SOCIETY: รักแท้แพ้กลิ่นอึ! สาวขอเลิกกับแฟนเพราะ ‘ไม่ยอมเช็ดก้น’ ด้านฝ่ายชายให้เหตุผล “การเช็ดก้นมันดูเกย์ ลูกผู้ชายจริงไม่ทำกันหรอก!”
หลายความสัมพันธ์ต้องพังลงเพราะความไม่เข้าใจกัน เรื่องเงิน เรื่องครอบครัว หรือแม้แต่เรื่องนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่รับไม่ได้ เช่น ‘การไม่เช็ดก้น’ ก็อาจกลายเป็นจุดจบของคู่รักได้เช่นกัน
อย่างที่หลายคนรู้ ประเทศฝั่งตะวันตกไม่ได้มีสายฉีดเหมือนบ้านเรา การเช็ดก้นด้วยกระดาษชำระจึงเป็นวิธีหลักในการทำความสะอาดหลังเข้าห้องน้ำ
หญิงสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์บน Reddit ว่าเธอคบกับแฟนหนุ่มวัย 27 มาประมาณ 9 เดือน ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างก็ดูไปได้สวย ยกเว้นปัญหาเดียวที่เธอรับไม่ได้สุดๆ คือ เขาไม่เช็ดก้น!
เธอเล่าว่าไม่กี่เดือนหลังใช้ชีวิตคู่ เธอสังเกตว่าในห้องน้ำของแฟนหนุ่มไม่มีกระดาษชำระ ทั้งที่พวกเขามีห้องน้ำแยกกันใช้ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาอาจใช้ทิชชูเปียก แต่แล้วกลิ่นก็เริ่มโชยออกมา เสื้อผ้าซักแล้วก็ยังมีกลิ่นติด จนสุดท้ายเธอต้องถามตรงๆ ว่า “คุณเช็ดก้นหลังอึไหม?”
และคำตอบที่ได้ก็ทำให้ถึงกับเธอช็อกไปเลย เมื่อแฟนหนุ่มตอบว่า “ไม่หรอก การเช็ดก้นมันดูเกย์ ใครจะเอามือไปแตะตูดตัวเองกัน”
ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นมุกตลก แต่ไม่ใช่เลย เพราะเขาเชื่อจริงๆ ว่าผู้ชายจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเช็ดอะไรทั้งนั้น แค่ปล่อยให้มันหล่นแล้วไปใช้ชีวิตต่อ
เมื่อเธอบอกว่านั่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากและมันทำให้เธอรู้สึกอยากอ้วก เขากลับกล่าวหาว่าเธอเป็นคนตัดสินคนอื่นและไม่ยอมรับตัวตนที่แท้จริงของเขา ถึงขั้นส่งกระทู้ Reddit เกี่ยวกับสิทธิผู้ชายที่บอกว่าการเช็ดก้นเป็นการลดความเป็นชายมาให้ดูอีกต่างหาก
สุดท้ายเธอเลยบอกกับแฟนหนุ่มไปตรงๆ ว่า “ถ้าคุณไม่เริ่มเช็ดและไม่สนใจเรื่องสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ฉันคงต้องเลิกกับคุณ” แล้วดราม่าก็ปะทุขึ้นทันที แฟนหนุ่มหัวเราะแบบฝืนๆ ก่อนกล่าวหาสารพัด คว้ากระเป๋ามายัดของมั่วๆ แล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมคำทิ้งท้ายว่า “แล้วเธอจะเสียใจ เพราะเธอไม่มีวันหาผู้ชายแบบฉันได้อีกแล้ว”
ยังไม่หมดแค่นั้น หลังเลิกรากันไป เขายังส่งข้อความประชดประชันมาให้เธอ เช่น “หวังว่าผู้ชายคนต่อไปจะไม่เช็ดก้นแล้วโกหกเธอเรื่องนี้” หรือ “ผู้ชายจริงไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษชำระ” แต่สำหรับเธอ มันจบแล้วจริงๆ
ปัจจุบันเธอเล่าว่าได้ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ จุดเทียนหอม และซักผ้าไปห้ารอบ พร้อมเล่าถึงความรู้สึกที่ได้นั่งบนโซฟาโดยไม่ต้องกังวลว่าเคยเปื้อนอะไรหรือเปล่ามันสบายใจขึ้นเยอะ
เมื่อเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นไวรัลทันที คนเข้ามาคอมเมนต์มีทั้งขำ ขยะแขยง และเห็นใจ หลายคนมองว่าไม่ว่าจะรักกันแค่ไหน ถ้าเรื่องพื้นฐานแบบนี้ยังละเลย อยู่ด้วยกันก็ยาก
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์กล่าวว่า เรื่องเล็กๆ อย่างสุขอนามัยนี่แหละ บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด การไม่ใส่ใจเรื่องง่ายๆ อาจสะท้อนถึงทัศนคติที่กว้างขึ้นต่อชีวิตคู่ เช่น ไม่ฟังความต้องการอีกฝ่าย หรือไม่สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญ
สำหรับผู้หญิงคนนี้ การเลิกราครั้งนี้เป็นการปกป้องตัวเองและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน แม้ฟังดูสุดโต่ง แต่ก็สะท้อนว่าความรักไม่ได้มีแค่ความรู้สึกโรแมนติก แต่ต้องมีทั้งความใส่ใจ เคารพซึ่งกันและกัน แม้กระทั่งเรื่องของความสะอาด เรื่องนี้จึงถือเป็นบทเรียนให้เห็นชัดเจนว่าเรื่องเล็กๆ บางอย่างนั้นสำคัญกว่าที่คิดสำหรับการใช้ชีวิตคู่