โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ทรัมป์ปิดดีลการค้าฟิลิปปินส์ เก็บภาษี 19% แลกกับการเปิดตลาดเสรี

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เเห่งสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขาและประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ ได้บรรลุข้อตกลงทางการค้า

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ พร้อมด้วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ และรัฐมนตรีกลาโหมพีท เฮกเซธ พบปะกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ ณ ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 ภาพโดย REUTERS

ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์ยังได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของข้อตกลงกับอินโดนีเซียด้วย โดยข้อตกลงทั้งสองฉบับกำหนดให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 19% สำหรับสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นภาษีที่ธุรกิจอเมริกันต้องจ่าย ขณะที่สินค้าของสหรัฐฯ ที่ส่งออกไปยังประเทศเหล่านั้นจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษี

การประกาศของทรัมป์เกี่ยวกับข้อตกลงกับฟิลิปปินส์มีขึ้นหลังจากเขาพบกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนในทันทีว่าผู้นำทั้งสองได้ลงนามในเอกสารอย่างเป็นทางการหรือไม่ และเช่นเดียวกับการประกาศข้อตกลงทางการค้าอื่น ๆ ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยรายละเอียดเพียงเล็กน้อยในช่วงแรก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา พบกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ (ไม่ปรากฏในภาพ) ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ภาพโดย REUTERS

ข้อตกลงกับฟิลิปปินส์นับเป็นฉบับที่ 5 ภายในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่มีรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับข้อตกลงที่ทรัมป์ประกาศกับเวียดนามเมื่อต้นเดือนนี้ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลยังไม่ได้เปิดเผยสาเหตุว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

ทรัมป์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลเคยให้คำมั่นเมื่อเดือนเมษายนว่าจะมีข้อตกลงการค้าอีกหลายฉบับ หลังจากที่หยุดมาตรการภาษีแบบ “ตอบโต้” (reciprocal tariffs) อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ได้ปรับเปลี่ยนจุดยืน โดยเน้นว่าให้ความสำคัญกับคุณภาพของข้อตกลงมากกว่าปริมาณ

ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณต่อเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่ โดยขู่ว่าจะเพิ่มภาษีในอัตราสูงขึ้นหลายรายการ ซึ่งรวมถึงอัตราที่สูงถึง 50% สำหรับประเทศคู่ค้า และภาษีนำเข้าทองแดง 50% สำหรับทุกประเทศ ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า

โดยจะยืนกรานกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 สิงหาคม ให้ประเทศต่าง ๆ ต้องทำข้อตกลง มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับภาษีที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้นั้น

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร ในห้อง The Oval Office (ห้องทำงานรูปไข่) ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงทางการค้ากับมาร์กอส แต่ทั้งสองฝ่ายน่าจะตกลงกันได้ในบางเรื่อง

CNN รายงานว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือว่าไม่ปกติ เนื่องจากประเทศอื่น ๆ ที่ทรัมป์อ้างว่าได้บรรลุข้อตกลงด้วยนั้นมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับระดับที่ขู่ว่าจะบังคับใช้ในเดือนเมษายน ขณะเดียวกัน สินค้าจากฟิลิปปินส์ถูกเก็บภาษีขั้นต่ำที่ 17% ในเดือนเมษายน ก่อนที่ทรัมป์จะระงับมาตรการเหล่านั้น เมื่อต้นเดือนนี้ เเละขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 20% สำหรับสินค้าจากฟิลิปปินส์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา (ไม่ปรากฏในภาพ) ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 ภาพโดย REUTERS

สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากฟิลิปปินส์มูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อาหารแปรรูป เครื่องจักร และเครื่องนุ่งห่ม ขณะที่สหรัฐฯ ส่งออกสินค้าไปยังฟิลิปปินส์มูลค่า 9,000 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูป

รายละเอียดข้อตกลงกับอินโดนีเซียถูกเปิดเผย

ทรัมป์ได้ประกาศข้อตกลงที่คล้ายกันกับอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกำหนดอัตราภาษีในระดับเดียวกัน และเมื่อวันอังคาร มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับอินโดนีเซีย โดยทรัมป์เขียนบน Truth Social

ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าพเจ้าขอประกาศข้อตกลงทางการค้ากับสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งมีประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ผู้ทรงเกียรติเป็นผู้แทนของอินโดนีเซีย

ทรัมป์และเจ้าหน้าที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับมาตรการกำแพงทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (non-tariff trade barriers) ซึ่งอินโดนีเซียตกลงจะแก้ไข มาตรการเหล่านี้รวมถึงการยกเลิกการจัดเก็บภาษีจากรายได้บริการดิจิทัล เช่น โฆษณาบนเว็บไซต์สตรีมมิ่งและโซเชียลมีเดีย และการยกเลิกข้อกำหนดการตรวจสอบก่อนจัดส่งหรือการตรวจสอบยืนยัน สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ

ในส่วนหลังนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ระบบการตรวจสอบดังกล่าวสร้างภาระอย่างมากให้แก่เกษตรกรในการส่งออกสินค้า และการยกเลิกมาตรการเหล่านี้จะช่วยเปิดตลาดให้กับพวกเขา

นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังตกลงที่จะยอมรับมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์กลางของสหรัฐฯ (US Federal Motor Vehicle Safety Standards) และยกเลิกข้อจำกัดในการส่งออกแร่ธาตุสำคัญ (critical minerals)

ก่อนหน้านี้สินค้าจากอินโดนีเซียเคยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 32% เป็นการชั่วคราวในเดือนเมษายน ก่อนที่ทรัมป์จะระงับมาตรการภาษีแบบตอบโต้ ประเทศต่าง ๆ ที่มีกำหนดจะต้องเผชิญกับภาษีเหล่านั้นถูกเรียกเก็บภาษีขั้นต่ำ 10% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

อินโดนีเซียเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 23 ของสหรัฐฯ ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากอินโดนีเซียมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องแต่งกายและรองเท้า

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ส่งออกสินค้าไปยังอินโดนีเซียมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกหลักได้แก่ เมล็ดพืชน้ำมันและธัญพืช รวมถึงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

สธ. เร่งปรับปรุงตำรับยาไทยฉบับใหม่ ดัน ศก.สุขภาพสู่ตลาดโลก

25 นาทีที่แล้ว

จับตา 3 ตัวเต็ง สืบทอดตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ Apple แทน Tim Cook

36 นาทีที่แล้ว

เอกชนหวังผู้ว่าธปท.ใหม่ รับมือบาทแข็ง-ลดดอกเบี้ยเพิ่มกำลังซื้อ ฟื้นเศรษฐกิจ

36 นาทีที่แล้ว

7 ข้อเสนอร้อนถึงผู้ว่าธปท. ใหม่ แก้บาทแข็ง-ดัน GDP-ลดหนี้ครัวเรือน

41 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่นๆ

มัสก์อาจลงเล่นการเมืองอีกครั้ง SpaceX เตือนนักลงทุนถึง ‘ค.เสี่ยงการเมือง’

กรุงเทพธุรกิจ

กระเป๋าเหม็นคลุ้ง ผู้โดยสารช็อก เจอคราบปริศนาคล้ายของเสีย

สยามนิวส์

สหรัฐฯมีแผนส่งผู้ขอลี้ภัยไปเกาะปาเลา

AFP

เสียงประณามไม่เป็นผล? กาซาขาดอาหารตายอีก 15 ดันยอดเสียชีวิตรวม 101 ราย

Amarin TV

อัปเดตล่าสุด บรูซ วิลลิส ดารา Die Hard ป่วยสมองเสื่อม ทรุดจนพูดไม่ได้

มุมข่าว

นายกฯญี่ปุ่นลาออกเร็ว ๆ นี้

AFP

ศาลสั่งจำคุก 3 ปี! หนุ่มแอบใส่ ‘เซรุ่มความจริง’ ในเครื่องดื่มเพื่อนร่วมงาน

Khaosod

WHO กังวลการระบาดของไวรัสชิคุนกุนยาที่มียุงลายเป็นพาหะ

PostToday

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...