"ไทย-จีน" ชูเทคโนโลยีดิจิทัล สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ สร้างภาพอนาคตใหม่ 50 ปีแห่งมิตรภาพ
"ไทย-จีน" ชูเทคโนโลยีดิจิทัล สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ พร้อมเปิดรายงาน "เส้นทางสายไหมดิจิทัลในประเทศไทย" สร้างภาพอนาคตใหม่ 50 ปีแห่งมิตรภาพ
วันที่ 28 สิงหาคม 2568 สถาบันศึกษาการพัฒนาและเศรษฐกิจ บี อาร์ ไอ สมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย–จีน และหน่วยงานพันธมิตร ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน สัมมนาเรื่อง การพัฒนาความร่วมมือวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวัฒนธรรมไทย-จีน เพื่อหารือเกี่ยวกับเส้นทางใหม่ของความร่วมมือระดับภูมิภาคในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมืออันดีระหว่างจีนและไทยให้ก้าวหน้าต่อไป โดย พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ดร.จุฬารัตน์ ตนประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ ดร. ธารากร วุฒิสถิรกูล ประธานสถาบันวิจัยพัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษา บีอาร์ไอ พร้อมด้วย นายหยาง เสี่ยวหลง ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เข้าร่วมงานดังกล่าว พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนภาครัฐ นักวิชาการ การศึกษา และธุรกิจของทั้งสองประเทศเข้าร่วมงาน
ทั้งนี้ พร้อมเปิดตัวรายงาน "เส้นทางสายไหมดิจิทัลในประเทศไทย" ระบุการชำระเงินผ่านมือถือของบริษัทจีนมีอัตราการเข้าถึงร้านค้าในย่านการค้ายอดนิยมของกรุงเทพฯ สูงถึง 61% ขณะที่ผู้บริโภคไทย 45.4% เลือกใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์จากจีน เหตุคุ้มค่าลงทุน โดยทั้งไทย และจีนต่างเห็นพ้องว่า "เส้นทางสายไหมดิจิทัล" ซึ่งมีพื้นฐานทางเทคโนโลยีจาก 5G ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์คอม พิวติ้ง และในรูปแบบ วรรณกรรมออนไลน์ ซีรีส์ ออนไลน์ เกมออนไลน์ และการชำระเงินผ่านมือถือ ได้ขยายจากโครงสร้างพื้นฐานไปสู่ด้านต่างๆ อันหลากหลาย เช่น ธุรกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัล ได้กลายเป็นสายสัมพันธ์สำคัญในการส่งเสริมประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจ การค้า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม และความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ เป็นสะพานเขื่อมมิตรภาพใหม่ระหว่างจีนและไทย ด้วยเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งอนาคต
พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม และเทคโนโลยีได้มีการลงลึกอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลของจีนได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ของไทย บริการดิจิทัลต่างๆ เช่น การชำระเงินผ่านมือถือ วิดีโอสั้น อีคอมเมิร์ซ คลาวด์คอมพิวติ้ง และปัญญาประดิษฐ์ ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในไทย
ขณะเดียวกัน ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของจีนกำลัง ผสมผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของประชาชนชาวไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการเติบโตทางการค้าระหว่างไทย-จีน แต่ยังกลายเป็น "สะพานใหม่" ในการพัฒนาความร่วมมือระหว่าง ไทย-จีน อีกด้วย
ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน "เส้นทางสายไหมดิจิทัล" ได้เป็นพลังใหม่ให้กับการร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยคาดหวังว่าความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล จะเป็นบทใหม่แห่งความสัมพันธ์ไทย-จีนแบบ ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน
นายหยาง เสี่ยวหลง ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีทองแห่งมิตรภาพไทยจีน "เส้นทางสายไหมดิจิทัล" ยังเป็นเส้นทางแห่งมิตรภาพ ระหว่างสองประเทศอีกด้วย ขอให้เราใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นสะพานเชื่อม ส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างประชาชนของทั้งสองชาติย่างต่อเนื่อง ขยายความร่วมมือ และจับมือกันส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งชะตากรรมร่วมจีน-ไทยให้ก้าวลึกและก้าวหน้า
ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล ประธานสถานบันวิจัยพัฒนาเศรษฐกิจการและศึกษา บี อาร์ ไอ กล่าวว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่าง ไทย-จีน ภายใต้กรอบหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ได้ขยายจากโครงสร้างพื้นฐานไปสู่สาขาด้านปากท้องของประชาชน โดยไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของจีนกำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการพัฒนาความร่วมมือระหว่าไทย-จีนมากขึ้น ยกตัวอย่าง การชำระเงินผ่านมือถือ ในรายงาน "เส้นทางสายไหมดิจิทัลในประเทศไทย" แสดงให้เห็นว่าบริการ การชำระเงินผ่านมือถือจากจีนได้ครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวและตลาดหลักของประเทศไทย
