กต.แจงปมกัมพูชาส่งหนังสือเวียนถึง UN แจ้งความประสงค์ฟ้องศาลโลก ยืนยันไทยส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว
ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (UNSG) แจ้งความประสงค์ของกัมพูชาที่จะฟ้องร้องเกี่ยวกับประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ นั้น
นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ชี้แจงดังนี้
เมื่อ 16 มิถุนายน 2025 เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (UNSG) เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวทางชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขอให้เวียนหนังสือเป็นเอกสารของสมัชชาสหประชาชาติ ภายใต้ระเบียบวาระที่ 32 ของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 79 เรื่อง Prevention of armed conflict
เมื่อ 19 มิถุนายน 2025 เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก ได้มีหนังสือถึง UNSG นำส่งแถลงการณ์ Statement by the Royal Thai Government on Thailand – Cambodia border situation ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2025 ชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งท่าทีและการดำเนินการของฝ่ายไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ความตกลง MOU2543 (MOU2000) และแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาทวิภาคีตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้และมีพันธกรณี พร้อมขอให้เวียนทั้งหนังสือลงนามและแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเอกสารของสมัชชาสหประชาชาติ ภายใต้ระเบียบวาระที่ 32 ด้วยเช่นกัน
ขณะนี้ UNSG ได้ลงทะเบียนหนังสือของ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก และหนังสือของ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก เข้าสู่ระเบียบวาระที่ 32 ของสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 79 แล้ว ซึ่งมีนัยเป็นการเวียนหนังสือให้ประเทศสมาชิก UN รับทราบ
ในหลักการ การเวียนหนังสือของประเทศสมาชิกภายใต้ระเบียบวาระของสมัชชาสหประชาชาติ เป็นกระบวนการเพื่อบันทึกข้อมูลหรือท่าทีของประเทศสมาชิกไว้เป็นหลักฐาน (place on record) และทำให้เกิดการรับรู้ของประเทศสมาชิก ซึ่งในกรณีนี้ เมื่อกัมพูชามีหนังสือถึงสมัชชาสหประชาชาติ ฝ่ายไทยจึงได้ดำเนินการมีหนังสือถึงสมัชชาสหประชาชาติด้วยเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ทั้งนี้ การเวียนเอกสารดังกล่าวเป็นแนวทางการเวียนเอกสารปกติของสหประชาชาติ
สามารถดูเอกสารของฝ่ายไทยที่ได้มีการเวียนประเทศสมาชิก UN รับทราบได้ที่ https://www.mfa.go.th/th/content/letter-thai-to-unga
อ้างอิง : กระทรวงการต่างประเทศ