‘คลัง’ ฟุ้งส่งออกโตเดือดช่วยหนุนศก.ไทย ท่องเที่ยวแผ่ว-เชื่อมั่นชะลอกังวลสงคราม!
'คลัง' ฟุ้งส่งออกโตเดือด 18.4% สูงสุดรอบ 38 เดือน ช่วยหนุนเศรษฐกิจไทย เดือน พ.ค. 68 ยังไปต่อ สวนทางท่องเที่ยว-บริโภคแผ่ว ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอ หลังกังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวอืด-ปัญหาความขัดแย้งด้นภูมิรัฐศาสตร์
27 มิ.ย. 2568 - นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน พ.ค. 2568 ว่า เศรษฐกิจไทยยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 31,044.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.4% ซึ่งนับเป็นอัตราการขยายัวสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565
ขณะที่ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -1.2% รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -4.7% และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 54.2 จากระดับ 55.4 ในเดือนก่อน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ดี ปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 8.7%
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน (เบื้องต้น) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 36.2% ขณะที่ปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ –10.9% ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน โดยเฉพาะบริการด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย อยู่ที่ 2.27 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -13.9% ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 22.9 ล้านคน ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 1.9%
ทั้งนี้ ในส่วนของดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 4.3% ตามการเพิ่มขึ้นในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าว ยางพารา และผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี ผลผลิตมันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด ลดลงจากเดือนก่อน สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือน พ.ค. 2568 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 88.1 จากระดับ 89.9 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยกดดันจากความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และความกังวลจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของไทย ในเดือน พ.ค. 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.2 จากระดับ 49.5 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน พ.ค. 2568 อยู่ที่ -0.57% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.09% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนเม.ย. 2568 อยู่ที่ 64.8% ต่อจีดีพี ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2568 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 257.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี ภาพรวมภาวะตลาดการเงินไทยล่าสุด เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน โดยเฉพาะในตลาดทุน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มนักลงทุนบุคคลทั่วไปในประเทศที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิต่อเนื่อง โดยในเดือน มิ.ย. (ข้อมูลสะสมถึงวันที่ 23 มิ.ย. 68) นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิรวมกว่า 24,924.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเดือนก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิเพียง 11,830.53 ล้านบาท และทำให้ยอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ต้นปีขยับขึ้นแตะระดับ 112,167.07 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติมียอดสุทธิทั้งเดือนยังคงติดลบที่ -10,597.33 ล้านบาท โดยแรงขายเริ่มชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.ที่ขายสุทธิกว่า -16,147.94 ล้านบาท