โลกหลังรีเซตเป็นอย่างไร? สรุปจาก Amundi World Investment Forum 2025 ถึงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และโครงสร้างเศรษฐกิจโลกที่นักลงทุนต้องปรับตัวตาม
ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา THE STANDARD WEALTH ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน Amundi World Investment Forum 2025 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยในปีนี้ เวทีดังกล่าวมีน้ำหนักมากเป็นพิเศษในหมู่ผู้จัดการสินทรัพย์ระดับโลก ด้วยหัวข้อที่สะท้อน ‘โลกหลังรีเซต’ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และโครงสร้างเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง
ผู้บริหารระดับสูงจาก Amundi Asset Management ส่งสัญญาณสำคัญหลายประการเกี่ยวกับภูมิทัศน์ใหม่ของเศรษฐกิจและการลงทุน โดยเฉพาะ Anna Rosenberg หัวหน้าฝ่ายภูมิรัฐศาสตร์ของ Amundi Investment Institute และ Alessia Berardi ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ ซึ่งร่วมถอดรหัสความเสี่ยง ความเปราะบาง และโอกาสในอนาคต
ภูมิรัฐศาสตร์: จาก ‘ความเสี่ยง’ สู่ ‘กลไกควบคุมโครงสร้างเศรษฐกิจโลก’
Anna Rosenberg หัวหน้าฝ่ายภูมิรัฐศาสตร์ของ Amundi Investment Institute เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันไม่ใช่แค่ความเสี่ยงที่ต้องจับตา แต่ได้กลายเป็นตัวแปรเชิงโครงสร้างที่ควบคุมเศรษฐกิจมหภาค ไปเรียบร้อยแล้ว
“เรากำลังอยู่ในยุคของ ‘สงครามเย็นยุคใหม่’ ประเทศต่างๆ เร่งสะสมอาวุธ เพิ่มงบประมาณกลาโหม และวางกลยุทธ์เพื่อยึดพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ ตั้งแต่ทะเลแดงไปจนถึงอาร์กติก” Anna กล่าว
Anna Rosenberg หัวหน้าฝ่ายภูมิรัฐศาสตร์ของ Amundi Investment Institute
โดยประเด็นสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น ได้แก่:
- การจำกัดการส่งออกแร่หายากจากจีน
- มาตรการภาษีศุลกากรและคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
- ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่นำไปสู่การ ‘แยกตัวทางเศรษฐกิจ’ (decoupling)
- การเสริมกำลังทางทหารของยุโรป เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากรัสเซีย
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังถูกระบุว่าเป็น ‘ตัวเปลี่ยนเกม’ ในมิติทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่จากการละลายของน้ำแข็งอาร์กติก ซึ่งจะนำไปสู่การแข่งขันด้านทรัพยากรและความมั่นคงทางทะเลที่เข้มข้นขึ้น
เศรษฐกิจกระทบวงกว้าง ตั้งแต่เงินเฟ้อสูง จนถึงความเปราะบางทางการคลัง
Anna วิเคราะห์ว่าแนวโน้มดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนใน 3 มิติหลัก:
ต้นทุนที่สูงขึ้นทั่วโลก (Inflationary Pressures): ภูมิรัฐศาสตร์ผลักดันต้นทุนของซัพพลายเชน การก่อสร้างโรงงาน และค่าขนส่งให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาวะตึงเครียดทางการคลัง (Fiscal Strain): รัฐบาลจำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการป้องกันประเทศและสนับสนุนอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ท่ามกลางระดับหนี้สาธารณะที่สูงเป็นประวัติการณ์
การกระจายความเสี่ยง (Diversification): นักลงทุนระดับโลก รวมถึงธนาคารกลางหลายประเทศ กำลังทยอยลดสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์สหรัฐฯ หันไปยังยุโรปและเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดทุนที่มีความเสถียร และมองหา Real Assets เช่น โครงสร้างพื้นฐานและทองคำ
เศรษฐกิจไทย: ความหวังจากหุ้นไทย ท่ามกลางการเติบโตที่ยังจำกัด
Alessia Berardi หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ของ Amundi ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ THE STANDARD WEALTH เกี่ยวกับมุมมองเฉพาะเจาะจงกับเศรษฐกิจไทยว่า ยังคงเผชิญแรงกดดันจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ และความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีโลก ซึ่งอาจกระทบอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์และเกษตรกรรม
