร่วมกับทหาร คาดว่าเดือน ส.ค.จะประชุมและอนุมัติอาวุธปืนให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในการร่วมสนับสนุนดูแลพื้นที่แนวชายแดน เพื่อป้องกันประเทศและป้องกันการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติด้วย
ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กำลังพลเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่ร่วมลาดตระเวนกับทหารมีทั้งหมด 600 นาย ล่าสุดได้เคลื่อนย้ายมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้วหลังเกิดเหตุปะทะบริเวณแนวชายแดน โดยกรมอุทยานฯ จะเป็นกองกำลังสนับสนุนให้ทหาร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ปลอดภัยทุกนาย พร้อมได้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินทางราชการบางส่วนออกมาด้วย โดยเฉพาะบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย
ส่วนการปิดอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ กรมอุทยานฯ ได้ประกาศปิดอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่แนวชายแดนโดยไม่มีกำหนด ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม จ.อุบลราชธานี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา จ.ศรีสะเกษ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ จ.สุรินทร์.