“กังฟู” พบสถานทูตจีน ยื่น 3 ข้อ ช่องอานม้า ใครรุกล้ำ พร้อมชวนลงพื้นที่จริง
“กังฟู วสวรรธน์” โชว์พูดจีนพบสถานทูตจีน ตีแผ่ปัญหา “ช่องอานม้า” จ.อุบลราชธานี อยากให้ทูตเห็นกับตาว่าเราผ่อนปรนให้กัมพูชาขึ้นมาจนพวกเขาสร้างอนุสาวรีย์ - ทูตรับปากหากสถานการณ์เป็นปกติจะพิจารณาลงพื้นที่จริง
วันที่ 1 สิงหาคม 2568 นายวสวรรธน์ พวงพรศรี (กังฟู) หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง เข้ายื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ “ช่องอานม้า” อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยนายวสวรรธน์ได้ใช้ทักษะภาษาจีนสื่อสารชี้แจงข้อมูลด้วยตนเองอย่างเชี่ยวชาญ
โดยทูตจีนได้ให้ความสนใจและรับฟังข้อมูลเป็นอย่างดี พร้อมรับปากว่าหากสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนคลี่คลายลง มีความประสงค์จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจและทำความเข้าใจปัญหาที่แท้จริงด้วยตนเอง
สำหรับเนื้อหาในหนังสือที่ยื่น คือ
1. ความเป็นมาของพื้นที่: ในอดีตกว่า 50 ปีที่แล้ว ช่องอานม้าเคยเป็นเพียงเส้นทางลำเลียงไม้ของภาคเอกชนไทย แต่ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมและมิตรภาพ ฝ่ายไทยซึ่งมีภูมิประเทศอยู่บนหน้าผาสูง ได้ผ่อนปรนให้ชาวกัมพูชาซึ่งอยู่พื้นที่ต่ำกว่า “ขึ้นมา” ตั้งตลาดค้าขายบนแผ่นดินไทยเพื่อความสะดวก
2. การรุกล้ำและละเมิดข้อตกลง: หลังจากมีการทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี พ.ศ. 2543 ฝ่ายกัมพูชากลับสร้างชุมชนถาวรและรุกล้ำสร้างอนุสาวรีย์ “ตาอม” ซึ่งเป็นรูปนักรบชี้หอกมาทางฝั่งไทยในพื้นที่ดังกล่าว อันเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อตกลง
3. ข้อเท็จจริงการทำลายอนุสาวรีย์: เอกสารระบุว่าอนุสาวรีย์ดังกล่าวพังเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ผิดพลาดของทหารกัมพูชาเอง ตามที่กองทัพภาคที่ 2 ได้เคยแจ้งข้อมูลไว้
นายวสวรรธน์ได้ย้ำว่า การได้เห็นสภาพภูมิประเทศจริงจะทำให้เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า “ใครขึ้นมา” รุกล้ำพื้นที่ใคร และหากคณะทูตไม่ได้เยี่ยมชมด้วยตนเอง อาจทำให้ไม่ได้รับข้อเท็จจริงที่สำคัญ และทำให้การเสียสละของทหารไทยอาจไม่มีความหมาย หากนานาชาติไม่ได้รับรู้ความจริงในพื้นที่ และนอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงพื้นที่ “ปราสาทตาควาย” ซึ่งมีสถานการณ์คล้ายคลึงกันและควรค่าแก่การเข้าเยี่ยมชมเช่นกัน
“ท่านทูตตอบรับดีมาก หากเอกอัครราชทูตสามารถปฏิบัติหน้าที่เต็มได้แล้วจะมีการประสานงานส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตเข้าไปลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและสังเกตข้อเท็จจริงตามพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาต่อไปด้วย ผมหวังว่านี่จะเป็นการเปิดช่องทางการสื่อสารใหม่โดยตรงกับมหาอำนาจที่เป็นมิตรประเทศที่สำคัญของไทยเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาชายแดนที่เกิดขึ้น ช่วยให้ชาวอุบลราชธานี ชาวน้ำยืน และประชาชนไทยทุกคนได้มั่นใจว่าทุกฝ่ายจะคืนความเป็นธรรม คืนอธิปไตยให้แผ่นดินที่บรรพบุรุษและเหล่าทหารหาญได้เสียสละเลือดเนื้อแลกมาให้พวกเราไว้ได้” นายวสวรรธน์ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “กังฟู” พบสถานทูตจีน ยื่น 3 ข้อ ช่องอานม้า ใครรุกล้ำ พร้อมชวนลงพื้นที่จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน กัมพูชาละเมิดหยุดยิง “ภูมะเขือ-ช่องอานม้า” ใช้ปืนเล็ก ระเบิดขว้างเข้าโจมตีฐาน
- “กังฟู” พบสถานทูตจีน ยื่น 3 ข้อ ช่องอานม้า ใครรุกล้ำ พร้อมชวนลงพื้นที่จริง
- “กังฟู วสวรรธน์” แนะรัฐบาลไทยตอบโต้กัมพูชาหลังพาทูตทหารลงพื้นที่อานม้า
- รองโฆษก ทบ. เผย ไทยยิงโต้ตอบมีเป้าหมาย มุ่งลิดรอนกำลังรบกัมพูชาให้หมดขีดความสามารถ
- พาทูต-สื่อนอก ดูจุดถล่ม คร่าชีวิตคนไทย คณะ 24 ชาติลงชายแดนในวันนี้ สะท้อนความจริง กัมพูชาละเมิด
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath