เดือดกลางสภา! ‘ภท.’ แฉงบไม่ถึงพื้นที่ชายแดน รมช.มท.โฟนอินผวจ.อุบลฯ แจงสด ยันไร้ปัญหาใช้งบ
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่รัฐสภา มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายฉลาด ขามช่วง เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 โดย น.ส.สาวิตรี ชำนาญกิจ เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เข้ามายังพิธี โอกาสนี้ ข้าราชการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมพิธีด้วย ภายหลังพิธีโปรดเกล้าฯ นายฉลาด เปิดเผยว่า ก่อนที่จะมารับตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 2 ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนสมาชิกทุกรุ่นว่าแนวทางการพัฒนาสภาควรเป็นอย่างไร เพื่อให้สภาน่าอยู่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนทั้งประเทศ เป็นที่พึ่งของประชาชน
“ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ผมจะเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งในการทำหน้าที่อาจจะไม่ถูกใจบ้างแต่ถูกข้อบังคับ รัฐบาลเรามีเสียงจำกัดคือมากกว่ากึ่งหนึ่งไม่เยอะ สมาชิกทุกคนต้องเป็นองค์ประชุม แต่ที่สำคัญคือรัฐบาล หากจะว่ารัฐบาลเสียงไม่พอ ฝ่ายค้านไม่ต้องรับผิดชอบนั้นไม่ได้ ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต้องขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิก เป้าหมายของเราคือการแก้ปัญหาให้ประชาชน”
“ในอนาคตที่สภาเราเหลือเวลาอีกไม่เยอะ อีกประมาณ 2 ปีก็จะมีการเลือกตั้งใหม่แล้ว ผมจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสภา จะรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่วันที่ 1 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดวินิจฉัยคดีของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา คนที่ 1 (ถูกร้องเรียนเรื่องผันงบประมาณลงพื้นที่ตัวเอง อาจกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ม.144) นั้น ได้คุยกับนายพิเชษฐ์ เขาบอกว่าบริสุทธิ์ใจ แต่ผลจะเป็นเช่นไรขึ้นกับศาล”
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้สอบถามว่า เหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มาสำรองจ่าย ในเมื่อท่านมีงบประมาณในมือหลายแสนล้านบาท มีทั้งงบกลางที่ใช้ง่ายมาก และยังมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ท่านอ้างว่าจะดูแลประชาชน เก็บไว้ทำไม เงินเยียวยาหากเปรียบเทียบกับกรณีผู้เสียชีวิตภาคใต้ จะได้เงินเยียวยา 7 ล้านบาท แต่กรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ท่านให้ 1 ล้านบาท วันนี้พวกท่านใจดำเกินไป
“รมช.อิ่ม” ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงว่า เราลงไปตั้งแต่ช่วง 1-3 วันแรก งบประมาณช่วยเหลือได้อนุมัติลงไปทันที จังหวัดละ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นกรอบวงเงินที่ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ดำเนินการได้ทันที มั่นใจว่าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ นอกจากนี้ ได้เรียกประชุม ผวจ. 7 จังหวัดชายแดน ให้ยืดหยุ่นในการใช้งบประมาณ และเชิญกรมบัญชีกลางมาให้ข้อมูลหน่วยงานว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ อะไรที่ติดกฎระเบียบขอให้งดใช้หลักการนั้นๆ เพื่อให้ใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และยังมีเงินเยียวยาของกรมคุ้มครองสิทธิฯ ประกันสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพิ่มเติมในส่วนของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับผลกระทบ และจะไม่มีการเรียกเก็บค่าน้ำ ค่าไฟตามศูนย์อพยพต่างๆ
นายธนา ยังถามถึง ความล่าช้าเรื่องการสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ เมื่อรัฐบาลมี sms alert (การเตือนผ่าน SMS) ทำไมไม่ส่งข้อความแจ้งเตือนประชาชน กลับให้ชาวบ้านดูข่าวจากโซเชียลมีเดีย ส่วนงบประมาณ ได้รับทราบจาก ผวจ.อุบลราชธานีที่อ้างว่าเบิกอะไรไม่ได้เลยกลัวติดคุก
ทำให้ รมช.อิ่ม ต่อสายถึงนายอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผวจ.อุบลราชธานี กลางห้องประชุมสภา เพื่อสอบถามปัญหาในการเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือประชาชนจริงหรือไม่ ซึ่ง ผวจ.อุบลราชธานี ยืนยันว่า “งบประมาณต่างๆ เบิกจ่ายได้ทั้งหมดไม่มีอุปสรรค” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงทันทีว่า น.ส.ธีรรัตน์ ทำผิดข้อบังคับการประชุม ให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุมโฟนอินเข้ามาได้อย่างไร เช่นนี้ ตนให้เพื่อนสมาชิกที่อยู่ในพื้นที่ และชาวบ้าน โฟนอินเข้ามาสอบถามในห้องประชุมได้ด้วยหรือไม่
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานในที่ประชุมได้ตักเตือน ก่อนที่ น.ส.ธีรรัตน์ จะชี้แจงต่อว่า งบประมาณที่ได้จังหวัดละ 100 ล้านบาท สามารถนำมาจ่ายเป็นเบี้ยเลี้ยงให้กับบุคคลภายนอกที่มาช่วยงานได้ ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายต้องรอฝ่ายความมั่นคงอนุญาตให้เข้าไปสำรวจความเสียหายได้ก่อน และให้ส่งเอกสารมาทางออนไลน์เพื่อดำเนินการจ่ายค่าชดเชยให้ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ไม่เคยหลับสบายใจแม้แต่วันเดียว พักหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ตื่นมาทำงานใหม่
ขณะที่นายธนา กล่าวว่า ฝากบอกพรรคร่วมรัฐบาล หากยังสนับสนุนรัฐบาล ที่บริหารประเทศบนความล้มเหลวล่าช้า นอนหลับบนความทุกข์ร้อนของประชาชน ถ้าคิดว่าทำได้ก็ขอให้อยู่กับรัฐบาลนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่ต้องห่วงว่าประชาชนจะกลัว เพราะประชาชนที่รักชาติพร้อมสู้ แม้รัฐบาลจะไม่ช่วย เราก็พร้อมดูแลตัวเอง.
"ทีมข่าวการเมือง"