วิโรจน์ ลุกขอตัดงบ 'พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า' มรดกคสช. ฉะ ผูกพันงบไม่รู้จบ ปรับปรุงภูมิทัศน์แพงกว่าสวนเบญจกิติ
วิโรจน์ ติงงบจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เรื่ององค์ความรู้ไม้มีค่า ฉะผูกพันไปถึงปีงบประมาณไหน จวกใช้งบไม่พอเพียง
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 14 สิงหาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณางบประมาณประจำปี 2569 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรา 16 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จากนั้นเวลา 16.15 น.ที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณามาตรา 17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกรรมาธิการ อภิปรายขอปรับลดงบประมาณในโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เรื่ององค์ความรู้ไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน ซึ่ง คสช.อนุมัติให้ดำเนินงานกรอบวงเงิน 2,456 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณปี 57-60 เดิมจะสร้างที่หอประชุมกองทัพบก แต่โครงการดังกล่าวไม่จบ เพราะย้ายไปก่อสร้างบนที่ดินเขตวังทองหลาง เนื้อที่ 79 ไร่ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.61 เพิ่มวงเงินก่อหนี้ 6,284 ล้านบาท พร้อมขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันถึงปี 2566 จนถึงปัจจุบันขยายเวลาก่อหนี้ และผูกพันข้ามปีงบประมาณ ที่ไม่รู้ว่าจะจบที่ปีงบประมาณใด
ทั้งนี้ การทำโครงการเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว การใช้งบประมาณต้องยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเคร่งครัด พอประมาณ มีเหตุผล และภูมิคุ้มกันที่ดี
นายวิโรจน์อภิปรายว่า ปีงบประมาณ 2569 สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้แจ้งใช้งบประมาณโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ในโครงการพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า รวม 401 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ 30 ไร่ งานระบบประกอบอาคารและภายนอก 105 ล้านบาท และงบงานระบบต่อเนื่อง 28 ล้านบาท เมื่อนำงบที่เกี่ยวข้องกับงานระบบออกไป งานปรับปรุงภูมิทัศน์อย่างเดียวจัดสรร 267 ล้านบาท สูงถึง 5,575 บาทต่อ ตร.ม. เมื่อเปรียบเทียบการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนเบญจกิติ มีค่าปรับปรุงภูมิทัศน์เพียง 2,000 บาทต่อ ตร.ม.เท่านั้น หรือมากสุดไม่ควร 3,000 บาทต่อ ตร.ม.
“งบประมาณในการปรับปรุงโครงการดังกล่าว จำเป็นต้องตั้งคำถามว่าไหนคือความมีเหตุผล พอประมาณ และภูมิคุ้มกันที่ดีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย แต่กลับนำเงินมาใช้แบบสุรุ่ยสุร่ายแทนไปพัฒนาประเทศ แก้ปัญหาปากท้อง ดูแลสวัสดิการประชาชน งบปรับปรุงภูมิทัศน์ควรอยู่ที่ 144 ล้านบาท
ดังนั้น เมื่อรวมงบทั้งโครงการแบบสมเหตุสมผลอยู่ที่ 278 ล้านบาท ไม่ใช่ 401 ล้านบาทตามที่หน่วยงานเสนอมา ดังนั้นงบที่ขอตั้งปี 69 จำนวน 60 ล้านบาท ก่อหนี้ผูกพัน 15% ตามมติ ครม.และจะผลักภาระปีงบประมาณ 70 อีก 341 ล้านบาท ไม่สมเหตุสมผล
ผมจึงขอปรับลดโครงการนี้ในปี’69 ลงจำนวน 18 ล้านบาทให้เหลือเพียง 41 ล้านบาท แต่ชั้น กมธ.ปรับลดเพียง 7 ล้านบาท ผมจึงจำเป็นปรับปรุงงบปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าอีก 11 ล้านบาท เพื่อให้เป็นประโยชน์กับแผ่นดิน ไม่ใช่ประโยชน์ของผู้รับเหมาไม่กี่ราย” นายวิโรจน์ระบุ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วิโรจน์ ลุกขอตัดงบ ‘พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า’ มรดกคสช. ฉะ ผูกพันงบไม่รู้จบ ปรับปรุงภูมิทัศน์แพงกว่าสวนเบญจกิติ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th