กต.ประชุมทูตแจงปมเขมรลอบวางทุ่นระเบิดเย็นนี้ พร้อมทำหนังสือประณามโดยตรงถึงกัมพูชา ก่อนทำอีกฉบับถึง ปธ.ที่ประชุมออตตาวา
กระทรวงการต่างประเทศจัดบรรยายสรุปแก่คณะทูต-ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศเย็นวันนี้ ปมกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดช่องบก และเตรียมทำหนังสือประท้วงถึงกัมพูชาโดยตรง เพื่อประณามและเรียกร้องความรับผิดชอบ ก่อนตามด้วยฉบับที่ 2 ถึงญี่ปุ่นในฐานะประธานที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวา เรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อไทยและประชาคมโลก
วันนี้(23 ก.ค.) เวลาประมาณ 12.15 น.นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษกด้านการต่างประเทศของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ในวันนี้ว่า ในส่วนที่เป็นมิติด้านการต่างประเทศมี 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
ประเด็นแรกเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ เมื่อเช้านี้ ศบ.ทก.ได้รับรายงานจาก หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ว่าฝ่ายไทยก็ยังดําเนินมาตรเช่นเดิม คือมีการควบคุมจุดผ่านแดนที่เข้มงวด แต่ไม่ได้เรียกว่าเป็นการปิดด่านนตามที่ฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวหาในสื่อ เป็นการบริหารจุดผ่านแดนเพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนและเพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในช่วงนี้ในเรื่องของการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง
นางมาระตี กล่าวว่า การดําเนินมาตรการนี้ขอย้ำว่าฝ่ายไทยยังคงอนุโลมการผ่านแดนสําหรับเหตุผลด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่ประชุมวันนี้ก็ได้เห็นภาพเห็นสถิติว่าในบางจุดผ่านแดนมีการอนุโลมถึงหลักพันคน ทั้งนี้ฝ่ายไทยยังคงเปิดสําหรับรถสินค้าด้วย โดยมีเพียงฝ่ายกัมพูชาที่เป็นฝ่ายเดียวที่ยังคงปิดด่าน
สําหรับประเด็นที่ 2 คือการดําเนินการด้านการต่างประเทศ ตามมติของ ศบ.ทก.เกี่ยวกับเหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้เวลา 16:00 น.กระทรวงการต่างประเทศจะจัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ เป็นการบรรยายสรุปที่ต่อเนื่องจากการบรรยายสรุปประจําไตรมาสของทางกองทัพบก เมื่อวานนี้
การบรรยายสรุปของกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นการชี้แจงการดําเนินการและท่าทีจุดยืนของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่เคยจัดมาแล้วเป็นประจํา แต่ครั้งนี้จะเน้นในเรื่องของเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา และการดําเนินการต่อไป
การสรุปในวันนี้จะมีผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคงร่วมรายงานสรุป ได้แก่ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ ผู้อํานวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่เรียกว่า TMAC โฆษกฝ่ายความมั่นคงของ ศบ.ทก.(พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ)
นางมาระตี กล่าวอีกว่า การรายงานสรุปในวันนี้จะเป็นโอกาสสําคัญของไทยที่จะชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมหลักฐานที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้รวบรวมและประมวลมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ และที่สําคัญที่สุดก็คือผล ของการตรวจสอบตรวจค้นในพื้นที่เพิ่มเติมภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะต้องผ่านการกลั่นกรองให้รอบคอบเพื่อความถูกต้องของข้อมูล ก่อนที่จะสามารถส่งมาที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อเดินหน้าต่อในการประท้วง ขอขอบคุณหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่และในส่วนกลางในการทํางานอย่างไม่ลดละตั้งแต่เกิดเหตุ เพื่อให้มั่นใจว่าการดําเนินการของฝ่ายไทยรัดกุม และตรวจสอบได้
“วันนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะได้ทําการชี้แจงกับชาวโลกได้อย่างมีความมั่นใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการตรวจสอบเพิ่มเติมรวมถึงเนื้อหาที่กระทรวงการต่างประเทศจะเดินหน้าประท้วงต่อไป”
นางมาระตี กล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศจะมีหนังสือประท้วงฉบับแรกถึงฝ่ายกัมพูชาโดยตรง เพื่อประณามการกระทําที่เป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และเรียกร้องความรับผิดชอบจากฝ่ายกัมพูชา และฉบับที่ 2 จะเป็นหนังสือถึงญี่ปุ่นในฐานะประธานที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ตามพันธกรณีของไทยเอง ทั้ง 2 ส่วนนี้ก็เพื่อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อไทย ต่อประชาคมโลก และต่อประเทศและองค์กรที่สนับสนุนกัมพูชาในอดีตที่ผ่านมาในเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ให้พิจารณาในเรื่องนี้ด้วยในเวทีระหว่างประเทศ
“ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของแต่ละประเทศ รวมทั้งคํามั่นที่ประเทศนั้นได้ให้ต่อประชาคมระหว่างประเทศ มีความสําคัญยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่จะทําให้ประเทศนั้นน่าคบหานะคะ และเป็นที่เคารพของประชาคมโลก
“บทส่งท้ายของวันนี้ ดิฉันขอย้ำว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในขณ ะนี้รัฐบาลไทยหวังจะเห็นการทางออกในสื่อสังคมออนไลน์ ในโลกออนไลน์ที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น เพื่อลดอุณหภูมิของความตึงเครียดและส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศที่เอื้อต่อการหาทางออกร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย เป้าหมายสําคัญของฝ่าย ไทยโดยเฉพาะของกระทรวงการต่างประเทศก็ยังคงต้องเป็นในเรื่องของการกลับสู่โต๊ะเจรจา เพื่อหารือและคลี่คลายสถานการณ์โดยสันติวิธีนะคะ และหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะตอบสนองต่อคําเชิญของฝ่ายไทย ให้ร่วมประชุมเจบีซีในเดือนหน้า เดือนกันยายนนะคะ” นางมาระตี กล่าว
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO