“ทิสโก้” หั่นเป้ากลุ่ม “วัสดุก่อสร้าง” Q2 หวั่นยอดขายสาขาเดิมหด ชู HMPRO หุ้นเด่น
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า กลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านเผชิญความยากลำบากในไตรมาส 2/2568 โดยผู้ค้าปลีกรายใหญ่รายงานการลดลงของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อย่างเห็นได้ชัด สภาพอากาศที่ไม่เอื้อต่อการขายสินค้าตามฤดูกาล ประกอบกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นปัจจัยสำคัญ
นอกจากปัจจัยภายนอก บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ยังประสบปัญหาการขาดแคลนเหล็ก และปัญหาสินค้าคงคลัง เดือนเมษายนและพฤษภาคมได้รับผลกระทบโดยเฉพาะจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทำความเย็นที่อ่อนแอ และฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ขณะที่การดำเนินงานในเดือนมิถุนายนมีภาพรวมที่ผสมผสานกันในอุตสาหกรรม
โดยในกลุ่มบริษัทวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน บล.ทิสโก้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO โดยได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มการปรับตัวของผลการดำเนินงานในระยะใกล้ รวมถึงโมเมนตัมของ SSSG ที่เริ่มฟื้นตัว
โดย HMPRO รายงาน SSSG ในไตรมาส 2/2568 ลดลงประมาณ 7.4% อย่างไรก็ตาม การลดลงในเดือนมิถุนายนชะลอตัวลง เหลือประมาณ -5% โดยแบรนด์ Mega Home มี SSSG ลดลงไม่เกิน 5% ในไตรมาสเดียวกัน สาเหตุหลักของผลการดำเนินงานที่อ่อนแอในเดือนเมษายนและพฤษภาคม มาจาก 1) ยอดขายสินค้าตามฤดูกาล เช่น เครื่องปรับอากาศ ลดลง และ 2) ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยในเดือนมิถุนายน แม้ผลกระทบด้านฤดูกาลลดลง แต่แรงกดดันทางเศรษฐกิจยังคงส่งผลต่อยอดขาย
ขณะที่ DOHOME รายงาน SSSG ลดลงราว -8.5% ในไตรมาส 2/68 โดยเดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่ผลประกอบการอ่อนแอที่สุดแบบไม่คาดคิด SSSG ลดลงถึง -10% ถึง -12% สาเหตุไม่ใช่เพราะความต้องการลูกค้าลดลง แต่เกิดจากความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นหลังฝนตกหนักในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอุปทาน โดยเฉพาะสินค้าเหล็ก ทำให้บริษัทไม่สามารถตอบสนองต่อคำสั่งซื้อได้ และสถานการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่อมีการเลื่อนคำสั่งซื้อทั้งหมดจากการขาดสต๊อกสินค้ารายการเดียว
บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL รายงาน SSSG ในไตรมาส 2/68 ลดลงประมาณ -10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเดือนเมษายน SSSG ลดลง -15% จากสภาพอากาศเย็นที่ส่งผลต่อยอดขายเครื่องปรับอากาศ ส่วนเดือนพฤษภาคมลดลง -10% จากฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม เดือนมิถุนายน SSSG ปรับตัวดีขึ้นอยู่ในช่วง -5% ถึง -6%
แนวโน้มการขายในเดือนมิถุนายนสะท้อนภาพการดำเนินงานที่แตกต่างกันระหว่างผู้ค้าปลีกรายต่าง ๆ GLOBAL และ HMPRO มีโมเมนตัมที่ดีขึ้นเมื่อปัจจัยลบทางฤดูกาลคลี่คลาย ขณะที่ยอดขายของ HMPRO ลดลงน้อยลง เหลือเพียงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ส่วน DOHOME ยังคงเผชิญปัญหาห่วงโซ่อุปทานภายในซึ่งกระทบต่อความสามารถในการตอบสนองความต้องการ
บล.ทิสโก้ คาดว่าการฟื้นตัวของกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ได้แรงหนุนจากการดำเนินงานที่กลับสู่ภาวะปกติ ฐานเปรียบเทียบจากงวดเดียวของปีก่อน ที่เอื้อต่อการฟื้นตัว และแรงขับเคลื่อนจากโครงการก่อสร้างและการใช้จ่ายภาครัฐ
ด้านผู้ค้าปลีกมีผลการดำเนินงานดีกว่าภาควัสดุก่อสร้างฯ ในแง่ของ SSSG โดย CPALL และ CPAXT คาดว่าจะรายงาน SSSG ทรงตัวถึงติดลบเล็กน้อยในไตรมาส 2/2568 ขณะที่ BJC เผชิญ SSSG ที่อ่อนแอลงในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยภาพรวมกลุ่มค้าปลีกได้รับผลกระทบน้อยกว่า เนื่องจากยอดขายอาหารสดที่แข็งแกร่งขึ้น
บล.ทิสโก้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับหุ้น BJC ให้ราคาเหมาะสมที่ 32.00 บาท , CPALL ให้ราคาเหมาะสมที่ 83.00 บาท และ HMPRO ให้ราคาเหมาะสมที่ 13.10 บาท ตามลำดับ