สหรัฐฯ จ่อขึ้นค่าวีซ่าท่องเที่ยวปี 2025 อาจต้องจ่ายทะลุ 14,000 บาท

ใครมีแพลนไปเที่ยวอเมริกาอาจจะต้องรู้ไว้ให้ดีเมื่อข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมปรับขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าครั้งใหญ่ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อนักท่องเที่ยวชาวไทย และหลายประเทศ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่าพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมจนต้องตกใจ

ค่าธรรมเนียมใหม่ที่ต้องจ่ายเพิ่มในการขอวีซ่าสหรัฐฯ

สิ่งที่มีการเพิ่มขึ้นนั้นเกิดเนื่องจาก ภายใต้ร่างกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า One Big Beautiful Bill Act รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ที่เรียกว่า "Integrity Fee" จำนวน 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,100 บาท) จากผู้ที่ยื่นขอวีซ่าชั่วคราวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว (B1/B2), วีซ่านักเรียน หรือวีซ่าทำงาน

เมื่อรวมกับค่าธรรมเนียมเดิม จะทำให้ค่าใช้จ่ายรวมในการขอวีซ่าท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้นทันที:

• ค่าธรรมเนียมเดิม: $185 (ประมาณ 6,800 บาท)

• ค่าธรรมเนียมใหม่ (Integrity Fee): +$250 (ประมาณ 9,100 บาท)

• รวมที่ต้องจ่าย (โดยประมาณ): $435 (กว่า 15,900 บาท)

ที่สำคัญคือ ค่าธรรมเนียมใหม่นี้ ไม่สามารถขอคืนเงิน, ขอยกเว้น, หรือลดหย่อนได้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่ก็ตาม

ทำไมถึงขึ้นราคา? และจะเริ่มเมื่อไหร่?

ซึ่งเหตุผลในการขึ้นราคานั้นทางรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่าการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปพัฒนาระบบความมั่นคงบริเวณชายแดนและปรับปรุงระบบตรวจคนเข้าเมืองให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในเรื่องของการเริ่มขึ้นราคานั้นจะมีผลในช่วงงบประมาณปี 2025 นั่นเอง

ผลกระทบต่อนักเดินทาง

เมื่อเรารู้ว่าขึ้นเท่าไหร่การปรับขึ้นราคาครั้งนี้สร้างความกังวลในแวดวงการท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมหาศาลตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเดินทาง และอาจทำให้ความฝันที่จะไปเยือนสหรัฐอเมริกาของใครหลายคนเป็นจริงได้ยากขึ้น โดยเฉพาะนักเดินทางจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางอย่างประเทศไทย

นอกจากนี้ ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในโครงการยกเว้นวีซ่า (Visa Waiver Program) เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์ ก็จะถูกปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการลงทะเบียน ESTA เช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงนโยบายในภาพรวม

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มีแผนจะเดินทางไปสหรัฐฯ ในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะช่วงปี 2025 อาจต้องรีบวางแผนทางการเงินและติดตามข่าวสารเรื่องการประกาศวันเริ่มใช้ค่าธรรมเนียมใหม่อย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะกระทบกับงบประมาณการเดินทางของคุณ และรวมถึงงบประมาณการไปเที่ยวเช่นกัน