สืบประชาชื่น สนธิตำรวจท่าเรือ ตามจับมือมีดแทงวินเจ็บ อ้างได้ยินเสียงหลอน มีคนจะมาโทรมเมีย จึงแทงฝากไป 1 ที
สืบประชาชื่น สนธิตำรวจท่าเรือ ตามจับมือมีดแทงวินเจ็บ อ้างได้ยินเสียงหลอน มีคนจะมาโทรมเมีย จึงแทงฝากไป 1 ที
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 20 ส.ค. พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น, พ.ต.ท.วิทวัส แสงเพิ่ม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ประจบ ศรีแสง พ.ต.ท.ธีรภัทร คารมย์ สว.สส.สน.ประชาชื่น ร.ต.อ.สงพงค์ เกื้อทองสั้น ร.ต.ท.รันดร งอนจัตุรัส รอง สว.สส.สน.ประชาชื่น
พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น และ สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันจับกุมตัว นายชอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4803/2568 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ความผิดฐาน "ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส" พร้อมของกลางมีดพับ 1 เล่ม เสื้อเชิ้ตสีดำแดง 1 ตัว กางเกงขายาวสีครีม 1 ตัว หมวกกันน็อคเต็มใบสีดำลายฟ้า โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ม.9 ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนศรศรีอยุธยา เมื่อเวลา 15.00 น.( 19 ส.ค. ) ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ส.ค. เวลาประมาณ 13.40 น. คนร้ายใช้อาวุธมีดแทง นายศิริชัย คนขับวิน จยย. ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอวด้านขวา เหตุเกิดหน้าปากซอยวงศ์สว่าง 11 เขตบางซื่อ กทม. จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิตเหตุ และพยานในที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบลักษณะรูปพรรณ การแต่งกายของผู้ก่อเหตุ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบตัวเก่อเหตุ คือนายชอ อายุ 30 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ
ต่อมาวันที่ 19 ส.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ หลบมาพักอาศัยอยู่ที่บ้าน ในพื้นที่ ม.9 ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานไปยังฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าเรือ ก่อนนำกำลังเข้าตรวจสอบ และพบนายชอ อายุ 30 ปี อยู่ภายในบ้าน จึงเข้าจับกุมก่อนพาตรวจค้นพบของกลางอาวุธและชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จากนั้นนำตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายชอ ยอมรับว่า ตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งมีคนมากระซิบในหูอยู่ตลอดเวลาว่านายนอ และนายกอ ซึ่งขับวินจยย. ซอยวงศ์สว่าง 11 จะมารุมโทรมภรรยาตัวเอง ในวันเกิดเหตุจึงได้ขับรถเข้ามาหานายนอ และนายกอ แต่มาเจอคนเจ็บกำลังจอดส่งคนที่หน้าปากซอย และจำได้ว่าขับวินเดียวกันกับนายนอ และนายกอ จึงกลับรถ แล้วใช้มีดแทงฝากไป 1 ครั้งก่อนจะขับรถหนีกลับมาที่บ้าน จากนั้นได้ขับรถกลับมาหลบที่บ้านใน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนมาถูกจับ ทั้งนี้ยอมรับว่าติดกัญชา และเวลาเสพเข้าไปก็มักจะได้ยินเสียงคนมากระซิบที่หูตลอดเวลา