โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

“ความท้าทาย” ของนักลงทุน คือ... การหาว่า “กองทุนใด” ที่ควรค่าในการลงทุนจริงๆ !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 11 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สรวิศ อิ่มบำรุง

Wealthy Way: รู้หรือไม่?…ปัจจุบัน (ณ 31 ก.ค. 25) มีกองทุนรวม 3,410 กอง จาก 23 บลจ. มูลค่ารวมกว่า 6.2 ล้านล้านบาท ให้คุณเลือกลงทุน

สำหรับสินทรัพย์การลงทุนหลักๆ ในโลกการลงทุนในปัจจุบัน มี “กองทุนรวม” ให้เลือกลงทุนครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นหุ้น, ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ทางเลือก ไม่เพียงเท่านี้ยังมี “ชนิดหน่วยลงทุน” (Share-Class) ให้เลือกลงทุนตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างเพิ่มเติมให้อีก

ด้วยตัวเลือกที่มากมาย ความท้าทายที่แท้จริงในปัจจุบันจึงไม่ใช่ “การหากองทุน” แต่เป็นการหาว่ากองทุนใดที่ควรค่าในการลงทุนจริงๆ มากกว่า

วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthythai’ มีเคล็ด (ไม่ลับ) ในการประเมินกองทุนใหม่จากทาง Morningstar” ที่น่าสนใจมาฝากกัน

.

5 เคล็ด (ไม่ลับ) ในการ…ประเมิน “กองทุนใหม่”

โดยทาง “บจ.มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)” เปิดเผยผ่านรายงานว่า นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกหรือข้อมูลวงในเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ที่สำคัญสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว ที่สำคัญยิ่งกว่า คือ นักลงทุนต้องรู้ว่าควรมองหาอะไร และนี่คือ 5 ขั้นตอนที่จะช่วยประเมินได้ว่า “กองทุนใหม่” มีความน่าสนใจที่จะลงทุนหรือไม่?
1. ประเมินความได้เปรียบของ “ผลิตภัณฑ์”

“กองทุนใหม่” จำนวนมากอ้างว่ามีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ในความเป็นจริงแล้วมีเพียงไม่กี่กองทุนเท่านั้นที่เป็นเช่นนั้น ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์ประเภทหุ้นเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น (Asia ex-Japan equities) มีการแข่งขันอย่างมากและถูกครองตลาดโดยกองทุนชั้นนำเพียงไม่กี่กองทุนที่ถือครองสินทรัพย์ส่วนใหญ่

“ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในกองทุนใหม่ ควรตรวจสอบเอกสารแนะนำกองทุนและเปรียบเทียบนโยบายการลงทุนกับกองทุนที่มีอยู่แล้ว กองทุนนั้นมีปรัชญา กระบวนการ หรือโครงสร้างพอร์ตการลงทุนที่แตกต่างอย่างแท้จริงหรือไม่? เครื่องมือจาก ‘Morningstar.com’ สามารถช่วยประเมินได้ว่ากลยุทธ์ของกองทุนนั้นโดดเด่นจริงหรือเพียงเลียนแบบตัวเลือกที่มีอยู่”

ในสินทรัพย์ที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง และ “กองทุนเชิงรุก” (Active fund) มักทำผลงานได้ต่ำกว่าตลาด ตัวเลือกอย่าง “กองทุนเชิงรับ” (Passive fund) ที่มีต้นทุนต่ำอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า กลยุทธ์แบบเชิงรับมักทำผลงานได้ดีกว่าในตลาดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น หุ้นสหรัฐขนาดใหญ่ (US large-cap equities)

“ขณะที่ ‘ผู้จัดการกองทุนเชิงรุก’ มีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าในตลาดที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า เช่น จีน หรือ อินเดีย เป็นต้น”

2.เน้น “เนื้อหา” มากกว่ากระแส

นักลงทุนมักถูกดึงดูดด้วยกองทุนที่ “ไล่ตามกระแส” ล่าสุด แต่แนวทางนี้มักทำให้ผิดหวังเป็นส่วนใหญ่ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อจะลงทุนในกองทุนธีม (Thematic funds) โดยเฉพาะกองทุนที่เกาะกระแสความนิยมในช่วงเวลานั้น

“งานวิจัยของ ‘Morningstar’ พบว่า กองทุนธีมมักทำผลงานได้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานหุ้นโลกในภาพรวม และนักลงทุนยิ่งทำให้ผลตอบแทนแย่ลงจากการเข้าลงทุนในจังหวะที่ไม่เหมาะสม ทางที่ดีควรมุ่งเน้นไปที่การประเมินว่ากองทุนดังกล่าวมีความสำคัญสำหรับในพอร์ตการลงทุนของคุณอย่างไร และสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินระยะยาวหรือไม่”

ก่อนลงทุน ควรถามตัวเองว่าธีมนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยระยะยาว เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร หรือการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ หรือไม่ หรือเป็นเพียงการเกาะกระแสระยะสั้น บางครั้งคุณอาจพบว่ามีกองทุนที่มีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายกว่า แต่ยังสามารถให้การลงทุนในธีมเดียวกันได้
3. ประเมินความเชี่ยวชาญของ “ทีมผู้จัดการกองทุน”

แม้กองทุนใหม่อาจยังไม่มีผลงานย้อนหลัง (Track record) แต่ “ผู้จัดการกองทุน” ย่อมมีประวัติการทำงาน ควรค้นหาประวัติของผู้จัดการพอร์ต ซึ่งมักมีอยู่ในเว็บไซต์ของบริษัทจัดการกองทุน และตรวจสอบประวัติการบริหารกองทุนผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Morningstar” ให้ความสำคัญกับผู้จัดการที่มีประสบการณ์ในสินทรัพย์ประเภทเดียวกันหรือใช้สไตล์การลงทุนแบบเดียวกัน และตรวจสอบกองทุนก่อนหน้าที่เคยบริหารว่ามีผลงานระยะยาวที่สม่ำเสมอหรือไม่

“นอกจากนี้ควรค้นหาชื่อผู้จัดการใน ‘Google’ เพื่อดูว่ามีการสื่อสารเกี่ยวกับปรัชญาการลงทุนของตนอย่างชัดเจนหรือไม่”

ผลงานในอดีตที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกับสินทรัพย์ประเภทนั้นๆ เป็นตัวบ่งชี้ที่มีประโยชน์ว่า “กองทุนใหม่” อาจถูกบริหารอย่างไรในอนาคต
4. ประเมิน “วิธีการสร้างพอร์ต” การลงทุน

แม้ว่า “กองทุนใหม่” อาจยังไม่เปิดเผยการถือครองหลักทั้งหมด แต่ “เอกสารแนะนำกองทุน” จะระบุการลงทุน (Investment universe) กลยุทธ์ และระดับความเสี่ยงของกองทุน ควรมองเรื่องการกระจายการลงทุน (Diversification) ว่ากองทุนจะถือหลักทรัพย์จำนวนมาก หรือกระจุกตัวในไอเดียเพียงไม่กี่อย่าง กำลังรับความเสี่ยงมากกว่าที่ชื่อกองทุนบ่งบอกหรือไม่ เช่น กองทุนตราสารหนี้หลักบางกองทุนอาจนำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนในพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง (High-yield bonds)

“การลงทุนแบบพอร์ตที่ ‘กระจุกตัว’ หรือ พอร์ตที่มีการ ‘กระจายการลงทุน’ แบบใดดีกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ คุณควรอ่านเอกสารกองทุนอย่างละเอียด ตั้งความคาดหวังที่สมเหตุสมผล เกี่ยวกับผลตอบแทนและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น”
5. “ต้นทุนต่ำ” ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาว

“ค่าธรรมเนียม” ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่บ่งบอกถึงผลตอบแทนระยะยาว กองทุนที่มีค่าธรรมเนียมต่ำมักอยู่ได้นานกว่าและทำผลงานได้ดีกว่ากองทุนที่มีต้นทุนสูงกว่า ควรตรวจสอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดและทำความเข้าใจวิธีการคำนวณค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมตามผลการดำเนินงาน (Performance fee) อาจลดผลตอบแทนลงอย่างมากขึ้นอยู่กับวิธีการเรียกเก็บ

“หากเป็นไปได้ ควรเลือกกองทุนที่มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้และโปร่งใส เงินทุกบาทที่จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมคือเงินทุกบาทที่ไม่ได้ถูกนำไปสร้างผลตอบแทนทบต้นให้คุณ”

ท้ายสุดทาง Morningstar” มองว่า “กองทุนใหม่” มักถูกโปรโมทว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม แต่การไม่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังนั้น เป็นเหตุผลให้ควรวิเคราะห์ตรวจสอบอย่างรอบคอบมากกว่าตัดสินใจตามอารมณ์ โดยการให้ความสำคัญกับข้อมูลต่างๆ ได้แก่ ความแตกต่าง เนื้อหา ประสบการณ์ของผู้จัดการ โครงสร้างพอร์ต และต้นทุน คุณสามารถใช้ข้อมูลที่เปิดเผยในเอกสารการลงทุน หรือเวปไซด์การลงทุน ที่มีอยู่เพื่อช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น

หวังว่า 5 เคล็ด (ไม่ลับ) ในการประเมิน “กองทุนใหม่” นี้ จะช่วยให้นักลงทุน “เลือกกองทุน” ได้อย่างเหมาะสมและตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Wealthy Thai

TTW หุ้นน้ำประปาสุดปัง จ่ายปันผลสูง 6% ต่อเนื่อง

1 วันที่แล้ว

STI จัดงานปัจฉิมนิเทศนักศึกษาฝึกงาน เสริมประสบการณ์จริง สร้างบุคลากรคุณภาพสู่อนาคต

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่นๆ

คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแกว่งกรอบ 32.10-32.80 บาท/ดอลลาร์ จับตาส่งออกไทย

The Bangkok Insight

ส่องพอร์ต "ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์" ซีอีโอ-ผู้ถือหุ้นใหญ่ PLANB พบถือหุ้น 4 บริษัท มูลค่า 5.5 พันลบ.

Share2Trade

GPSC ปิดดีลขายหุ้น โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม รุกกลยุทธ์ปรับพอร์ต

The Better

‘GPSC’ รุกปรับพอร์ตลงทุน ปิดดีลขายหุ้น 33.33% ‘โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม’

The Bangkok Insight

JGS ผนึก JMART-HUAWEI รุกตลาด Solar Rooftop ปั๊มรายได้ปี 68 แตะ 150 ล้านบาท!!

The Better

บล.ดาโอ แนะนำ “ซื้อ” CK ปรับเป้าขึ้นเป็น 23.50 บาท กำไร 2Q68 ดีกว่าคาด ส่วนแบ่งกำไร CKP ดีขึ้น

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...