นักวิทย์ฯชี้สภาพอากาศสุดขั้ว กำลังกลายเป็น “เรื่องปกติ”
สภาพอากาศที่รุนแรง เช่น คลื่นความร้อนและฝนตกหนัก ซึ่งเคยเป็นเหตุการณ์ผิดปกติในอดีต กำลังกลายเป็นเรื่องปกติในสหราชอาณาจักร รายงานฉบับล่าสุดจากทีมนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศเผยให้เห็นว่า ประเทศกำลังเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจนมากขึ้น
ข้อมูลจากสถานีอุตุนิยมวิทยาหลายร้อยแห่งทั่วประเทศพบว่า อุณหภูมิสูงสุดในแต่ละปีมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจำนวนวันที่อุณหภูมิสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของช่วงปี พ.ศ. 2504–2533 ถึง 5°C ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา หากเป็นวันที่สูงกว่า 8°C ตัวเลขเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า และหากสูงกว่า 10°C ตัวเลขเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่า นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังมีแสงแดดเพิ่มขึ้นถึง 8% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
นอกจากนี้รายงานยังระบุว่า ปริมาณฝนก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จำนวนเดือนที่มีฝนตกมากกว่าค่าเฉลี่ยสองเท่าได้เพิ่มขึ้นถึง 50% โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคม ซึ่งฤดูหนาวปี พ.ศ. 2566–2567 นับเป็นช่วงเวลาที่มีฝนตกมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี พ.ศ. 2310 ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ เช่น ดาร์บีเชอร์, นอตติงแฮมเชอร์ และเวสต์มิดแลนด์
นอกจากนี้ ระดับน้ำทะเลรอบสหราชอาณาจักรกำลังเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมชายฝั่งบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้นได้ถึง 200 เซนติเมตร ผลกระทบเหล่านี้ได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิตมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในอังกฤษและเวลส์ถึง 600 ราย และนักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า ความรุนแรงของคลื่นความร้อนนี้เพิ่มขึ้นถึง 100 เท่าเนื่องจากภาวะโลกร้อน
แม้ปัญหาจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การเตรียมพร้อมของรัฐบาลยังถูกวิจารณ์ว่า “ไม่เพียงพอ ไม่เป็นระบบ และขาดความต่อเนื่อง” รายงานยังระบุว่า ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพและสังคมยังไม่สามารถรองรับผลกระทบจากสภาพอากาศสุดขั้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากมนุษย์แล้ว ธรรมชาติก็ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน โดยในปี พ.ศ. 2567 พบว่าการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลเกิดเร็วขึ้น เช่น การวางไข่ของกบและการทำรังของนกแบล็กเบิร์ดเกิดเร็วกว่าค่าเฉลี่ย อีกทั้ง 12 ใน 13 เหตุการณ์สำคัญทางธรรมชาติที่มีการเฝ้าติดตาม เช่น การผลิดอกไม้แรกของพืชบางชนิด ก็ล้วนเกิดก่อนเวลาอันควร ซึ่งอาจทำให้ระบบนิเวศเกิดความไม่สมดุล โดยสิ่งมีชีวิตที่พึ่งพากันในห่วงโซ่อาหารหรือกระบวนการผสมเกสรอาจเกิดความคลาดเคลื่อน
รายงาน State of the UK Climate 2024 ซึ่งเผยแพร่ในวารสารวิชาการ International Journal of Climatology ระบุว่า 3 ปีล่าสุดติดอันดับ 5 ปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่สหราชอาณาจักรเคยมีการบันทึกมา โดยฤดูใบไม้ผลิปี พ.ศ. 2567 นับเป็นฤดูที่ร้อนที่สุด ก่อนจะถูกแซงหน้าในปี พ.ศ. 2568 ด้านนักวิทยาศาสตร์ยังเตือนว่า อุณหภูมิที่ถือว่าสูงในปัจจุบัน อาจกลายเป็นค่าปกติในปี พ.ศ. 2593 และถือว่า “เย็น” ในปี พ.ศ. 2643 หากไม่มีการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเร่งด่วน
รายงานฉบับนี้ไม่เพียงแต่เป็นบันทึกของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังถือเป็น “เสียงเตือนที่ชัดเจน” ถึงความจำเป็นในการดำเนินมาตรการอย่างจริงจังเพื่อเตรียมประเทศให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วที่กำลังจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตอันใกล้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง