โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

Red Hat ลุยต่อ "ปัญญาประดิษฐ์โอเพ่นซอร์ส" หนุนองค์กรพัฒนา AI แบบประหยัด GPU

Manager Online

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

เร้ด แฮท (Red Hat) เดินหน้าต่อพร้อมขับเคลื่อนการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เป็นมาตรฐานเปิดหรือโอเพ่นซอร์สทั่วประเทศ วางเป้าหมายเสริมศักยภาพองค์กรไทยสามารถนำข้อมูลของตัวเองมาใช้ในการฝึกฝนและใช้งาน (run) โมเดล AI ได้อย่างสบายกระเป๋ากว่าเดิม

นางสาวสุพรรณี อำนาจมงคล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เร้ด แฮท (Red Hat) กล่าวว่า Red Hat กำลังก้าวขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรัน AI workload ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งประกาศในงาน Red Hat Summit ที่บอสตันนั่นคือ Red Hat Inference Server ที่ถือเป็นหัวใจหลักในกลยุทธ์ AI ของ Red Hat ที่จะมาตอบโจทย์ความท้าทายที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการนำ AI ไปใช้งานจริง ในเรื่องของ ต้นทุนและประสิทธิภาพการใช้งาน

"เทคโนโลยีเบื้องหลังที่สำคัญของ Inference Server ก็คือ VLM (Virtual Last Language Model) ซึ่งเป็น Open Source ที่ Red Hat ได้มาจากการเข้าซื้อกิจการ Neural Magic เมื่อปลายปีที่แล้ว VLM ช่วยในการบีบอัดโมเดล และทำ CPU/Memory Slicing เพื่อให้การใช้ทรัพยากรเป็นไปอย่างเหมาะสมและยืดหยุ่น"

สุพรรณีอธิบายว่าในโมเดล AI ที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งกินทรัพยากร CPU หรือ GPU มหาศาล Red Hat Inference Server จะเป็น Engine ที่มาช่วยปรับแต่ง บีบอัด และปรับโมเดล AI เหล่านี้ให้มีขนาดเล็กลง ทำให้สามารถรันบนทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้การลงทุนด้าน AI คุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพราะช่วยลดความท้าทายเรื่องค่าใช้จ่ายของฮาร์ดแวร์ GPU ที่สูงมากในปัจจุบัน Red Hat ยังคงเน้นย้ำแนวคิด Open Technology ที่รองรับการรัน AI โมเดลใดก็ได้บนฮาร์ดแวร์อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น GPU ของ Nvidia, AMD, Intel หรือแม้แต่ TPU ของ Google และยังรองรับทุกคลาวด์ หรือ Data Center ของลูกค้าเอง

*** Virtualization แรงต่อ

นอกจาก Red Hat Inference Server บริษัทพบว่าตลาดเวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization) ในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนลูกค้าทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์เวอร์ชวลไลเซชันเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในช่วงปีที่ผ่านมา และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในภาคเอกชนและภาครัฐก็ยังคงได้รับความสำคัญอย่างต่อเนื่อง รับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยที่จะแตะ 144,400 ล้านบาทภายในปี 2568

สุพรรณีย้ำว่า Red Hat อยู่ในวงการ Virtualization มานานตั้งแต่ปี 2007 โดยเรือธงของบริษัทที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาคือการนำ Red Hat OpenShift ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนเนอร์ มาเพิ่มความสามารถให้รองรับ Virtualization workload ได้ด้วย

สิ่งนี้ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ทักษะและองค์ความรู้ชุดเดียวกันในการบริหารจัดการทั้งงานที่เป็น Virtualization แบบดั้งเดิมและงานที่ใช้ Container ได้อย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มเดียว ตอบโจทย์ในอนาคต หากงาน Virtualization ลดลงและ Containerization เพิ่มขึ้น ลูกค้าก็ยังคงใช้แพลตฟอร์มเดิมต่อยอดได้ทันที

