KTB ซีจีเอสไออัพประมาณการกำไร-ราคาเป้าหมาย มองงบดุลแกร่ง
#KTB #ทันหุ้น-ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ออกบทวิเคราะห์หุ้นธนาคาร กรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTB โดยได้ปรับประมาณการ EPS ขึ้น 6.1-10.9% ในงวดปี 2568-2570 หลังปรับเพมิ่ สมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และปรับลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ พร้อมทั้งปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 28.60 บาท ยังแนะนำซื้อ
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ โดยเชื่อว่าการเติบโตของสินเชื่อในปี 68-69 ของ KTB จะมี upside จากสินเชื่อรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งมีสัดส่วน 20% และ 25% ของยอดสินเชื่อรวมในไตรมาส 2/68 ตามลำดับ โดยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 จะเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาครัฐมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น ขณะที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ซึ่งบริหารโดยกระทรวงการคลัง ถือหุ้น 55% ใน KTB นอกจากนี้ คาดว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่จะเพิ่มก้าวกระโดดในไตรมาส 3-4/68 จากความต้องการสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน
งบดุลของ KTB แข็งแกร่งขึ้น เห็นได้จากอัตราส่วน NPL ที่ลดลงเหลือ 3.54% ใน ไตรมาส 2/68 จาก 3.90% ในไตรมาส 4/ 65 นอกจากนี้ KTB ยังมีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL เพิ่มเป็น 194% ในไตรมาส 2/68 จาก 180% ในไตรมาส 4/65 เนื่องจากมีนโยบายตั้งสำรองที่ conservative และการบริหารจัดการ NPL ในเชิงรุก ซึ่งกลุ่มธนาคารที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯศึกษา พบว่า KTB เป็นธนาคารที่มีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL สูงสุดเป็นอันดับสองรองจาก BBL ที่ 284% ในไตรมาส 2/68
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการ EPS ของ KTB ขึ้น 6.1-10.9% ในปี 68-70 หลังปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจาก 1.6-1.9% เป็น 2.4-10.8% สะท้อนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่แท้จริงในครึ่งปีแรก 68 โดยเชื่อว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเติบโตแข็งแกร่งจากการรับรู้กำไรจากการลงทุนและกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน
นอกจากนี้ ยังปรับประมาณการอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลงจาก 42.8-43.5% เป็น 42.0-42.1% ในปี 68-70 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารที่ 40-45% ในปี 68 รวมทั้งปรับลดสมมติฐานอัตราการสำรองหนี้สูญในปี 68 จาก 121bp เป็น 119bp เนื่องจาก KTB มีงบดุลแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL ที่สูงถึง 194% ณ สิ้นไตรมาส 2/68
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับราคาเป้าหมายหุ้น KTB ขึ้นเป็น 28.60 บาท จาก 25.00 บาท ซึ่งเท่ากับ P/BV 0.86 เท่าในปี 68 ยังแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจาก KTB มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 5.9-6.9% ต่อปีในปี 68-70 เทียบกับค่าเฉลี่ยของธนาคารในอาเซียนที่ 5.5-5.7% และการประเมินมูลค่าที่ P/BV 0.72 เท่าในปี 68 เทียบกับค่าเฉลี่ยของธนาคารในอาเซียนที่ P/BV 1.37 เท่าในปี 68 ยังน่าสนใจ โดยยังคงสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลของ KTB อยู่ที่ 49% ของกำไรสุทธิในปี 68-70 เพราะ KTB มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงแข็งแกร่งที่ 21.3% ในไตรมาส 2/68 ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบหากคุณภาพสินทรัพย์ลดลงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม KTB จะมี downside risk หากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน มี NPL เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยบวกจะมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของสินเชื่อรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจและอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ลดลง