กูรูจากฮาร์วาร์ด แนะนำ 3 วิธีแปลก ช่วยให้สมองแข็งแรง 1 ในนั้นทำได้ตอนอาบน้ำ
นักประสาทวิทยาจากฮาร์วาร์ด แนะนำ 3 วิธีแปลก แต่ได้ผลจริง ช่วยให้ "สมอง" แข็งแรง 1 ในนั้นทำได้ตอนอาบน้ำ
เมื่ออายุมากขึ้น สมองของเราก็เริ่มเสื่อมถอย ทั้งขนาดที่เล็กลง การสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทที่ช้าลง รวมถึงการไหลเวียนของเลือดที่ลดลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ ความจำ ความเร็วในการประมวลผล และการทำงานด้านความคิดอื่น ๆ
แน่นอนว่าคุณคงทราบดีอยู่แล้วว่า การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ จัดการความเครียด และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ล้วนช่วยให้สมองคงความสดใสได้นาน
นอกจากวิธีทั่วไปแล้ว ยังมีเทคนิคแปลกใหม่ที่ช่วยกระตุ้นสมองได้ เช่น การเรียนดนตรี ลองใช้มือที่ไม่ถนัดทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้านบ้างเป็นครั้งคราว
Courtesy of Kevin Woods
ดร.เควิน วูดส์ นักประสาทวิทยาจากฮาร์วาร์ด และผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ Brain.fm แพลตฟอร์มสตรีมเพลงที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นคลื่นสมอง ยังแนะนำวิธีง่าย ๆ อีก 3 อย่างที่ช่วยเสริมสุขภาพสมอง โดยไม่ต้องใช้ความคิดซับซ้อนเลย
3 วิธีแปลกช่วยเสริมสุขภาพ "สมอง"
เคี้ยวหมากฝรั่ง
การเคี้ยวหมากฝรั่งอาจช่วยกระตุ้นสมองได้หลายทาง แม้กลไกที่แท้จริงยังไม่ชัดเจนก็ตาม
มีงานวิจัยบางชิ้นเสนอว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ทำให้สมองได้รับออกซิเจนและกลูโคสมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณสมองส่วนหน้ากับฮิปโปแคมปัส ซึ่งมีบทบาทสำคัญด้านความจำและการเรียนรู้
การไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นนี้ ยังช่วยเพิ่มสมาธิ ลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ด้วย
สำหรับชนิดของหมากฝรั่ง ดร.วูดส์ แนะนำว่า ควรเลือกหมากฝรั่งที่มีรสชาติคงอยู่ได้นาน ไม่จืดเร็ว และไม่แตกหรือเละง่ายเมื่อเคี้ยวนาน ส่วนทันตแพทย์ก็อาจแนะนำให้ใช้แบบปราศจากน้ำตาล เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อฟัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีทางเลือกแปลกกว่านั้น งานวิจัยล่าสุดพบว่า การเคี้ยวสิ่งที่แข็ง เช่น ดินสอไม้ อาจช่วยเพิ่มระดับกลูต้าไธโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญในสมอง (ขณะที่หมากฝรั่งไม่ได้ให้ผลแบบเดียวกัน)
เดินถอยหลัง
“การเดินถอยหลังช่วยส่งเสริมสุขภาพสมอง เพราะเป็นการท้าทายสมอง กระตุ้นสมาธิ และเสริมสร้างการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท อีกทั้งยังอาจสร้างเส้นทางใหม่ในสมองได้” ดร.วูดส์ กล่าว
“งานวิจัยพบว่าการเดินถอยหลังช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมความคิดและการเรียกความทรงจำได้ดีขึ้น”
หรือที่เรียกว่า “เดินย้อน” วิธีนี้ยังช่วยพัฒนาความสมดุล การประสานงานของร่างกาย ท่าทางการยืน ช่วยเสริมกล้ามเนื้อบางส่วน ลดอาการปวดหลังส่วนล่าง และเผาผลาญแคลอรีได้มากกว่าการเดินปกติ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เริ่มช้า ๆ เลือกเส้นทางที่ไม่มีสิ่งกีดขวางและพื้นเรียบ เสมอตัวทั้งศีรษะและลำตัว ใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เดินโดยวางปลายเท้าก่อน และให้ระมัดระวังสิ่งรอบข้างอยู่เสมอ
ฮัมเพลง
การฮัมเพลงช่วยบรรเทาความเครียดและส่งเสริมความผ่อนคลายได้ โดยกระตุ้นเส้นประสาทวากัส ซึ่งเป็นเครือข่ายเส้นใยมากกว่า 200,000 เส้นที่เชื่อมสมองกับอวัยวะสำคัญในร่างกาย
งานวิจัยชี้ว่า การฮัมยังช่วยเพิ่มระดับไนตริกออกไซด์ในโพรงจมูก ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง และช่วยยกระดับอารมณ์ให้ดีขึ้น
“การศึกษากับนักร้องประสานเสียงพบว่าการฮัมช่วยเพิ่มความแปรปรวนของอัตราการเต้นหัวใจและการทำงานของสมอง” ดร.วูดส์ อธิบาย “ยิ่งไปกว่านั้น การควบคุมลมหายใจเพื่อรักษาความถี่เสียงยังช่วยออกกำลังกายเครือข่ายประสาทที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสมาธิด้วย”
ดร.วูดส์ แนะนำให้ทำกิจกรรมทั้งสามนี้บ่อย ๆ และค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
เพราะสมองคือศูนย์กลางของความคิด ความรู้สึก และการกระทำ การดูแลสมองจึงสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดี
“แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะบอกเราได้ว่าควรลองอะไรบ้าง แต่ในระดับหนึ่ง สมองแต่ละคนก็ต้องการสิ่งที่แตกต่างกันเพื่อให้โฟกัสได้ดีที่สุด” ดร.วูดส์ กล่าว
“สิ่งที่คุณรู้สึกว่าช่วยได้ บางทีคนอื่นอาจรู้สึกว่ามันรบกวน ดังนั้นอย่ากลัวที่จะทดลองหาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง”