โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

นาฏกรรมสลด 39 เหยื่อตึก สตง.ถล่ม ตกค้าง 4 เดือน ไร้รัฐเยียวยา

Thai PBS

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thai PBS

โศกนาฎกรรม อาคาร สตง.ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568 ผ่านไปนาน 4 เดือน แต่ความช่วยเหลือที่เกิดขึ้น เสมือนฝนยังตกไม่ทั่วฟ้า แม้ กทม.จะปรับยอดผู้ประสบเหตุทั้งหมด 109 คน จากยอดเดิม 103 คน จำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 86 คนและผู้บาดเจ็บ 9 คน ส่วนอีก 14 คนจากยอดเดิม 8 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัว ปลายทางคดีล่าสุด ตำรวจสรุปสำนวนกว่า 90,000 แผ่น ส่งอัยการฟ้อง 23 ผู้ต้องหาแล้วก็ตาม แต่ยังมี 39 ครอบครัวผู้สูญเสียที่ยังตกค้างไม่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐ

ล่าสุด วันนี้(22 ก.ค.2568) พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พ.ต.อ. สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ และคณะได้นำสำนวนการสอบสวนคดีตึก สตง.ถล่ม จำนวน 233 แฟ้ม 51 กล่อง 98,926 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหามาส่งมอบให้อัยการ โดยคดีนี้มีผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคล และบุคคลรวม 23 คน จำนวนนี้มีนายเปรมชัย กรรณสูต นักธุรกิจก่อสร้างชื่อดังร่วมอยู่ด้วย

“คดีนี้เจ้าหน้าที่มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 7 บริษัท และผู้ต้องหาอีก 16 คน และจะมีการแยกผู้กระทำผิดในข้อหาที่เกี่ยวข้องเช่นการปฏิบัติผิดมาตรฐานหลักเกณฑ์ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงบางคนก็ถูกแจ้งข้อหาการปลอมแปลงเอกสารด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน และยังไม่มีผู้ต้องหาคนใดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และทั้งหมดอยู่ระหว่างฝากขัง โดยจะครบระยะเวลาฝากขังครั้งสุดท้ายวันที่ 6 ส.ค.นี้” พล.ต.ต.สมควร กล่าว

ขณะที่นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ระบุว่า ขณะนี้เหลือระยะเวลาฝากขังแค่อีก 1 ฝาก 12 วัน ก็ต้องพิจารณาสั่งคดีให้ทัน โดยต้องมีการตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ แม้จะมีสำนวนจำนวนมาก แต่จะมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร

ทั้งนี้ สำหรับผู้ถูกฟ้องจะมีทั้งนิติบุคคลและบุคคล จำนวน 23 คน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 ผู้ออกแบบ 7 คน จากบริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทคจำกัด และ บริษัทไมนฮาร์ท(ประเทศไทย) จำกัด

กลุ่มที่ 2 ผู้ควบคุมงาน 5 คน ของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด, บริษัทเคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ เมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์จำกัด

กลุ่มที่ 3 ผู้รับจ้างก่อสร้าง 6 คน ของบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด

โดยคณะพนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, 230 ในฐานะนิติบุคคล และส่วนตัวฐานเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ฯ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย

ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำความผิดนั้น ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ส่งข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไต่สวนผู้เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นอดีตและผู้บริหาร สตง. ชุดปัจจุบัน เพื่อนำมาประกอบการสอบสวนเพิ่มเติมไปก่อนหน้านี้แล้ว

“ดีเอสไอ ส่งหลักฐานคดีฮั้วประมูลให้ ป.ป.ช.”

คดีดังกล่าวนอกจากจะอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว ยังมีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็มีความคืบหน้าเช่นกัน

ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การตรวจสอบเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐในระดับผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฮั้วประมูล ล่าสุด ป.ป.ช.ได้ประสานขอข้อมูลเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่เริ่มโครงการก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

และในวันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการนำหลักฐานเอกสารซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 43 ลัง รวม 57,754 แผ่น ไปส่งมอบให้กับ ป.ป.ช. เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาคดีฮั้วประมูลเป็นที่เรียบร้อย ส่วนคดีนอมินีขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาลอาญา และได้มีการนัดตรวจพยานไปก่อนหน้านี้แล้ว

39 ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ยังรอการชดเชย

ส่วนการจ่ายเงินชดเชย ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่ม ก่อนหน้านี้ สภาทนายความได้เข้ามามีบทบาทในการดูแลผู้ประสบเหตุ และมีการสรุปข้อมูลของคณะกรรมการพิจารณาเงินเยียวยาฯ

โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2568 ได้มีการมอบเงินเยียวยา และแถลงข่าวที่สภาทนายความ

จำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 12 คน คนละ 1 ล้านบาท และผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน คนละ 200,000 บาท รวมจำนวน 13,800,000 บาท

กลุ่มที่ 2 เมื่อ วันที่ 16 .ค.2568 มีการนัดมอบเงินเยียวยา และแถลงข่าวที่สภาทนายความ

และผู้เสียชีวิต จำนวน 40 คน แต่เนื่องจากในวันดังกล่าว กรรมการที่มีอำนาจจ่ายเงินของกิจการร่วมค้า ได้ถูกหมายจับและศาลไม่อนุมัติการปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้ในวันนั้นไม่มีการรับเงินเยียวยา

แต่ทางตัวแทนของสภาทนายความได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อขอให้มีการมอบเงินให้กับทายาทผู้เสียชีวิตที่รอรับเงินเยียวยา ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยคือ ได้มีการอนุมัติการทำธุรกรรมการเงินในเรือนจำ เพื่อมนุษยธรรม โดยให้กรรมการของกิจการร่วมค้าทั้งสอง เซ็นเช็คสั่งจ่ายให้กับทายาทผู้เสียชีวิตในเรือนจำ และมีการส่งมอบเช็คธนาคารให้ทายาท เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

โดยมีคณะกรรมการพิจารณาการจ่ายเงินฯ ของทุกหน่วยงาน จากดีเอสไอ กรมคุ้มครองสิทธิ อิตาเลียนไทย ไชน่าเรล์เวย์ รวมทั้งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทูตแรงงานจากสถานทูตเมียนมา โดย พ.ต.อ.ทวี เป็นประธานในการแถลงข่าว และมอบเงินให้กับทายาทของผู้เสียชีวิต 40 คน จำนวนเงิน 40 ล้านบาท

และครั้งที่ 3 ซึ่งจะเป็นการมอบเงินให้กับทายาทผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 39 คน จำนวนนี้เป็นคนไทย 19 คน, เมียนมา 16 คน, กัมพูชา 3 คนและลาว 1 คน และได้มีการติดตามทายาทและเสนอชื่อให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ตรวจสอบรายชื่อทายาทตามระบบของทางราชการ และรับรองทายาทและจำนวนเงินที่มอบให้ทายาทแต่ละคน 1 ล้านบาท แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

สำหรับเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่ม กทม. ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้มีการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ดังนี้ ผู้บาดเจ็บจำนวน 9 คน จะได้รับการชดเชยและเยียวยา คนละ 200,000 บาท ได้รับเงินครบทุกคน

ผู้เสียชีวิต จำนวน 91 คน รับเงินคนละ 1,000,000 บาท ได้รับเงินแล้วจำนวน 52 คน ยังเหลืออีก 39 คนและครอบครัวผู้สูญหายอีก 5 คนที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา

เหตุการณ์แผ่นดินไหว เป็นเหตุให้อาคาร สตง.ถล่ม ผ่านไปเกือบ 4 เดือนแล้ว แต่การเยียวยาเพื่อแก้ไขปัญหาและการจ่ายค่าชดเชยยังล่าช้า ถือเป็นโศกนาฏกรรมสลด แม้จะเกิดขึ้นกับชีวิตเล็ก ๆ ของคนงาน แต่ก็ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างมีความสำคัญเท่าเทียมกันทั้งสิ้น

รายงานโดย : ดนิตา ศรีสุวรรณ บรรณาธิการข่าวอาชญากรรม ไทยพีบีเอส

อ่านข่าว

อัยการยืนยันพิจารณาสั่งฟ้องคดีตึก สตง.ถล่มทัน 6 ส.ค.นี้

ไทม์ไลน์ 8 ปี คดี "เมย ภคพงศ์" นตท.ปี 1 เสียชีวิต ใน รร.เตรียมทหาร

วุฒิสภาเดินหน้าเคาะ กก.องค์กรอิสระ ไม่สนปม “ผลัดกันเกาหลัง” คดีฮั้วเลือก สว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

วิดีโอ

จับตาสหรัฐฯ กลับมาติดตั้ง นิวเคลียร์ ในสหราชอาณาจักร

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทักษิณ" ปลุกสามัคคีบอกพรรคร่วมไม่ทิ้งกัน ซัด ภท.ถอนตัวไม่สุภาพบุรุษ

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าว อาชญากรรม อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

นาฏกรรมสลด 39 เหยื่อตึก สตง.ถล่ม ตกค้าง 4 เดือน ไร้รัฐเยียวยา

Thai PBS

"ทักษิณ" ปลุกสามัคคีบอกพรรคร่วมไม่ทิ้งกัน ซัด ภท.ถอนตัวไม่สุภาพบุรุษ

Thai PBS

"วิภา" ถล่มหนักไทยลุ้นน้ำท่วมเหนือ-อีสาน ฟิลิปปินส์อพยพค่อนแสน

Thai PBS
ดูเพิ่ม
Loading...