โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘ยานเกราะ’ตะลุยศึกกัมพูชา ‘มาดามรถถัง’ ติดล็อก‘ค่านิยมยุทธการ’

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“มาดามรถถัง” หรือ นพรัตน์ กุลหิรัญ เจ้าของบริษัทชัยเสรี พร้อมด้วย กฤต กุลหิรัญ บุตรชายคนเล็ก ได้ส่งมอบยานเกราะล้อยาง พร้อมช่างซ่อม ให้กับกองบัญชาการกองทัพไทย ใช้ปฏิบัติภารกิจชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.)

โดย มาดามรถถัง เปิดเผยว่า สำหรับบริษัทชัยเสรี เป็นบริษัทสัญชาติไทย ในฐานะคนไทย มีหน้าที่ รักษาเอกราช และความมั่นคงของชาติ ขีดความสามารถของชัยเสรี คือการคิดค้นยุทโธปกรณ์เพื่อการป้องกันประเทศ

ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ การออกแบบข้อต่อสายพาน ซ่อมรถให้กับกองทัพ และออกแบบรถเฟิสต์วิน 4x4 และรถสะเทินน้ำสะเทินบก 8x8 ให้กับกองทัพ ซึ่งขณะนี้ก็ปฏิบัติงานอยู่ที่ชายแดน เราก็ทำรถเกราะกันกระสุนกันระเบิด ไปช่วยชายแดน และในฐานะที่เราเป็นโรงงานซ่อมสร้างยานยนต์ทหาร เราได้ส่งคณะช่าง อะไหล่ ไปอยู่ประจำที่ชายแดน เพื่อรอซ่อมรถต่างๆ ให้กองทัพ ในภารกิจปกป้องประเทศ เช่น รถฮัมวี่ และ M113

พร้อมกันนี้ ยังได้รวบรวมจิตอาสา ในการคิดค้นโดรน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานที่ชายแดน ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นสิ่งที่ภาคเอกชน ร่วมมือกัน

ทั้งนี้ “มาดามรถถัง” เป็นคู่ค้าสำคัญกองทัพทั่วโลก ใน 46 ชาติที่จัดซื้อรถหุ้มเกราะ ของบริษัทชัยเสรีไปใช้งาน โดยมีการอออกแบบตามความต้องการของลูกค้าและการใช้งาน เช่น การออกแบบหลังคากันกระสุน ป้องกันการโจมตีจากโดรน

ส่วนความต้องการภายใน หากย้อนปี2567 บริษัทชัยเสรี ซึ่งร่วมทุนกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในนามบริษัท ไทยดีเฟนส์อินดัสตรี จำกัด ยานเกราะล้อยาง First Win 4×4 รุ่น ATV (Armored Tactical Vehicle) จำนวน 10 คัน ราชอาณาจักรภูฏานจะนำไปใช้ที่สหภาพแอฟริกากลาง

จากเดิมที่เคยส่งมอบปี 2564 ให้ทางภูฏานไปแล้ว 45 คัน นอกจากนี้ ยังมีการให้บุคลากรทางภูฏานมาเรียนรู้แลกเปลี่ยนในเรื่องของการผลิตการ ซ่อม และองค์ความรู้ต่างๆ

เช่นเดียวกับกองทัพฟิลิปปินส์ สั่งซื้อรถหุ้มเกราะของทางบริษัทชัยเสรีล็อตใหญ่ 900 คัน ชุดแรกสั่งซื้อก่อน 200 คัน

สำหรับกองทัพไทย มีการสั่งซื้อจาก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) กองทัพเรือ ตำรวจตระเวนชายแดน ใช้ภารกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้

ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา กองทัพไทยติดระเบียบ กฎเกณฑ์หลายประการ แม้จะพยายามหาช่องทางเปิดทางให้บริษัทคนไทยเข้าทำการแข่งขันได้ แต่ยังอยู่ในกรอบที่จำกัด

โดยเฉพาะ "กองทัพบก" ซึ่งยึดค่านิยมทางด้านยุทธการแบบกองทัพสหรัฐอเมริกา จึงกลายเป็นอุปสรรคสำคัญการแข่งชันของบริษัทคนไทย

ขณะที่คนในกองทัพ ก็ไม่มีใครกล้าปรับปรุงค่านิยมด้านยุทธการ เพราะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอำนาจการรบของกองทัพ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและส่งผลกระทบอธิปไตยของประเทศ หากทำแล้วเกิดความผิดพลาด ได้ไม่คุ้มเสีย