ดังนั้นแล้ว Amundi จึงคาดว่า GDP ไทยในปี 2025 จะเติบโตเพียง 1.5-2% ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพเดิมก่อนเกิดโรคระบาด และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย
Alessia Berardi หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ของ Amundi
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทย ยังถือว่า ‘น่าลงทุน’ ในมุมของ tactical allocation จาก 3 ปัจจัย:
- Valuation ที่ยังถูก
- คาดการณ์กำไรของบริษัทที่เริ่มถูกปรับขึ้น
- สถานะของนักลงทุนต่างชาติที่ยัง Underweight ไทยอยู่มาก
ทั้งนี้ เพื่อดึงดูดการลงทุนระยะยาว Alessia ชี้ว่าไทยต้องปลดล็อกโครงสร้างเศรษฐกิจ ได้แก่:
- เพิ่มการลงทุนด้านการศึกษา
- ยกระดับอุตสาหกรรม IT และโลจิสติกส์
- ใช้จุดยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ อย่างชาญฉลาดในเวทีการค้า
โฟกัสใหม่ของนักลงทุน: ยุโรป เอเชีย และสินทรัพย์จริง
ทั้ง Anna และ Alessia ต่างเห็นตรงกันว่าโลกกำลัง ‘พลิกจุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ’ จากตลาดสหรัฐฯ สู่ ยุโรปและเอเชีย
- ยุโรป: ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน ความคืบหน้าของการรวมการเงิน และนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของ ECB
- เอเชีย: อินเดียและอินโดนีเซียเป็นดาวเด่น ขณะที่จีนแม้เผชิญแรงเสียดทานจากตะวันตก แต่ยังมีบทบาทสูงในการลงทุนในภูมิภาค
- Real Assets และทองคำ: กลายเป็นหัวใจของการจัดพอร์ตใหม่ในโลกที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะในยุโรปที่ให้ผลตอบแทนมั่นคง
Anna ทิ้งท้ายว่า “นักลงทุนรายย่อยเองก็ต้องเริ่มมองพอร์ตแบบโลกาภิวัตน์” ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ เพราะภูมิรัฐศาสตร์ไม่ได้แค่เปลี่ยนเศรษฐกิจ แต่กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมของตลาดโดยสิ้นเชิง
บทสรุป: จากความเสี่ยง…สู่จังหวะใหม่ของโอกาส
Amundi มองว่าโลกหลังปี 2025 ไม่ใช่โลกที่สงบนิ่ง แต่เป็น ‘โลกที่ต้องเรียนรู้จะอยู่กับความปั่นป่วน’ และเติบโตไปพร้อมกัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการกองทุน ผู้นำองค์กร หรือผู้ลงทุนรายย่อย การมีพอร์ตที่ ‘ยืดหยุ่นและหลากหลาย’ จะกลายเป็นหัวใจของการอยู่รอดและสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
เพราะในโลกที่ไม่มีใครควบคุมภูมิรัฐศาสตร์ได้ทั้งหมด – สิ่งเดียวที่เราทำได้คือ จัดการความเสี่ยง และวางหมากให้ไวกว่าโลกหนึ่งก้าว
สำหรับ Amundi World Investment Forum (AWIF) เป็นงานสัมมนาระดับโลกที่จัดขึ้นประจำปีโดยบริษัท Amundi ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป งานนี้รวบรวมผู้เข้าร่วมหลากหลายกลุ่ม เช่น นักลงทุนสถาบัน ผู้จัดการกองทุน ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายจากทั่วโลก
งานนี้เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2010 และจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน (ปี 2025) รวมเป็นเวลาประมาณ 15 ปี โดยมีการพัฒนาและขยายขอบเขตของเนื้อหาและผู้เข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดการลงทุนและเศรษฐกิจโลก ซึ่งปีนี้ ทาง Antony John Blinken อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้มาร่วมเวทีเสวนาด้วย โดยร่วมเวทีกับ Valérie Baudson ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Amundi ในหัวข้อ LAYING A PATH FORWARD ON UNSETTLED GROUND
โดยปกติแล้ว Amundi World Investment Forum จะจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Amundi โดยรวมผู้บริหารระดับสูง เรียกได้ว่างานนี้เป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดและการกำหนดทิศทางอนาคตของการลงทุนระดับโลก