โดยมีอัตราการเข้าถึงร้านค้าในย่านช้อปปิ้งยอดนิยมของกรุงเทพมหานครสูงถึง 61% สร้างความสะดวกสบาย อย่างยิ่งต่อการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ตัวอย่างเช่น WeChat Pay ครอบคลุมรถไฟฟ้า BTS ทั่วทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ขณะที่ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นอย่าง BIG-C หลังจากเปิดตัว Mini Program บน WeChat แล้ว ผู้บริโภคชาวจีนก็สามารถซื้อสินค้าไทยออนไลน์ได้ ไม่ต้องเดินทางมาถึงประเทศไทย
ด้านอีคอมเมิร์ซและการเดินทาง จีนกับไทยยังมีความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รายงานวิจัยระบุว่าผู้บริโภคไทย 45.4% เลือกใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนเนื่องจากความคุ้มค่าสูง ในขณะที่นักธุรกิจ และผู้ประกอบการไทย 34.5% มีการจัดหา สินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ อย่าง Taobaoเป็นประจำ แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ดิจิทัลสำหรับธุรกิจและการท่องเที่ยวที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการจีนยังมีการพัฒนาในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแอปพลิเคชันด้านการเดินทาง เช่น Didi, C trip และ Fliggy ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในท้องถิ่นในระดับหนึ่ง
ดร.จุฬารัตน์ ต้นประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ เห็นว่า การร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างจีนและไทย นอกจากมีการสร้างงาน สินค้าและเนื้อหาคุณภาพสูงแล้ว ยังสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรมไทย-จีน และขยายไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศในวงกว้างอีกด้วย ดิฉันหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าเพื่อประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศ
การพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัลโดยเฉพาะอย่างยิ่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ทำให้เนื้อหาดิจิทัลที่มีจำนวนมาก และ มีความหลากหลายได้ไหลเวียนข้ามแดนและวัฒนธรรมอย่างราบรื่น โดยได้ ทำลายอุปสรรคด้านภูมิศาสตร์และภาษา และส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมอย่างเป็นรูปธรรม
ในด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมดิจิทัลไทย-จีน รายงาน "เส้นทางสายไหมดิจิทัลในประเทศไทย" ยังระบุว่า Douyin (TikTok ในจีน) และการ์ตูนจีนมีอัตราการใช้งานในกลุ่มเยาวชนไทยสูงถึง 90.7% และ 91.6% ตามลำดับ ในขณะที่เกมออนไลน์อย่าง "Genshin Impact" และ "Honor of Kings" รวมถึงวรรณกรรมออนไลน์ โดย Web novel ก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง บริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง Tencent และ Alibaba ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคไทย ได้นำเนื้อหาสื่อคุณภาพจากจีนสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกันนั้นก็ได้นำเนื้อหาวัฒนธรรมคุณภาพจากประเทศต่างๆ สู่จีนด้วย "ซีรีส์จีน" ได้กลายเป็นพลังสำคัญในตลาดบันเทิงระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น WeTV แพลตฟอร์มระดับโลกของ Tencent Video มีจำนวนดาวน์โหลดทั่วโลกเกือบ 80 ล้านครั้ง และจำนวนการรับชมเกือบ 5 พันล้านครั้งในปี 2567
ดร. Sun Jiashan จาก Chinese National Academy of Arts ระบุว่าในยุคดิจิทัล เทคโนโลยี โดยปัญญาประดิษฐ์กำลังปรับโฉมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ส่งเสริมการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและผลักดันนวัตกรรมของอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ภายใต้การสนับสนุนของเทคโนโลยี สามรูปแบบใหม่ของวัฒนธรรมจีน ซีรีส์ออนไลน์ วรรณกรรมออนไลน์ และเกมออนไลน์ กำลังขยายสู่ตลาดระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สร้างแพลตฟอร์มสำคัญ สำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเนื้อหาคุณภาพให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก รวมทั้งยังส่งเสริงวัฒนธรรมดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์ให้กับเยาวชนร่วมกันด้วย.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "ไทย-จีน" ชูเทคโนโลยีดิจิทัล สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ สร้างภาพอนาคตใหม่ 50 ปีแห่งมิตรภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ไทย-จีน" ชูเทคโนโลยีดิจิทัล สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ สร้างภาพอนาคตใหม่ 50 ปีแห่งมิตรภาพ
- ไทย-จีน ร่วมลงทุนตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานขยะที่กาญจนบุรี หวังแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
- "สุริยะ" หารือ "สภาวิศวกร" ใช้วัสดุไทยในโครงการ "รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน" เฟส 2
- พินิจ จารุสมบัติ นำคณะสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ ร่วมฉลอง ปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน
- ศิลปะการชงชาจีน สะพานวัฒนธรรม ความละเมียดละไม เชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath