น้ำท่วมฉับพลันในฟิลิปปินส์ หลายหมื่นคนอพยพ พายุลูกใหม่คุกคาม
น้ำท่วมหนักฉับพลันในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพ, โรงเรียนและสำนักงานรัฐบาลต้องปิดทำการ ขณะที่พายุลูกใหม่กำลังก่อตัวขึ้นนอกชายฝั่ง
ผู้คนเดินลุยไปตามถนนที่ถูกน้ำท่วมในเมืองเซียนตา ทางตะวันออกของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม (Photo by Ted ALJIBE / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 กล่าวว่า เกิดภาวะน้ำท่วมหนักฉับพลันในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพหนี รวมถึงโรงเรียนและสำนักงานรัฐบาลต้องปิดทำการ
ตามรายงานของสภาจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และสูญหายอีก 6 คน หลังจากพายุโซนร้อนวิภาเคลื่อนตัวผ่านประเทศเมื่อวันศุกร์
หลายพื้นที่ในมะนิลาเผชิญน้ำท่วมขังสูงถึงระดับน่องในช่วงข้ามคืน หลังจากฝนตกหนักก่อนหน้านั้นไม่นานจนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำมาริกินาเอ่อล้นในระดับสูงถึง 18 เมตร (59 ฟุต)
ประชาชนกว่า 23,000 คนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำได้อพยพออกจากบ้านเรือนในช่วงกลางคืน และย้ายไปอยู่ตามโรงเรียน, ศาลาประชาคม และลานบ้านที่มีหลังคาคลุม
ประชาชนอีกประมาณ 47,000 คน ได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ทั่วเกซอนซิตี, ปาซิก และคาลูกัน รวมถึงเขตปกครองหลัก
มีเหตุการณ์ที่รถยนต์คันหนึ่งพร้อมหญิงชราและคนขับถูกพัดลงไปในลำธารที่เอ่อล้นขณะพยายามข้ามสะพานในเมืองคาลูกัน
ในเบื้องต้น คาดว่าทั้งคู่จะหนีรอดไปได้หลังจากพบรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งมีกระจกหน้าต่างแตก
แต่เดล กอนซาโล มาลาปิตัน นายกเทศมนตรีเมืองคาลูกัน ประกาศว่าพบศพแล้วหนึ่งศพ
"เราพบคนขับรถแล้ว ศพถูกกู้ขึ้นมาห่างจากจุดที่รถยนต์ถูกพัดไป 4.5 กิโลเมตร" เขากล่าวกับสถานีวิทยุ DZMM ในกรุงมะนิลา
เมื่อระดับน้ำท่วมเริ่มลดลงในกรุงมะนิลาในบ่ายวันอังคาร กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุว่า บริเวณความกดอากาศต่ำนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศได้พัฒนาเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน
แม้คาดว่าจะไม่ขึ้นฝั่ง แต่พายุดีเปรสชันลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นสัปดาห์
ในแต่ละปีมีพายุหรือไต้ฝุ่นอย่างน้อย 20 ลูกพัดถล่มหรือเข้าใกล้ฟิลิปปินส์ โดยภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของประเทศมักได้รับผลกระทบหนักที่สุด
ทั้งนี้ พายุที่รุนแรงและสร้างความเสียหายกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่โลกกำลังร้อนขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.