กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน! ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง 12-13 ก.ค. 2568 เตรียมรับมือภาคเหนือ-อีสานอ่วม
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 5 (178/2568) เตือนประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568 จากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ร่วมกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยและทะเลอันดามันยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง
พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ได้แก่:
ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์
ภาคอีสาน: เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี
ภาคกลาง: นครสวรรค์ กาญจนบุรี
ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด
ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล
วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ได้แก่:
ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน ตาก พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์
ภาคอีสาน: เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี
ภาคกลาง: นครสวรรค์ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด
ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่
กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านจุดที่มีฝนตกหนักหรือเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก
ทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอาจสูงเกิน 3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว
เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดผ่านเว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง