โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ผังเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ กับกำเนิดสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สถานีรถไหัวลำโพงยุคแรกๆ (ภาพจาก www.matichon.co.th)

ผังเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ แรกเริ่มเป็นแบบไหน เกี่ยวอะไรกับ สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือ “หัวลำโพง” ?

การพัฒนาบ้านเมืองในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2411-2453) คือก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของสังคมสยามที่ต้องไหลเคลื่อนตามกระแสโลกให้ทัน การสื่อสารเดินทางที่มีความรวดเร็วเป็นเครื่องมือต่อรองอย่างหนึ่งกับมหาอำนาจภายนอกโดยใช้วิทยาการใหม่ ๆ ที่เข้ามาพร้อมกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาติตะวันตก

กิจการรถไฟที่เกิดขึ้นในยุคนั้นก็เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ชนชั้นนำสยามเลือกใช้สำหรับการนำพาเอารัฐชาติไปสู่ความเจริญ เพื่อรอดพ้นจากอาณานิคม และดึงดูดทรัพยากรจากส่วนภูมิภาคเข้ามายังพระนคร ขณะเดียวกันก็ได้กระจายเอาอำนาจการปกครองจากศูนย์กลางออกไปยังหัวเมืองห่างไกล ด้วยการสร้างจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสยามบริเวณฝั่งพระนคร (ทางรถไฟสายเหนือและอีสานอยู่ฝั่งพระนคร ส่วนสายใต้แรกเริ่มอยู่ฝั่งธนบุรี) เพื่อความสะดวกในการขนถ่ายผู้คนและสินค้าสู่วงจรธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

“ผังเมือง” กรุงรัตนโกสินทร์ สมัยแรกสร้าง

ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางใต้ของกรุงศรีอยุธยาหรือบางกอก ในเวลาต่อมาสถาปนาเป็น กรุงธนบุรี โดยมีศูนย์กลางอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำบริเวณป้อมวิไชยประสิทธิ์ และเมื่อถึง พ.ศ. 2325 รัชกาลที่ 1 ทรงย้ายศูนย์กลางทั้งหมดมารวมไว้ยังฝั่งตะวันออกเพียงจุดเดียว แล้วสร้างกำแพงเมืองใหม่ล้อมรอบเป็น กรุงรัตนโกสินทร์

“ผังเมือง” ของพระนครยุคแรก จึงจำกัดอยู่เพียงเฉพาะในตัวเมือง (และชุมชนทางฝั่งธนบุรีแต่เดิม) โดยมีพระบรมมหาราชวังที่ติดชิดแม่น้ำเป็นหลัก ส่วนทางซีกตะวันออกไปนั้นคือส่วนของเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ เช่น บริเวณใจกลางเมืองแถบวัดสุทัศนเทพวราราม โบสถ์พราหมณ์ มีถนนตัดเป็นตารางวางตามแนวรีและแนวขวาง และคลองคูเล็ก ๆ ที่ใช้สัญจรในเมือง เช่น คลองหลอดทั้ง 2 สายที่เชื่อมคูเมืองเดิมกับคูเมืองใหม่เข้าด้วยกัน

พอพ้นกำแพงพระนครออกไปแล้วเป็นที่ราบลุ่มต่ำและทุ่งกว้างไกลทางตะวันออก ทางตอนใต้นอกพระนครตามลำน้ำเจ้าพระยาไปเป็นชุมชนชาวจีน ซึ่งถูกโยกย้ายจากบริเวณเดิมไปตั้งกันที่ย่านสำเพ็ง ต่อเนื่องด้วยตลาดน้อยแถบวัดปทุมคงคาราม ถือเป็นจุดที่ตัวเมืองเบาบางลง

ในสมัยรัชกาลที่ 4 ประชากรคงเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ตัวเมืองขยายออกไปทางเหนือ ตะวันออก และ ตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวแม่น้ำ จึงได้มีการกำหนดขอบเขตพระนครกันใหม่ โดยขุดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นแนวคูเมืองชั้นนอกโอบล้อมพระนครเดิมไกลออกไป ชานเมืองสมัยแรกเริ่มได้กลายมาเป็นที่พื้นที่เมือง และในสมัยนี้ตัวเมืองได้มาบรรจบกับทุ่งกว้างทางตะวันออกอันมีชื่อเรียก เช่น ทุ่งพญาไท ทุ่งวัวลำพอง มีแนวคลองที่ขุดในสมัยรัชกาลที่ 3 – รัชกาลที่ 4 ตัดตรงออกไปจากพระนคร เช่น คลองมหานาค คลองถนนตรง ซึ่งปรากฏชุมชนเล็ก ๆ ขึ้นตามแนวคลองนี้

