EU เตรียมเพิ่มมาตรการตอบโต้ หลังแนวโน้มปิดดีลภาษีมะกันเลือนราง
EU เตรียมเพิ่มมาตรการตอบโต้ หลังแนวโน้มปิดดีลภาษีมะกันเลือนราง
นักการทูตของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า อียูกำลังพิจารณากำหนดมาตรการตอบโต้ทางภาษีในวงกว้างขึ้นต่อสหรัฐอเมริกา หลังแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับวอชิงตันดูเหมือนจะเลือนลางลง
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอียูมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงเยอรมนี กำลังพิจารณาการใช้มาตรการ “ต่อต้านการบีบบังคับ” ที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะเปิดทางให้อียูสามารถตอบโต้โดยจำกัดการให้บริการหรือจำกัดการเข้าร่วมประมูลของบริษัทสหรัฐ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันได้
คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งทำหน้าที่เจรจาการค้าในนามของ 27 ประเทศสมาชิกอียู เคยดูเหมือนใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐ โดยที่สินค้าจากอียูส่วนใหญ่จะยังคงถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 10% จากสหรัฐ แต่จะมีการผ่อนปรนบางประการให้
ความหวังดังกล่าวกลับพลิกผัน เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเรียกเก็บภาษี 30% ในวันที่ 1 สิงหาคม บวกกับการเจรจาระหว่างมารอช เชฟโชวิช กรรมาธิการการค้าของอียูกับคณะผู้แทนสหรัฐในกรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ
นักการทูตระบุว่า เชฟโชวิชได้รายงานสถานการณ์ปัจจุบันต่อคณะผู้แทนของอียูอย่างตรงไปตรงมาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมว่า การเก็บภาษีนำเข้า 30% จะทำให้การค้าระหว่างอียูและสหรัฐแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
นักการทูตอียูยังบอกด้วยว่า คณะผู้แทนสหรัฐเสนอแนวทางที่แตกต่างกันในแต่ละการประชุม ซึ่งรวมถึงการระบุอัตราภาษีนำเข้าพื้นฐานที่อาจสูงกว่า 10% มาก คู่หารือแต่ละคนที่เชฟโชวิชพบมีความเห็นที่ต่างกัน ไม่มีใครให้คำตอบได้เลยว่าสิ่งไหนที่ทรัมป์จะยอมตกลงด้วยจริงๆ
ขณะที่โอกาสในการผ่อนคลายหรือหรือยกเลิกภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 50% รวมถึงภาษี 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ที่สหรัฐเรียกเก็บจากอียูก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน
สหัฐยังปฏิเสธข้อเสนอของอียูที่ขอให้มี “ข้อตกลงหยุดนิ่ง” ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะรักษาสถานะปัจจุบัน โดยห้ามไม่ให้มีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมหลังจากบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันแล้ว โดยให้เหตุผลว่าทรัมป์จะไม่ยอมถูกจำกัดอำนาจในการใช้เหตุผลเรื่องความมั่นคงเพื่อดำเนินการสอบสวนทางการค้าในอนาคต ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าอย่างยา เซมิคอนดักเตอร์ และไม้
จากสถานการณ์ล่าสุดดังกล่าว อารมณ์ของชาติสมาชิกอียูจึงเปลี่ยนไป แลทำให้ขณะนี้หลายประเทศพร้อมจะดำเนินมาตรการตอบโต้มากขึ้น แม้ว่ายังยึดมั่นว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการเจรจาก็ตาม
ปัจจุบันอียูมีการกำหนดมาตรการตอบโต้ทางภาษีมูลค่า 2.1 หมื่นล้านยูโร หรือกว่า 7.9 แสนล้านบาท ต่อสินค้าสหรัฐฯ ซึ่งถูกระงับการบังคับใช้เป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 6 สิงหาคม และกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจเกี่ยวกับ มาตรการตอบโต้เพิ่มเติมมูลค่า 72,000 ล้านยูโร หรือกว่า 2.7 ล้านล้านบาท ต่อสินค้าสหรัฐด้วย
ขณะเดียวกัน อียูยังมีการหารือเกี่ยวกับการใช้มาตรการต่อต้านการบีบบังคับ (Anti-Coercion Instrument – ACI) ซึ่งเป็นกฎหมายที่เปิดทางให้อียูสามารถตอบโต้ประเทศที่ใช้นโยบายกดดันทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศสมาชิกเปลี่ยนนโยบายของตนได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
เดิม ACI ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับจีน แต่มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้อียูสามารถจำกัดการค้าด้านบริการของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันสหรัฐได้เปรียบดุลการค้ากับอียูในส่วนนี้ นอกจากนี้ยังจะจำกัดการเข้าถึงตลาดบริการทางการเงิน และการเข้าร่วมการประมูลของภาครัฐในอียู ทั้งนี้ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในอียูมีมูลค่าราว 2 ล้านล้านยูโรต่อปี
มาตรการที่เป็นไปได้ยังรวมถึงการการจำกัดการลงทุนของสหรัฐ การลดการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และจำกัดการนำเข้าสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์อาหารจากสหรัฐอีกด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : EU เตรียมเพิ่มมาตรการตอบโต้ หลังแนวโน้มปิดดีลภาษีมะกันเลือนราง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th