โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ทำไมข่าวลือผู้นำจีน ผุดไม่หยุด ‘ลือจริง’ หรือ ‘แค่เกมปั่น’

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หากจะถกหรือพูดถึงกลุ่มชนชั้นสูงทางการเมืองของจีนต้องพึงรำลึกไว้ก่อนว่า ข่าวลือเกี่ยวกับการทำงานภายในโปลิตบูโรเป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า “ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด”

ตัวอย่างหนึ่งในข่าวลือที่ไม่เป็นจริงและเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ การรายงานข่าวที่ผิดพลาดของสถานีโทรทัศน์ฮ่องกงที่รายงานการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมินในปี 2011 ก่อนที่เขาจะถึงแก่อสัญกรรมจริงในปี 2022 ที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องอนาคตของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ก็เป็นเรื่องที่ถูกคาดเดาไปต่างๆ นานา ไม่ต่างจากที่ผ่านมา ซึ่งมีผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึงวิกฤติการสืบทอดอำนาจที่ปธน.สีสร้างเอง และการขาดผู้สืบทอดหรือแผนที่ชัดเจนก็สร้างความไม่แน่นอนที่อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ได้

การที่ผู้คนหมกหมุ่นเรื่องอนาคตของสี จิ้นผิงแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของการเมืองที่ไม่โปร่งใสในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

สองสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เกิดการคาดเดาต่างๆ นานาว่าทำไมประธานาธิบดีสี ไม่เข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มบริกส์ (BRICS) ในบราซิล และการไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะของสี จิ้นผิงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดที่ไร้เหตุผลขึ้นมากมาย

แต่ทฤษฎีเหล่านั้นก็เงียบลงในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อผู้นำจีนพบปะกับ เอส. ชัยชานการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย, แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก Shanghai Cooperation Organization ในปักกิ่ง

การไม่เข้าร่วมประชุมสุดยอดบริกส์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาขึ้นมามีอำนาจนั้นไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับสี ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มเศรษฐกิจนี้ และทำให้กลุ่มเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันในการปรับเปลี่ยนสมดุลอำนาจโลก

รายงานจากหลายแหล่ง เผยว่า จีนส่งนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ไปร่วมประชุมบริกส์แทน และอ้างว่าเกิดจากปัญหาตารางงานทับซ้อน นอกจากนี้ยังมีรายงานที่อ้างถึงการพบปะกันบ่อยครั้งระหว่างสี จิ้นผิง กับหลุยส์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิลในช่วงปีที่ผ่านมา อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ตารางงานทับซ้อน และไม่สามารถไปร่วมประชุมบริกส์ได้

อย่างไรก็ตาม แม้สีออกงานและพบปะผู้นำต่างประเทศในระดับต่างๆ ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งข่าวลือต่างๆ ที่แพร่สะพัดได้

ข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาภายในกลุ่มผู้นำระดับสูงของจีนเคยปรากฏมาก่อนแล้ว ล่าสุดในปี 2022 ที่มีการกล่าวอ้างอย่างไม่มีหลักฐานถึงนายพลจีนคนหนึ่งว่าเขาก่อรัฐประหาร ข่าวนี้แพร่สะพัดในกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลและสื่ออินเดีย แต่ที่น่าสังเกตคือสื่อในอินเดียหยิบยกรายงานที่ไม่มีมูลมานำเสนอ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างจีนและอินเดียที่มีมานาน

ดังนั้น จึงไม่ประหลาดใจที่ข่าวลือเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ประเทศจีนจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงนี้

บิล บิชอป ผู้เขียนบทความเกี่ยวกับลัทธิจีน (Sinocism) ในแพลตฟอร์ม Substack และผู้ร่วมดำเนินรายการพอดแคสต์ Sharp China กล่าวในรายการล่าสุด “ผมเข้าใจว่าทำไมคนถึงอยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง“

"ความคิดที่ว่าคนใหม่จะเข้ามาและแก้ไขเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการรับมือกับรัสเซีย หรือบางทีอาจเปลี่ยนแนวทางในการค้าขาย เห็นไหม มันง่ายกว่ามากที่จะคาดหวังให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น แทนที่จะรับมือกับความเป็นจริง”

หากสังเกตการปรากฏตัวของประธานาธิสีผ่านสื่อรัฐบาลจะเห็นว่าเขามีสง่าราศีมากกว่าที่เคย ท่ามกลางการวิเคราะห์ว่าวันเวลาของผู้นำคนนี้กำลังจะหมดลงหรือไม่

เมื่อเดือนที่แล้ว China Media Project ได้ศึกษาวิจัยเพื่อประเมินว่าผู้นำจีนคนปัจจุบันถูกลดความสำคัญในสื่อรัฐบาลจริงหรือไม่ แต่ในทางกลับกัน ผลการวิจัยของหน่วยงานดังกล่าวไม่ได้พบแค่ว่า “สี จิ้นผิง” ยังคงมีอิทธิพลเหนือกว่าคนอื่นๆ เท่านั้น แต่ไม่พบสัญญาณใดที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้า (ในตำแหน่ง) ของสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองคนอื่นๆ เลย

แล้วเราจะถอดรหัสอะไรได้จากความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำระดับสูงของพรรคคอมิวนิสต์ แน่นอนว่าการอ่านเกมนี้เป็นเรื่องยาก

กัวกวง อู นักวิจัยอาวุโสด้านการเมืองจีน จากศูนย์วิเคราะห์จีน สถาบันนโยบายเอเชียโซไซตี กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกิดการกวาดล้างครั้งใหม่

หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สูญเสียอำนาจคือ พลเรือเอกเหมียว หัว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอิทธิในกองทัพจีนลำดับที่ 5 เขาถูกปลดตำแหน่งออกจากหน่วยงานระดับสูงของกองทัพจีนเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

นายพลเหมียวมีบทบาทสำคัญภายในกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่ถูกควบคุมจากพรรคคอมนิวสต์อีกที เหมียวรับผิดชอบในการเลื่อนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงและคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรค

ชะตากรรมของเหมียวก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการคาดเดาต่างๆ เกี่ยวกับอำนาจของสี

ทั้งนี้ ภายใต้การนำของสี รัฐบาลได้ปลดเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงมากกว่าสิบรายแล้ว นับตั้งแต่ปี 2024 ที่สั่งสืบสวนเกี่ยวกับการคอร์รัปชันในการซื้อฮาร์ดแวร์ในปี 2017

ผลการสืบสวนดังกล่าวส่งผลให้อดีตรัฐมนตรีกลาโหม 2 คนถูกขับออกจากตำแหน่งด้วยข้อหาทุจริต โดยถูกกล่าวหาว่ารับสินบน ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองของสหรัฐมองว่า การกวาดล้างครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อการค้นพบการทุจริตทางการเงินอย่างกว้างขวางในกองทัพ รวมถึงหน่วยงานที่ดูแลคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่กำลังขยายตัวของประเทศ ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรุกรานไต้หวัน เกาะปกครองตนเองที่จีนอ้างสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม การกวาดล้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เอี่ยวเรื่องทุจริตไม่ได้บ่งชี้ว่า สี จิ้นผิง ปลอดภัย แม้เขามีอำนาจที่มั่นคง

“เขาอาจปกครองจีนไปจนกว่าเขาจะ ‘ไปพบมาร์กซ์’” ตามสำนวนที่นิยมพูดกันในแวดวงคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะในประเทศจีนหรืออดีตประเทศคอมมิวนิสต์ ซึ่งสื่อถึง “การเสียชีวิต” หรือ “ตาย”

ในทุกก้าวเดิน ผู้นำจีนคนนี้ได้ฝ่าฝืนขนบธรรมเนียมประเพณีเพื่อเสริมแกร่งอำนาจ ซึ่งรวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง เพื่อให้เขาสามารถอยู่ในอำนาจได้อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งถือเป็นการแหกกฎการสืบทอดอำนาจที่กำหนดไว้หลังยุคเหมา เจ๋อตง

นอกจากนี้ สียังคงครองอำนาจต่อหลังอายุเกษียณ 68 ปีด้วย นั่นถือว่าเขาเพิกเฉยต่อบรรทัดฐานเดิมที่ระบุว่า ผู้นำที่มีอายุเท่านี้หรือมากกว่านั้นควรเกษียณอายุได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีข้อมูลที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับชะตากรรมของสี จิ้นผิง ผู้คนก็จะกันไปใช้วิธีการตีความเก่าๆ แบบ “ปักกิ่งวิทยา” ที่เคยใช้ในยุคสงครามเย็น หรือการอ่านสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ จากวงในของพรรค นั่นหมายความว่า สิ่งเดียวที่เราแน่ใจได้ว่าจะเกิดขึ้นคือ “ข่าวลือที่จะเพิ่มมากขึ้น” และแน่นอนว่าข่าวลือเหล่านั้น “ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องไม่จริง”

อ้างอิง: Bloomberg

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

สัมพันธ์'บ้านโล่สถาพรพิพิธ-บิ๊กเนมภท.' ไม่ใช่คนอื่นไกล?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ทักษิณ’ ประกาศ กลางวง พรรคร่วมฯ ‘เลือกตั้ง’ แล้ว จับมือกันต่อ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถึงเวลาที่ ธปท.จะ ‘เปิดประตูหอคอย ฟังเสียงบ้านนา’ ไม่ใช่แค่สนทนา ในกรอบสถิติ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่พร้อมมีลูกตอนนี้ Gen Z เลื่อนสร้างครอบครัว เศรษฐกิจไม่เอื้อ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

ยอดเสียชีวิตพุ่ง 27 ราย เหตุ ‘เครื่องบินกองทัพ’ ตกใส่ ‘โรงเรียน’ ในบังกลาเทศ

สวพ.FM91

อิหร่านยืนยันไม่ยอมถอย โครงการนิวเคลียร์คือ ‘ศักดิ์ศรีชาติ’ ‘ทรัมป์’ ไม่สน!! ลั่นพร้อมบอมบ์ฐานนิวเคลียร์อีก ถ้าจำเป็น

THE STATES TIMES

ดาราโหด ฆ่าแฟนสาว 16 แค้นถูกบอกเลิก นักแสดงคนแรกศาลสั่งประหารชีวิต

Thaiger

ช็อก จีนสั่งประหาร ดาราหนุ่ม จางอี้หยาง แทงแฟนสาววัย 16 เสียชีวิต ไม่พอใจถูกบอกเลิก

MATICHON ONLINE

เกาหลีใต้สังเวยน้ำท่วมพุ่ง 18 ศพ เตรียมรับมือ “คลื่นความร้อน” ถาโถมทั่วประเทศ

Khaosod

ยูเนสโก “ไม่ประหลาดใจ” ทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอีกครั้ง

เดลินิวส์

ชาวเน็ตสาปส่ง ครอบครัวเกาหลีรับหมาไปเลี้ยง 7 ชม. ก่อนจับโกนขน เอากลับมาทิ้งไว้ที่เดิม

Thaiger

สุดงง! ตำรวจจับโจรรุ่นลุง เลือกขโมยแต่รองเท้าข้างขวากว่าครึ่งร้อย

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...