น่าสังเกตว่าสมัยต้นรัชกาลที่ 5 มีแผนสร้าง “วังใหม่” ให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้าวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร แสดงถึงแนวคิดที่จะขยายเมืองออกไปทางตะวันออกตั้งแต่ระยะนั้นด้วย ข้อมูลเหล่านี้เห็นได้จากแผนที่กรุงเทพฯ ที่จัดทำขึ้นในช่วงราวทศวรรษ 2430 (กลางสมัยรัชกาลที่ 5) ซึ่งแสดงอาณาเขตของตัวเมืองที่ขยายออกไปเต็มที่อยู่บริเวณ สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือชานทุ่งวัวลำพองนี้ด้วย

สรุปได้ว่า ผังเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ในช่วงราว 100 ปีแรกนั้น เกิดจากใจกลางบริเวณบางกอกหรือกรุงธนบุรีเดิม ก่อนจะค่อย ๆ ขยายตัวไปทางตะวันออกและทางเหนือ โดยในยุคนั้นจุดเชื่อมตัวระหว่างชานเมืองและในเมืองคือแนวคูเมืองและลำคลองต่าง ๆ

การสถาปนากิจการรถไฟและการสร้างสถานีกรุงเทพ

นับเอา พ.ศ. 2439 เป็นปีที่ราชสำนักกรุงเทพฯ ได้ริเริ่มกิจการรถไฟอย่างเป็นทางการ เพื่อพัฒนาบ้านเมืองและเชื่อมโยงเอาเครือข่ายจากพื้นที่ต่าง ๆ ของราชอาณาจักรเข้าสู่ศูนย์กลาง

เมื่อครั้งแรกเริ่มนั้น รถไฟสายแรกของสยามคือสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา กำหนดให้มีแนวขึ้นไปยังทิศเหนือ โดยได้วางจุดเริ่มต้นของทางรถไฟไว้ริมคลองผดุงกรุงเกษมฝั่งนอกทางทิศตะวันออกของพระนคร ที่ขยายตัวไปในสมัยรัชกาลที่ 4

แต่เดิม ตัวสถานีกรุงเทพได้ตั้งอยู่ ณ จุดที่มีพิธีเปิดการก่อสร้างทางรถไฟหลวงริมคลองผดุงกรุงเกษมบริเวณใกล้วัดเทพศิรินทร์ ตรงกับตึกบัญชาการการรถไฟฯ ในปัจจุบัน

หมายความว่า ตัวสถานีหันหน้าลงสู่คลองอันเป็นทางคมนาคมหลักในสมัยนั้น รับกับแนวเส้นตรงออกมาจากพระนครทางทิศตะวันตก แต่เมื่อราว พ.ศ. 2449 การรถไฟหลวงเห็นว่า สถานที่เดิมคับแคบและไม่สะดวกในการเชื่อมต่อคมนาคม จึงมีโครงการย้ายไปตั้งสถานีลงมาจากเดิมประมาณ 500 เมตร ใกล้จุดตั้งต้นของทางรถไฟสายปากน้ำ ที่เลียบคลองถนนตรงมายังคลองผดุงกรุงเกษม คือ สถานีหัวลำโพง

การก่อสร้างสถานีใหม่เริ่มขึ้นใน พ.ศ. 2453 สถานีกรุงเทพสร้างแล้วเสร็จเปิดใช้งานในวันที่ 25 มิถุนายน 2459 โดยออกแบบให้มีด้านหน้าสถานีวางยาวขนานกับคลองผดุงกรุงเกษมโดยเน้นให้ทางเข้าด้านหน้าอวดโครงสร้างสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ออกสู่ลานโล่งดังที่ยังเห็นในปัจจุบัน

ที่ตั้งของสถานีกรุงเทพนี้ มีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

1. เป็นชานพระนครในสมัยนั้นประกอบด้วยทุ่งโล่งที่เรียกกันว่า “ทุ่งวัวลำพอง” (ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเป็นต้นชื่อเรียกสถานีกรุงเทพว่า “หัวลำโพง”) ไม่มีชุมชนหนาแน่นกีดขวางโครงสร้างขนาดใหญ่ บ้างก็กล่าวว่าชื่อ “หัวลำโพง” เป็นชื่อเรียกดั้งเดิม เพราะตัวอาหารสถานีแลดูคล้ายดอกลำโพงขนาดใหญ่ แต่ชาวต่างชาติเรียกเพี้ยนไปในภายหลังเป็น “วัวลำพอง” ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับภูมินามของย่านสถานีกรุงเทพนี้ควรจะได้ศึกษากันต่อไป

2. เส้นทางคมนาคมเชื่อต่อกับภายในพระนครคือ คลองผดุงกรุงเกษม คลองมหานาค และออกยังแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทางตอนใต้ อีกทั้งยังมีคลองถนนตรง (คือแนวถนนพระราม 4 ในปัจจุบัน) ที่สามารถเดินทางไปยังปากน้ำอันเป็นเมืองท่าสู่ต่างประเทศได้โดยง่าย และตามแนวคลองถนนตรงนี้ได้สัมปทานเดินรถไฟสายปากน้ำอยู่ ทำให้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญระหว่างในเมืองกับนอกเมือง

3. บริเวณที่ตั้งของสถานีกรุงเทพเป็นจุดสิ้นสุดของชุมชนหนาแน่นที่ยาวจากชานพระนครสมัยแรกเริ่มตามแม่น้ำเจ้าพระยา นั่นคือสำเพ็งและตลาดน้อย หากพิจารณาจากหลักฐานที่เป็นแผนที่ในช่วงทศวรรษ 2430 แล้วจะพบว่า มีแนวถนนที่ตัดแยกจากถนนเจริญกรุง ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ตัดเลียบมายังบริเวณที่ตั้งสถานีกรุงเทพ ซึ่งทำให้เป็นการเปิดการคมนาคมทางถนนสมัยใหม่เชื่อมต่อกับทางรถไฟนอกเหนือจากลำคลองด้วย (ปัจจุบันคือส่วนต้นของถนนพระราม 4 ตั้งแต่แยกหมอมี)

การสร้างสถานีรถไฟบริเวณนี้ คือการเลือกทำเลใกล้ย่านธุรกิจที่เติบโตอย่างมากของพระนครในสมัยนั้น ซึ่งมีผลต่อความรวดเร็วและสะดวกในการเดินทางขนถ่ายผู้คนและสินค้า

จึงเห็นได้ว่า ที่ตั้งของสถานีกรุงเทพได้รับการออกแบบให้อยู่ในบริเวณชิดติดขอบชานเมืองกรุงเทพฯ ในสมัยนั้น โดยมีการเชื่อมต่อเข้าสู่พระนครกับการคมนาคมอื่น ๆ เช่นทางแม่น้ำลำคลองแลถนนที่เริ่มมีขึ้นได้อย่างสะดวกสบาย

ที่สำคัญคือ สถานีรถไฟกรุงเทพ ได้กลายเป็นจุดศูนย์รวมนานาทรัพยากรจากภูมิภาคต่าง ๆ ทางใกล้และไกล ขณะเดียวกันก็กระจายอำนาจการปกครองของสยามจากเมืองหลวงออกไปยังหัวเมืองต่าง ๆ และกิจการรถไฟนี้มีส่วนผลักดันให้เกิดความเจริญทั้งในพระนครและนอกพระนครอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 – รัชกาลที่ 6 เป็นต้นมา

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

หมายเหตุ : คัดเนื้อหาจาก “สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) กับผังเมืองกรุงรัตนโกสินทร์และมิวเซียมที่มีชีวิตของมหานครกรุงเทพ” เขียนโดย รศ.ดร. ประภัสสร์ ชูวิเชียร ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์2565 [จัดย่อหน้าใหม่และเน้นคำเพิ่มเติมโดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม]

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 มกราคม 2566

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผังเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ กับกำเนิดสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

เปิดที่มา “นาคหลวง” สมัย ร.6 ทำไมจำต้องทูลเกล้าฯ ถวาย “ยำปูเค็ม”

51 นาทีที่แล้ว

วิถีของ หลวงพ่อคูณ “พระบ้านบ้าน” ที่อยู่ในใจคนนับล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

รอยสัก minimal รวมไอเดียลายสักเล็กๆ น่ารักเกาหลี ดีต่อใจสุดๆ

SistaCafe

ประวัติศาสตร์ Stand-up Comedy ต้นกำเนิด ศิลปะที่เรียบง่าย เสียดสีสังคม แต่ทรงพลัง

SpringNews

Data Governance in Thailand

เดลินิวส์

Summer Sonic Bangkok พร้อมเดือด 2 วัน 2 เวที! เสาร์อาทิตย์ 23-24 ส.ค.

กรุงเทพธุรกิจ

ตัวเล็ก (TUA LEK) ซิงเกิลเปิดตัว WAV น้องใหม่จาก Smallroom ที่อยากเป็นตัวเล็กของใครซักคน

THE STANDARD

ป้ายยา รายการรีวิว ร้านอาหารสตรีทฟู้ดไทย โดยคนญี่ปุ่น ไวบ์อย่างได้ ดูทีไร คอแห้งทุกที!!

CatDumb

เปิดที่มา “นาคหลวง” สมัย ร.6 ทำไมจำต้องทูลเกล้าฯ ถวาย “ยำปูเค็ม”

ศิลปวัฒนธรรม

Shine the series การเมือง และเรื่องรักของ ‘ชาย’ ในยุคเปลี่ยนผ่าน

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

ผังเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ กับกำเนิดสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

ศิลปวัฒนธรรม

เรารู้ได้ไงว่า “พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2” เป็นผู้สถาปนา “นครวัด” ทั้งที่ไม่มีจารึกบอก?

ศิลปวัฒนธรรม

ที่สุดแห่งความภาคภูมิใจ แผนที่สมัยพระนารายณ์ แผ่นสุดท้ายในโลก!

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...