เปิดมุมมองหุ้น CBG เครื่องดื่มชูกำลังเบอร์หนึ่งในกัมพูชา
เปิดมุมมองหุ้น CBG เครื่องดื่มชูกำลังเบอร์หนึ่งในกัมพูชา โอกาสหรือความเสี่ยง!?
จากสถานการณ์ชายแดนไทยและกัมพูชา ส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจที่มีการส่งออกสินค้าไปขาย มีการตั้งโรงงาน ตลอดจนมีการรายได้จากการให้บริการในประเทศกัมพูชา หนึ่งในนั้นคือ CBG หรือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างครบวงจร
ทั้งนี้ CBG มีสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาประมาณ 15% ของรายได้รวมทั้งหมด คิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดส่งออกรวม อีกทั้งเครื่องดื่มคาราบาวแดง ก็มี Market Share เป็นอันดับ 1 ของกัมพูชา คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ถือว่าเอาชนะคู่แข่งอันดับ 2 ที่เป็นผู้ผลิต Local ค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนเปิดโรงงานการผลิต ที่กัมพูชา ด้วยทุน 40 ล้านดอลลลาร์ (CBG 60%, Distributor กัมพูชา 40%) ปัจจุบันได้ลงทุนไปแล้ว 10 ล้านดอลลลาร์ คาดว่าจะ COD ในช่วงเดือนธันวาคม 2568
CBG ยันธุรกิจไม่กระทบ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 นายร่มธรรม เสถียรธรรมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในกัมพูชา บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสินค้ายังสามารถนำเข้า และมีการขายสินค้าได้ปกติ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นบริษัทต้องประเมินอยู่ตลอดเวลา
ส่วนโรงงานในกัมพูชา ปัจจุบันยังคงดำเนินไปแบบปกติ คาดว่าจะสามารถเดินครื่องผลิตได้ในเดือนธันวาคมนี้ ตามแผนเดิมที่วางไว้ ส่วนเป้าหมายรายได้ปี 2568 ยังคงตั้งไว้ว่าจะเติบโต 20% หรือ 23,000-24,000 ล้านบาท
บล. ดาโอ Downgrade หุ้น CBG
แต่ความเห็นนักวิเคราะห์ บล. ดาโอ มองต่างออกไปว่าประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ยังบานปลายต่อเนื่อง จนนำไปสู่คำสั่งปิดด่านชายแดนการค้า คาดว่าอาจกระทบต่อกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 340 ล้านบาท คิดเป็น Downside ที่ประมาณ -10%
หากอิงเป้าหมาย PE ที่ 24 เท่า แปลว่าจะได้ราคาเป้าหมายหุ้น CBG ปี 2568 ที่ 71 บาทต่อหุ้น และในกรณี Worst Case อิงเป้าหมาย PE ที่ 17.2 เท่า หรือ -2SD จะได้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 51 บาทต่อหุ้น ทว่ากรณีที่ไม่มีรายได้จากกัมพูชาเลยในปี 2569 คาดกระทบกำไรสุทธิปี 2569 ที่ 812 ล้านบาท หรือเป็น Downside ที่ -22%
CBG ส่งออกสินค้าไปกัมพูชาผ่านด่านอรัญประเทศและสระแก้ว โดยทาง distributor ได้สต็อกสินค้าเพิ่มขึ้นบางส่วนเพื่อป้องกันของขาดตลาด ปัจจุบันมีสต็อกที่ 1 เดือน และเตรียมแผนส่งทางเรือในกรณีปิดด่าน ซึ่ง distributor เป็นผู้รับค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มทั้งหมด อย่างไรก็ตาม distributor ที่กัมพูชาเผยยอด sell-out ปัจจุบันยังปกติ
บล. เคจีไอ มองเป็นโอกาส ความตึงเครียดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
บทวิเคราะห์ บล. เคจีไอ มองว่าราคาหุ้น CBG กลับมามองแนวโน้มเป็นบวกด้วย Risk/Reward ที่น่าสนใจขึ้น เพราะความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา เริ่มผ่อนคลายโดยมีข้อตกลงที่จะหยุดยิง นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) จะจัดขึ้นโดยกัมพูชาในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 แม้จะยังไม่มีการกล่าวถึงการเปิดจุดผ่านแดนอีกครั้งก็ตาม
ยืนยันประมาณการกำไรไตรมาส 2/2568 ของ CBG โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% QoQ และ 17% YoY หนุนจากยอดขายในประเทศเติบโตดีตามฤดูกาล ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพด้านต้นทุนจากต้นทุนน้ำตาล อะลูมิเนียม และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง
ดังนั้น ปรับเพิ่มคำแนะนำ CBG ขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิมถือ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสูงขึ้นที่ 61.50 บาทต่อหุ้น จากเดิม 52 บาทต่อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่า Risk-Reward ของ CBG น่าสนใจยิ่งขึ้นจากการที่ข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาดูเหมือนจะผ่านจุดต่ำสุดในระยะสั้นไปแล้ว ประเด็นนี้ทำให้ discount ของ valuation ลดน้อยลง รวมทั้ง sentiment ของนักลงทุนจะหันมามองเชิงบวกมากขึ้นในระยะกลางถึงยาว แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าติดตามต่อเนื่อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่ง 1,125-1,255 จุด จับตาส่งออกไทย-เจรจาภาษีทรัมป์
- ส่องทิศทางหุ้นไทยสัปดาห์หน้า! คาดแกว่งกรอบ 1,100-1,145 จุด จับตาภาษีทรัมป์
- ทิศทางหุ้นไทยสัปดาห์หน้า! คาดแกว่งกรอบ 1,100-1,160 จุด ลุ้นเจรจาภาษีสหรัฐ
ติดตามเราได้ที่