คัด 3 หุ้น โรงไฟฟ้าตัวท็อป! รับรัฐหนุนติด “โซลาร์รูฟ” ลดหย่อนภาษี 2 แสนบาท ดันดีมานด์พุ่ง
ท่ามกลางแรงกดดันจากต้นทุนพลังงานที่ยังทรงตัวในระดับสูง และความต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนที่ขยายตัวต่อเนื่อง รัฐบาลได้เร่งขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมพลังงานทางเลือก โดยล่าสุด ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กและภาคครัวเรือนที่ติดตั้งระบบ Solar Rooftop บนที่พักอาศัย โดยสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท
โดยมาตรการดังกล่าวไม่เพียงเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อภาคพลังงานหมุนเวียน แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการผลักดันเป้าหมายด้านความมั่นคงพลังงานและการลดคาร์บอนในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่นโยบาย Net Zero และต้นทุนพลังงานไฟฟ้ากำลังกลายเป็นวาระแห่งชาติ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาผลบวกเชิงกลยุทธ์ต่อกลุ่มผู้ประกอบการโซล่าร์ที่เริ่มรุกเข้าสู่ตลาดครัวเรือนอย่างจริงจังในปีนี้
ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวโดยอ้างอิงข้อมูลจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งระบุข้อมูลไว้ดังนี้ จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กและภาคครัวเรือนที่ติดตั้งระบบ Solar Rooftop บนที่พักอาศัย โดยสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท เพื่อช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน พร้อมกระตุ้นการลงทุนในพลังงานสะอาด
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังเตรียมนำร่างกฎหมายส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบ จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยเสริมแรงขับเคลื่อนภาคพลังงานสะอาดให้เติบโตต่อเนื่อง
จากประเด็นดังกล่าวบล.กรุงศรีประเมินว่าเป็น Sentiment บวกเล็กน้อยต่อผู้ประกอบการที่มีธุรกิจโซล่าร์สำหรับภาคครัวเรือน เช่น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF (คาดว่ามีสัดส่วนน้อยกว่า 1%) เนื่องจากเพิ่งเปิดตัวแบรนด์ “วันอาทิตย์” ซึ่งเป็นโซล่าร์ครบวงจรสำหรับครัวเรือนในไตรมาส 1/2568 โดยเปิดจำหน่ายผ่านช่องทาง AIS Shop
ขณะที่ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ซึ่งดำเนินธุรกิจโซล่าร์ครัวเรือนแบบครบวงจรภายใต้แบรนด์ GRoof มีสัดส่วนราว 5-7% ก็น่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการดังกล่าวเช่นกัน
ทั้งนี้จากการประเมินเบื้องต้น ภายใต้ต้นทุนไฟฟ้าในกรอบ 3.5–4 บาทต่อหน่วย พบว่ายังคงสูงกว่าต้นทุนการติดตั้ง Solar Rooftop และคาดสามารถคืนทุนได้ภายใน 7–8 ปี ภายใต้สมมติฐานหลัก ได้แก่ ตัดค่าเสื่อม 10 ปี และอายุใช้งานระบบ 10–15 ปี ,แผงโซล่าร์ผลิตไฟฟ้าเฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน,ประสิทธิภาพแผงลดลงปีละ 1–2% และมีการซ่อมบำรุงปีละ 1 ครั้ง
ดังนั้น หากมาตรการลดหย่อนภาษีวงเงิน 200,000 บาทนี้สามารถผลักดันได้อย่างต่อเนื่องควบคู่กับการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เอื้อต่อการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ในภาคครัวเรือน ก็จะเป็นพัฒนาการเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมโซล่าร์อย่างมีนัยสำคัญในระยะต่อไป
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงเลือก GULF (คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 56.50 บาท) และบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG (คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 8.00 บาท) เป็นหุ้นเด่น (Top Pick) ในกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากทั้งสองบริษัทยังมีธีมการเติบโตที่ชัดเจน และมีความเสี่ยงต่ำจากนโยบายลดค่าไฟฟ้าในไทยและเวียดนาม