"เพียงปีครึ่งที่ผ่านมา Red Hat พบว่าจำนวนลูกค้าทั่วโลกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Virtualization ของ Red Hat เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จำนวนคลัสเตอร์ใน Production เพิ่มขึ้น 2 เท่า และจำนวน VM ที่บริหารจัดการโดย OpenShift Virtualization ก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า"

ตัวอย่างการใช้งานจริงของ OpenShift คือกรณีของสายการบิน Emirate และ NDB ธนาคารยักษ์ใหญ่จากดูไบ ที่สามารถย้าย Core Banking และระบบ Payment ที่เป็น Workload สำคัญยิ่งขึ้น Virtualization บน OpenShift ได้สำเร็จ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของโซลูชันนี้

***ลินุกซ์เก่งกว่าเดิม

นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการ (Operating System) อย่าง Red Hat Enterprise Linux (RHEL) เวอร์ชั่น 10 ยังเป็นอีกโซลูชันหลักที่น่าจับตามองในปี 2025 โดยบริษัทได้รวมฟีเจอร์ AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ เพื่อทำให้ฉลาดขึ้นและใช้งานง่ายขึ้น เช่น ผู้ช่วย AI สำหรับคำสั่ง คาดว่าจะเร่งการนำ AI มาใช้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ก้าวใหม่ของ Red Hat ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับประเทศไทย ที่กำลังแสดงให้เห็นถึงโอกาสและความมุ่งมั่นอย่างมากในด้าน AI โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ AI ด้วยการวางกรอบการทำงานของ Thailand 4.0, มีการจัดตั้งคณะกรรมการ AI และนโยบายพาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหลักของ AI สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะที่เศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะสูง 144,400 ล้านบาทภายในปี 2568 พบว่าภาคเอกชนยังคงลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้ ขณะที่ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยมีการเติบโตสูงขึ้นประมาณ 54% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยมีทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศและผู้เล่น Public Cloud รายใหม่เข้ามาในตลาด

ในด้านการพัฒนาบุคลากรด้าน AI รัฐบาลมีแผนที่จะผลักดันความเชี่ยวชาญและการใช้งาน AI ภายในประเทศไทย โดยภายในสองปีข้างหน้า คาดการณ์ว่า 10 ล้านคนไทยจะใช้ Generative AI (GenAI) ได้เป็นเรื่องปกติ และประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่จะมีผู้เชี่ยวชาญ AI ทะลุ 90,000 คน และนักพัฒนา AI อีก 50,000 คน แน่นอนว่าบุคลากรเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้งาน AI ในประเทศไทย ครอบคลุมทั้งผู้ใช้งาน ผู้เชี่ยวชาญ และนักพัฒนา.

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

'ปักกิ่ง' ฝนถล่ม-น้ำท่วมหนัก เสียชีวิตแล้ว 30 คน-อพยพกว่า 80,000 คน

24 นาทีที่แล้ว

“ชาญ ศรีวิกรม์” ชวนคนดังท่องโลกแห่งนาฬิกา

32 นาทีที่แล้ว

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ จัดโครงการ “สยามรวมใจ ไทยช่วยไทย”

46 นาทีที่แล้ว

“แฮร์รี่&เมแกน” โชว์! ส่อแววสะดุด ฮอลลีวู้ดส่ายหน้า ไม่สนคู่วอนนาบี

57 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยานยนต์อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ผ่าเทคโนโลยีทางการทหาร สมรภูมิไทย-กัมพูชา / ปฐม อินทโรดม

Manager Online

Astronomer เป็นไวรัลอีกรอบ ดึงแฟนเก่า Coldplay เป็นโฆษกชั่วคราว เล่าเรื่องจัดการข้อมูลสุดตลก

Manager Online

ถ่ายคลิปปลอดภัย! ปิดพิกัด เบลอข้อมูล เช็กฉากหลัง ป้องกันโลกรู้

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...