‘ธนกร’ ห่วงไทยเจรจาภาษีทรัมป์ไม่ทันเดดไลน์ฝาก ‘พิชัย’ แจง
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นำคณะเจรจาภาษีสหรัฐอเมริกาเข้าสู่กระบวนการเจรจาเกี่ยวกับภาษีอย่างเป็นทางการกับสหรัฐ โดยได้พบกับภาครัฐ และบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในระดับนโยบาย ทั้ง ประธานผู้แทนการค้าสหรัฐ และรมช.คลังสหรัฐ แล้ว ว่า ก็ยังมีความน่ากังวลเพราะการเจรจาดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเนื่องจากต้องมีการปรับข้อตกลงและเงื่อนไขใหม่ และเข้าใจว่าจะต้องนำข้อตกลงใหม่บินกลับไปเจรจากับทางการสหรัฐอีกรอบ ตนจึงรู้สึกเป็นห่วงว่ากระบวนการดังกล่าวน่าจะไม่ทันเดดไลน์ หรือเส้นตายที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศไว้ใน 90 วันซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 9 ก.ค.นี้ หรือมีเวลาแค่ 4 วันเท่านั้น ซึ่งตนมองว่านายพิชัยและทีมไทยแลนด์ ทีมนโยบายเศรษฐกิจจำเป็นจะต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อรองรับสถานการณ์เกี่ยวกับการเก็บภาษีของสหรัฐ ที่จะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกอย่างหนักแน่นอน
นายธนกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ถ้าไทยถูกเก็บภาษีที่ 36% เมื่อเทียบกับเวียดนามที่ถูกลดเหลือ 20% สินค้าไทยแพงกว่าตั้ง 16% ซึ่งภาคส่งออกของเราจะมีปัญหาแน่นอน ทำให้ความสามารถการแข่งขันในการส่งออกลดลง และสินค้าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากเวียดนามส่งออกสินค้าโครงสร้างใกล้เคียงกับไทย ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะภาคการส่งออกและการลงทุน สินค้าไทยที่ส่งออกไปสหรัฐจะมีราคาสูงขึ้น ทำให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และอาจส่งผลให้โรงงานในไทยต้องลดกำลังการผลิตหรือปิดกิจการ ซึ่งจะนำไปสู่การว่างงาน ตกงานและปัญหาค่าครองชีพในประเทศสูงขึ้นตามมา
"ขอฝากไปยังนายพิชัยและทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ต้องชี้แจงเรื่องนี้ให้ประชาชนเข้าใจภายหลังการเจรจาอย่างเป็นทางการรอบแรกไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนกลับมา และหลังจากนี้ต้องระดมความคิดจากผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเพื่อร่วมหาทางออกให้กับประเทศที่ดีที่สุด โดยรัฐบาลต้องเตรียมมาตรการสำรองหรือแผนฉุกเฉินออกมารองรับสถานการณ์ให้รอบด้านทุกมิติ เพื่อช่วยเหลือพยุงผู้ส่งออก ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของประเทศ เช่น การหาตลาดใหม่ที่ลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐ และมีมาตรการสนับสนุนด้านการเงิน และออกมาตรการช่วยเหลือแรงงานภายในประเทศไว้ล่วงหน้าด้วย" นายธนกร กล่าว.