อัตราการว่างงานในอังกฤษสูงสุดติดต่อกันปีที่ 4 หลังรัฐบาลขึ้นภาษีธุรกิจ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ว่ารายงานโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักรระบุว่า อัตราการว่างงานในช่วง 3 เดือน สิ้นสุดเมื่อเดือน มิ.ย. 2568 อยู่ที่ 4.7% และไม่เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขพุ่งแตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2564
ความซบเซาส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นภาษีธุรกิจโดยรัฐบาลพรรคแรงงาน เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ท่ามกลางคำเตือนของนักวิเคราะห์ที่ระบุว่า ภาษีเหล่านี้จะทำให้บริษัทลดการจ้างงานลง และในเดือนเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% จากทั่วโลก
นางลิซ แมคคีโอน ผู้อำนวยการฝ่ายสถิติเศรษฐกิจของสำนักงานสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักร กล่าวว่า จำนวนพนักงานในบัญชีเงินเดือนลดลง 10 เดือนจาก 12 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในภาคธุรกิจบริการและค้าปลีก ด้านการเติบโตของค่าจ้างที่ไม่รวมโบนัสยังคงทรงตัว และแรงกดดันทางราคายังคงอยู่
ขณะเดียวกัน ตำแหน่งว่างยังลดลง 44,000 ตำแหน่งในช่วง 3 เดือนที่สิ้นสุดเมื่อเดือน ก.ค. เหลือ 718,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 และมีหลักฐานว่า บางบริษัทไม่ได้เปิดรับพนักงานใหม่ หรือสรรหาลูกจ้างมาแทนที่คนที่ลาออก.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES