“พยัคฆ์ปักไหม” งิ้วแต้จิ๋วคืนปิดม่าน ยืนหยัดศิลป์-ศรัทธา
คืนสุดท้ายของเทศกาลงิ้วแต้จิ๋วระดับนานาชาติ ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ปิดฉากอย่างทรงพลังด้วยการแสดงเรื่อง พยัคฆ์ปักไหม หรือ 绣虎 ผลงานร่วมสมัยที่ร้อยรัดระหว่างวรรณกรรมคลาสสิก สามก๊ก กับศิลปะการแสดงแบบแต้จิ๋ว ถ่ายทอดเรื่องราวของ “เฉาจื้อ” บุตรชายผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ของ “โจโฉ” ผ่านบทละครอิงประวัติศาสตร์ที่ครบรส ทั้งอำนาจ ศิลปะ และความซื่อสัตย์ในโลกที่แหลมคมด้วยการช่วงชิง
ผลงานเรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของงิ้วแต้จิ๋วยุคใหม่ ประพันธ์โดย กั๊วะ ฉีหง หนึ่งในสามเสาหลักแห่งวงการละครเวทีจีน และกำกับโดย ศาสตราจารย์ลู่ อัง ผู้ทรงคุณวุฒิแห่งสถาบันการละครเซี่ยงไฮ้ โดยมี หลิน เอี้ยนอวิ๋น ศิลปินรางวัลเหมยฮวา และผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติ รับบทนำ ถ่ายทอดตัวตนของกวีผู้แบกทั้งศักดิ์ศรีครอบครัวและคุณธรรมทางใจไว้ในบทบาทเดียวกัน
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อโจโฉ ผู้มากด้วยบารมี ตัดสินใจเลือกผู้สืบทอดอำนาจท่ามกลางบุตรทั้งสองคน คือ “เฉาพี” ผู้ทะเยอทะยาน และ “เฉาจื้อ” ผู้มีสติปัญญาและอ่อนน้อม โจโฉปรารถนาให้เฉาจื้อเป็นผู้สืบทอด เนื่องจากมองเห็นในตัวเขาความสามารถทั้งทางบู๊และบุ๋น ทว่าพลังสนับสนุนทางการเมืองกลับเอียงไปทางเฉาพี ทำให้สุดท้าย โจโฉจำต้องยกตำแหน่งให้แก่ผู้มีแรงสนับสนุนมากกว่า
เมื่อโจโฉสิ้นชีวิต เฉาพีขึ้นครองอำนาจด้วยความระแวง ไม่ไว้วางใจน้องชายผู้เป็นที่รักของประชาชน จึงวางแผนทดสอบเฉาจื้อด้วยเงื่อนไขอันโหดเหี้ยม ให้แต่งบทกวีภายในเจ็ดก้าว หากล้มเหลวจะถูกประหาร ช่วงเวลานั้นเองที่บทกวี “เถาถั่วเผาต้นถั่ว” อันลือลั่นจึงถือกำเนิดขึ้น เปรียบเปรยความเจ็บปวดจากความรุนแรงภายในครอบครัวที่หักร้าว ไม่ต่างจากเมล็ดถั่วที่ถูกเผาด้วยเปลือกของมันเอง
การแสดงเรื่อง พยัคฆ์ปักไหม กลายเป็นงานศิลป์ที่ผสานคุณลักษณะเฉพาะของงิ้วแต้จิ๋วเข้าไว้กับแนวคิดร่วมสมัย ถ่ายทอดความละเอียดอ่อนของบทละครด้วยการเคลื่อนไหวที่อ่อนช้อย ผนวกกับเสียงร้องในสำเนียงแต้จิ๋วที่ลึกซึ้ง ก่อให้เกิดมิติใหม่ของงิ้วจีนที่เข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ และยังคงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ของวรรณกรรมต้นฉบับ
เฉาจื้อในเรื่องไม่ได้เป็นเพียงตัวละครผู้ลุ่มลึกทางความคิด แต่ยังเป็นตัวแทนของจริยธรรมที่มั่นคงในภาวะที่ต้องเลือกระหว่างความอยู่รอดกับการรักษาเกียรติ เขาเลือกใช้บทกวีแทนการต่อสู้ ใช้สติแทนอำนาจ และยืนหยัดบนทางสายกลาง แม้อยู่ภายใต้เงื้อมมือของผู้มีอำนาจ ซึ่งตรงกับแนวคิดหลักของวรรณกรรมจีนโบราณ ที่ยกย่องผู้ยึดมั่นในความจริง มากกว่าผู้ถือดาบ
บทละครเรื่องนี้ยังได้รับรางวัลอันดับ 1 ประเภทบทละครเวที จากการประกาศผลรางวัลเถียนฮั่น ครั้งที่ 35 เมื่อปี 2021 ถือเป็นเกียรติสูงสุดของวงการศิลปะการละครจีน และกลายเป็นงิ้วแต้จิ๋วเรื่องแรกจากภูมิภาคแต้จิ๋ว–ซัวเถา ที่ได้รับรางวัลนี้ เป็นบทพิสูจน์ถึงพัฒนาการของงิ้วดั้งเดิมที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของยุคสมัย
บนเวทีคืนปิดท้ายของเทศกาล พยัคฆ์ปักไหม จึงมิใช่เพียงการจบบทละคร หากคือการเปิดฉากใหม่ให้กับงิ้วแต้จิ๋วในศตวรรษที่ 21 ที่กล้าทดลอง เสริมความร่วมสมัย และยังคงสืบสานรากวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างมั่นคง ศิลปะที่ดีไม่จำเป็นต้องเอาชนะความใหม่ หากแต่ต้องยืนหยัดในความจริงของเรื่องราว และงิ้วแต้จิ๋วคืนนี้ได้ทำเช่นนั้นอย่างสง่างามบนเวทีและในใจผู้ชม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- งิ้วแต้จิ๋วคืนที่ 6 รวม 10 ไฮไลต์เด่น ถ่ายทอดรัก หน้าที่ และคุณธรรม
- เตรียมชม “องค์หญิงโป๊ยป้อและเต็กเช็ง” งิ้วแต้จิ๋ว 14 ก.ค. ถ่ายทอดหน้าที่เหนือความรัก
- งิ้วแต้จิ๋ว “พระโมคคัลลานะโปรดมารดา” สะท้อนกตัญญูเหนือกรรม
- สะใภ้สู้อยุติธรรม “เหง็กบ๊วย” งิ้วแต้จิ๋วตีแผ่ความจริงเหนืออำนาจ
- โต้วจี ฮองเฮาผู้เลือกความยุติธรรมเหนือสายเลือด บนเวทีงิ้วแต้จิ๋ว