“รมว.นฤมล” สั่ง สพฐ.ลบเนื้อหา“อดีตพระอลงกต” ออกจากแบบเรียน ป.5
“รมว.นฤมล” สั่ง สพฐ.ลบเนื้อหา“อดีตพระอลงกต” ออกจากแบบเรียน ป.5 ย้ำ แบบเรียนต้องปลูกฝังคุณธรรมที่ถูกต้อง ไม่ให้เยาวชนสับสนกับต้นแบบที่ผิดพลาด
วันที่ 27 ส.ค. 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.)เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบเนื้อหาแบบเรียนเสริมวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมีการยกย่องอดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ให้เป็นตัวอย่างบุคคลผู้มีจิตสาธารณะ ว่า ตนได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ตรวจสอบและสรุปผลแล้วว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เหมาะสมที่จะปรากฏอยู่ในหนังสือเรียนต่อไป
ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า ในอดีตพระอลงกตเป็นที่รู้จักจากการอุทิศตนดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ HIV และได้รับการยกย่องจากหลายภาคส่วนว่า เป็นผู้มีจิตอาสา แต่เนื่องจากปัจจุบันบุคคลดังกล่าวถูกดำเนินคดีในข้อหาคดีทุจริตยักยอก ฟอกเงิน และถูกสอบสวนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการปกปิดประวัติส่วนตัวที่แท้จริง ซึ่งถือว่า ขัดกับหลักคุณธรรมและจริยธรรมที่เด็กควรยึดถือเป็นแบบอย่าง
“เรื่องนี้กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญมาก เพราะแบบเรียนคือ สิ่งที่ปลูกฝังทัศนคติและค่านิยมให้กับเด็ก หากมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จะสร้างความสับสนในสังคมและทำให้เยาวชนเข้าใจผิดได้ จึงได้มีคำสั่งให้ถอดเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตพระอลงกตออกจากตำราเรียนทันที และยืนยันว่า การพิมพ์ตำราสำหรับปีการศึกษาหน้า จะไม่มีการปรากฏเนื้อหาดังกล่าวอีก”ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวต่อถึง โรงเรียนนาถะศาสตร์ ที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของอดีตพระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรีว่า ตนได้มอบให้คณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.)ตรวจสอบแล้วพบว่า โรงเรียนนาถะศาสตร์เป็นโรงเรียนเอกชน ประเภทสามัญศึกษา มีมูลนิธิอาทรประชานาถ เป็นผู้รับใบอนุญาต ซึ่งไม่ได้เป็นโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา โดยโรงเรียนแห่งดังกล่าวรับอุดหนุนตามอัตราของโรงเรียนทั่วไป 70% และมูลนิธิช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของนักเรียนอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นโรงเรียนแห่งนี้ถือเป็นโรงเรียนกินนอนที่มีนักเรียนอยู่ประมาณ 120 คน และผู้เรียนไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอน
“ในขณะนี้ขณะนี้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.)ลพบุรีอยู่ระหว่างการเข้าไปตรวจสอบข้อมูลของโรงเรียนว่า จะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่ โดยจะนำข้อมูลมาหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดในวันที่ 3 ก.ย.ซึ่งหากโรงเรียนได้รับผลกระทบด้านค่าใช้จ่าย หรือหากมูลนิธิดังกล่าวถูกระงับการทำธุรกรรม ทางศึกษาธิการ จ.ลพบุรี จะเข้าไปวางแนวทางแก้ไขร่วมกับโรงเรียน“