เป็นงง! เจ้าของเข้ายึดบ้านตัวเองคืนจากแก๊งบุกรุก แต่โดนฟ้องกลับ เสี่ยงติดคุก-โดนปรับเงินล้าน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานคดีแปลกของ มาริอา เจ้าของบ้านในเมืองคาร์กาซอน ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งกำลังต่อสู้ทางกฎหมายกับแก๊งผู้บุกรุกที่เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอโดยไม่จ่ายค่าเช่าเป็นเวลานานหลายเดือน ซ้ำยังฟ้องร้องเธอด้วยข้อหาบุกรุกและขับไล่โดยมิชอบ

คดีพิลึกนี้มีมูลเหตุเริ่มต้นขึ้นในฤดูร้อนปี 2565 เมื่อมาริอาฉวยโอกาสที่ผู้บุกรุกเดินทางไปพักผ่อนช่วงวันหยุดในสถานที่อื่น เธอจึงตัดสินใจบุกเข้าไปยึดบ้านของตัวเองคืน โดยก่อนหน้านี้ เธอเคยพยายามเจรจาให้พวกเขาจ่ายค่าเช่าหรือย้ายออกไป แต่แก๊งบุกรุกกลับปฏิเสธและเจ้าหน้าที่ทางการก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เธอแต่อย่างใด

มาริอาตัดสินใจที่จะลงมือเอง เธอเปลี่ยนกุญแจประตูบ้านและนำข้าวของบางส่วนของผู้บุกรุกไปขายต่อ เพื่อนำเงินมาชดเชยค่าเสียหายที่พวกเขายังค้างจ่าย แต่การกระทำครั้งนี้ กลับกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่

มาริอากล่าวว่าเธอตัดสินใจจะไล่พวกบุกรุกและยึดบ้านคืนด้วยตัวเอง เพราะต้องแบกรับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นทุกเดือน รวมถึงค่าผ่อนบ้านด้วย อีกทั้งการดำเนินการฟ้องร้องเพื่อขับไล่คนเหล่านี้ตามกฎหมาย ก็อาจใช้เวลายืดเยื้อนานกว่าหนึ่งปี ซึ่งเธอไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากขนาดนั้นได้ ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่มีทางเลือก

"ฉันคิดถึงช่วงหยุดฤดูหนาว ฉันคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น โดยเฉพาะเรื่องเงินที่ฉันจะต้องเสียไป" มาริอากล่าว "เพราะตอนนั้นฉันต้องผ่อนบ้านมา 5 เดือนแล้ว แต่พวกเขายังไม่จ่ายค่าเช่าเลย ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันจะต้องเป็นหนี้มากกว่า 20,000 ยูโร (ประมาณ 755,820 บาท) แน่นอน ฉันไม่พร้อมที่จะเสียเงินจำนวนนั้น"

หลังจากเปลี่ยนกุญแจเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกกลับเข้ามาได้ มาริอาก็นำข้าวของของพวกเขาออกจากบ้านจนหมด และนำบางส่วนไปขายเลหลังเพื่อเอาเงินมาชดเชยค่าเช่าและค่าน้ำค่าไฟที่พวกเขาค้างจ่าย ต่อมาภายหลัง เธอจึงได้รู้ว่าการกระทำของเธอนั้น ส่งผลกระทบร้ายแรงกว่าที่คิดไว้มาก

"ฉันเอาของออกจากบ้านจนหมด พอพวกเขากลับมาจากวันหยุดก็โทรฯ แจ้งตำรวจ พวกเขารายงานเจ้าหน้าที่บังคับคดี และฉันก็ถูกเรียกตัวไปขึ้นศาล ตอนนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา" มาริอา กล่าว

เจ้าของบ้านผู้โชคร้ายกล่าวว่า เธอถูกตั้งข้อหาบุกรุกและขับไล่โดยมิชอบ และหากศาลตัดสินว่าเธอมีความผิดจริง มาริอาอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี และต้องจ่ายค่าปรับ 100,000 ยูโร (ประมาณ 3.7 ล้านบาท)

ที่มา : odditycentral.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES