อดีตรองเลขา สมช. จี้รัฐบาลเร่งแจ้งโลกไทยถูกรุกราน ห่วงเสียเหลี่ยมเขมร!
จากกรณีมีหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (UNSG ) แจ้งความประสงค์ของกัมพูชาที่จะฟ้องร้องเกี่ยวกับประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ นั้น แม้ว่าเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก ได้ส่งคำชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ไปแล้ว แต่หลายคนก็ยังมองว่าการที่กัมพูชา ชิงส่งหนังสือไปก่อนได้เปรียบ ไทยไม่ทันเกมกัมพูชาหรือไม่
ล่าสุด พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มองว่า แม้ทางการไทยมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงไปแก้ต่างต่อ เลขาฯ UN แล้วแบบทันควัน แต่ไม่ช่วยให้ประชาคมโลกรับรู้ว่ากัมพูชา เป็นฝ่ายรุกรานไทยก่อน เพราะหนังสือที่ชี้แจงส่งถึงแค่เจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาคมโลกรับรู้ คนอื่นเข้าใจกันไปหมดแล้วว่าไทยรุกราน ประเมินอย่างไรก็เสียเปรียบ แก้ตัวอย่างไรคนก็ไม่ทันฟัง "คีย์เวิร์ด" อยู่แค่ว่า "ไทยรุกรานก่อน"
ที่ผ่านมาทางการไทย โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง ไม่เคยออกมาประกาศอย่างเป็นทางการให้ประชาคมโลกรับรู้ว่าไทยถูกรุกรานก่อน แม้กระทรวงการต่างประเทศจะทำหน้าที่ได้ดี คือ ทำหนังสือชี้แจง เลขาฯ UN ได้เร็ว แต่เป็นเพียงกระดาษ ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้เป็นข่าว
พล.ท.พงศกร บอกอีกว่า วัตถุประสงค์หลักของกัมพูชา ในการส่งหนังสือร้องถึง เลขาฯ UN มี 2 ข้อ ข้อแรกคือต้องการทำให้ประชาคมโลกรับรู้ว่าไทยรุกรานเขาก่อน เวลาขึ้นศาลโลกทุกคนจะได้เห็นใจ มีผลในการตัดสินในทางที่เป็นประโยชน์กับเขา
ส่วนข้อที่ 2 คือต้องการแหย่ให้เกิดการปะทะให้ได้ เพราะถ้าเกิดการปะทะขึ้นมาเมื่อไหร่ การแก้ไขความขัดแย้งต้องผ่าน เลขาฯ UN หรือ สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อยุติปัญหา โดย เลขาฯ UN มีอำนาจให้สองประเทศไปขึ้นศาลโลกเพื่อยุติปัญหา
ส่วนการขึ้นศาลโลกนั้น กัมพูชา วางไว้ 2 รูปแบบ แบบแรกคือขึ้นศาลโลกไปฝ่ายเดียว แล้วประกาศให้ประชาคมโลกรู้ว่าไทยไม่ขึ้นศาล แล้วประกาศชัยชนะเป็นของตัวเอง แค่นั้นจบ แต่ตอนนี้กัมพูชา เห็นโอกาสว่าไทยเสียจังหวะ จึงขยับไปอีกก้าวด้วยการร้อง เลขาฯ UN และคิดว่ามีแนวโน้มสำเร็จ เพราะข่าวในต่างประเทศนำเสนอว่าไทยรุกรานกัมพูชา กลายเป็นว่าสองประเทศกำลังจะทำสงครามกัน เมื่อสองประเทศทำสงคราม จึงเข้าข่ายทะเลาะวิวาท ซึ่งผิดกฎบัตรสหประชาชาติ ดังนั้น ต้องให้สภาใหญ่แห่งสหประชาชาติ มาเป็นคนกลางแล้วสั่งขึ้นศาลโลก
พล.ท.พงศกร บอกอีกว่า เมื่อไทยรู้ความต้องการของกัมพูชา ดังนั้น ไทยต้องสกัดแก้เกมกัมพูชา ด้วย 2 วิธี โดยวิธีแรก ชุมชนระหว่างประเทศต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาคมโลกรับรู้ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายรุกรานไทย ส่วนวิธีที่ 2 ทหารไทยต้องไม่แสดงตัวมากเกินไป ถอนกำลังทหารให้เหลือเฉพาะทหารลาดตระเวน หรือตำรวจตระเวนชายแดน
ทหารที่ลาดตะเวนต้องมีกล้องติดตัวเหมือนกัมพูชาที่ถ่ายคลิปวิดีโอทหารไทย เอาไว้เก็บหลักฐาน ตั้งแต่การวางกำลังของกัมพูชา ได้ล้ำเขตแดนเข้ามา เข้ามาเมื่อไหร่ เพื่อเอาไปฟ้องประชาคมโลกให้รับรู้ ที่สำคัญอย่าปะทะกำลังบริเวณชายแดน แม้ทหารกัมพูชา พยายามแหย่และยั่วยุให้เกิดการปะทะตลอด เพราะถ้าปะทะขึ้นมา กัมพูชาจะถ่ายคลิปวีดีโอไว้เอาไปแสดงว่าไทยกับกัมพูชา ทะเลาะกัน ให้ เลขาฯ UN เข้ามาไกล่เกลี่ยพาขึ้นศาลโลก ถ้าหากขึ้นศาลโลก ประเทศที่ใหญ่กว่าย่อมเสียเปรียบ
อย่างไรก็ตาม พล.ท.พงศกร ยังมองว่าอีกจุดที่ทำให้ไทยยังขยับไม่ได้มาก เพราะจริงๆ แล้ว ฝ่ายการเมือง ที่มีการเรียกกันว่า Uncle ก็ยังมีการเกรงใจกันอยู่มาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กต.แจงกรณีกัมพูชา จ่อฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ต่อ ICJ
แฉ! “ฮุน เซน” แบนสินค้าไทยแต่ปล่อยนายทุนซื้อผ่านลาว ทำชาวกัมพูชาจ่ายแพงขึ้น
กัมพูชาโต้ “แพทองธาร” ย้ำปราสาทตาเมือนอยู่ในเขตแดนกัมพูชา
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อดีตรองเลขา สมช. จี้รัฐบาลเร่งแจ้งโลกไทยถูกรุกราน ห่วงเสียเหลี่ยมเขมร!
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com