สีจิ้นผิงและปูตินวิจารณ์ตะวันตก ในการประชุมสุดยอดระดับภูมิภาคที่จีน

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและวลาดิมีร์ ปูติน ผลัดกันโจมตีฝ่ายตะวันตกระหว่างการประชุมผู้นำยูเรเซีย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ปักกิ่งเป็นศูนย์กลางความสัมพันธ์ระดับภูมิภาค

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนยืนถ่ายภาพร่วมกันระหว่างพิธีต้อนรับการประชุมสุดยอดองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่เมืองเทียนจิน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม (Photo by Sergei BOBYLYOV / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียพบกันที่เมืองเทียนจิน ระหว่างการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่มีผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วม

องค์การดังกล่าวยกย่องตนเองว่าเป็นความร่วมมือที่ไม่ใช่แบบตะวันตกระหว่าง 10 ประเทศในภูมิภาค และมุ่งหวังที่จะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับพันธมิตรแบบดั้งเดิม

ประธานาธิบดีจีนใช้โอกาสนี้กล่าวปราศรัยต่อผู้นำหลายประเทศว่า สถานการณ์ทั่วโลกกำลังวุ่นวายและเชื่อมโยงกันมากขึ้น

ผู้นำจีนยังประณามพฤติกรรมกลั่นแกล้งจากบางประเทศ ซึ่งเป็นการกล่าวถึงสหรัฐอเมริกาอย่างอ้อมๆ

"ภารกิจด้านความมั่นคงและการพัฒนาที่ประเทศสมาชิกต้องเผชิญยิ่งท้าทายมากขึ้น และในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความปั่นป่วนและการเปลี่ยนแปลง เราต้องดำเนินตามจิตวิญญาณเซี่ยงไฮ้ต่อไป รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ขององค์การให้ดียิ่งขึ้น" ผู้นำจีนกล่าว

ขณะที่ปูตินใช้สุนทรพจน์ของเขาเพื่อปกป้องการรุกคืบยูเครนของรัสเซีย โดยกล่าวโทษชาติตะวันตกว่าเป็นชนวนเหตุให้เกิดความขัดแย้งที่กินเวลานานสามปีครึ่ง, คร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นราย และสร้างความเสียหายอย่างหนักในภาคตะวันออกของยูเครน

"วิกฤตนี้ไม่ได้เกิดจากการโจมตียูเครนของรัสเซีย แต่เป็นผลจากการรัฐประหารในยูเครนซึ่งได้รับการสนับสนุนและยุยงจากชาติตะวันตก" ปูตินกล่าว

กระทรวงการต่างประเทศของยูเครนเรียกร้องให้จีนทำงานเพื่อสันติภาพระหว่างการเยือนของปูติน โดยระบุในแถลงการณ์จากเคียฟว่า พวกเขายินดีต้อนรับบทบาทที่กระตือรือร้นมากขึ้นสำหรับรัฐบาลปักกิ่งในการช่วยสร้างสันติภาพบนพื้นฐานของการเคารพกฎบัตรสหประชาชาติ

ขณะเดียวกันปูตินได้ยกย่องความพยายามไกล่เกลี่ยของตุรเคียในความขัดแย้งกับยูเครน ในตอนที่เขาได้พบกับประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน

และต่อมา ปูตินได้พบกับประธานาธิบดีมาซูด ปีเซชเคียน ของอิหร่าน โดยคาดว่าทั้งคู่จะหารือเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลเตหะราน

ก่อนหน้านี้ ผู้นำจาก 10 ประเทศ ได้แก่ จีน, อินเดีย, รัสเซีย, ปากีสถาน, อิหร่าน, คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกิสถาน, อุซเบกิสถาน และเบลารุส ได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันบนพรมแดง

สีจิ้นผิง,ปูติน และนายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดียต่างพูดคุยกันโดยมีล่ามคอยประกบ ต่อมาโมดีและปูตินถูกถ่ายภาพขณะจับมือและพูดคุยกันในช่วงบ่าย

สื่อของรัสเซียรายงานว่า ทั้งคู่ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงพูดคุยกันแบบสองต่อสองในรถยนต์หุ้มเกราะของประธานาธิบดีปูติน ก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ

โมดีโพสต์ข้อความบน X พร้อมรูปถ่ายขณะเดินทางในรถยนต์ว่า "การสนทนากับเขามักจะให้ข้อคิดเสมอ"

ก่อนการประชุม โมดีกล่าวชื่นชมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่พิเศษและมีเอกสิทธิ์กับรัฐบาลมอสโก และเสริมว่าอินเดียต้องการให้ทั้งสองฝ่ายในความขัดแย้งสงครามยูเครน พบสันติภาพที่มั่นคง

การประชุมสุดยอด SCO เริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์ ก่อนพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่งเพื่อรำลึกครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ประเทศสมาชิกได้ลงนามในปฏิญญาเมื่อวันจันทร์ ซึ่งมีการตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในภาคส่วนต่างๆ เช่น ความมั่นคงและเศรษฐกิจ

ซินหัวเสริมว่า บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกยังยอมรับลาวเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ หรือ "คู่เจรจา" ด้วย โดยการประชุมสุดยอดครั้งนี้มีผู้สังเกตการณ์แล้ว 16 ราย

สีจิ้นผิงได้จัดการประชุมติดต่อกันหลายครั้งกับผู้นำหลายประเทศ รวมถึงประธานาธิบดีเบลารุสซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เหนียวแน่นของปูติน และนายกรัฐมนตรีอินเดียซึ่งเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018

โมดีกล่าวกับสีจิ้นผิงว่า อินเดียมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์บนพื้นฐานของความไว้วางใจ, ศักดิ์ศรี และความอ่อนไหวซึ่งกันและกัน

สองประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเป็นคู่แข่งกันอย่างดุเดือด โดยแข่งขันกันเพื่อช่วงชิงอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียใต้ และเคยเผชิญการปะทะกันบริเวณชายแดนอย่างรุนแรงในปี 2020

ความสัมพันธ์เริ่มคลี่คลายลงเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เมื่อโมดีได้พบกับสีจิ้นผิงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ในการประชุมสุดยอดที่รัสเซีย

ความสัมพันธ์ของทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กดดันยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของเอเชียทั้งสองประเทศด้วยมาตรการภาษีการค้า

ขณะที่ปีนี้มีผู้นำมากกว่า 20 คนกำลังเข้าร่วมการประชุมครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2001 และบุคคลสำคัญหลายคนที่มาร่วมประชุมจะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในวันพุธเพื่อชมขบวนพาเหรดทางทหาร ซึ่งคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะเข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า คิมเดินทางออกจากเปียงยางโดยรถไฟในบ่ายวันจันทร์ และคาดว่าจะถึงในวันอังคาร.