ทั้งนี้ หากย้อนบทสัมภาษณ์ “นพรัตน์” กล่าวไว้อย่างน่าสนใจ เมื่อปี 2564 ว่า บริษัทชัยเสรีเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ.2506 และเริ่มค้าขายกับกองทัพไทยมีสัญญาฉบับแรก ในสมัยพลเอก ประภาส จารุเสถียร เป็นผู้บัญชาการทหารบก พ.ศ. 2511 โดยมีสัญญาซ่อมบำรุงรถ ค้าขายอะไหล่รถให้กับกองทัพ ส่วนมากคือ การซ่อมรถต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้รวมระยะเวลา 54 ปีแล้ว

สิ่งที่โรงงานเราทำคือ 1.การซ่อมรถให้กองทัพทุกชนิด ตั้งแต่รถจี๊ป M151 รถบรรทุกทหาร M35 รถกู้ซ่อม รถถังทุกชนิด รถถังจีน รถถังอเมริกัน M113 M60 M48

2. เนื่องจากเราซ่อมรถมาเยอะโดยเฉพาะรถเกราะล้อยาง รถข้อต่อสายพาน หรือที่เขาเรียกว่ารถถัง ในโลกนี้มี 2 แบบ ประเภทแบบตีนตะขาบ ซึ่งบริษัท ชัยเสรี ของเราได้ผลิตช่วงล่างทั้งหมดของรถถังขายไปทั่วโลก 44 ประเทศ หมายถึงขายโดยตรงถึงกองทัพในแต่ละประเทศ

3.ชัยเสรีสามารถผลิตรถเกราะล้อยางที่เราออกแบบเอง โดยคิดค้นดัดแปลงรถปิกอัพมาติดเกราะแต่มีน้ำหนักมากจึงไม่ประสบความสำเร็จ เราเอารถฮัมวีมาติดเกราะก็ไม่ดีอีก เนื่องจากรถแต่ละชนิดที่เขาทำมาได้คำนวณน้ำหนักที่เหมาะสมแล้ว เมื่อเพิ่มเกราะไปการเคลื่อนที่ก็ลำบาก เราจึงคิดค้นออกแบบใหม่เป็นรถเกราะล้อยางที่สามารถกันกระสุนกันระเบิด

รถเกราะของเราจะไม่เหมือนรถเกราะของประเทศต่างๆ ที่กันเฉพาะห้องผู้โดยสาร ซึ่งรถเกราะล้อยางของเราสามารถป้องกันได้ทั้งคันเลย และใต้ท้องรถก็สามารถกันระเบิดได้ เราพัฒนาถึง 5 แบบจึงประสบความสำเร็จ และสามารถขายให้กองทัพ

อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เมื่อผลิตแล้วประเทศผู้ผลิตไม่ได้ใช้ก็อย่าหวังว่าจะไปขายให้ประเทศต่างๆ ได้ เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมีความสำคัญมากก็คือ เมื่อเราผลิตแล้ว ประเทศไทยเราต้องใช้ก่อน เมื่อเราขายให้กองทัพไทยได้ เราก็ขายให้กองทัพมาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงขายให้กับ UN

เนื่องจากเราซ่อมรถให้กับ UN ทุกชนิด ประสบการณ์ในการซ่อมรถมาอย่างยาวนานจึงได้รับความไว้วางใจจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก แต่ประเทศไทยของเรามีแอ็กชั่นน้อยในเรื่องแบบนี้ เพราะถือเป็นหน้าตาของประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มของประเทศอาเซียน ไม่มีประเทศใดที่ผลิตและซ่อม นอกจากประเทศไทย ซึ่งก็มีคติอยู่ข้อหนึ่งคือ ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ

“เมื่อปี 2562 ทางกองทัพไทยจะต้องไปรักษาสันติภาพที่ประเทศเซาท์ซูดาน ในฐานะสมาชิก UN ด้วยความเป็นห่วงคนไทยที่จะไปปฏิบัติภารกิจ ชัยเสรีจึงออกแบบรถเกราะพยาบาลที่สามารถช่วยคนได้เยอะๆ แต่กองทัพไทยบอกไม่มีเงินซื้อ เราจึงให้กองทัพไปใช้ไม่ต้องเสียเงิน แต่กองทัพปฏิเสธการรับเพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งเราก็เสียใจที่ทุ่มเททั้งกลางวันกลางคืน เพื่อที่จะสร้างรถเกราะพยาบาลที่ในโลกยังไม่มีใครทำ” นพรัตน์ กล่าวและว่า

ทาง UN ทราบว่าประเทศไทยไม่รับ โดยทาง UN เขามองในเรื่องความปลอดภัยของกำลังพล ยินดีรับ ชัยเสรีเป็นบริษัทเอกชนไม่ได้ร่ำรวย ที่เราให้กับกองทัพไทยเพราะเราเป็นคนไทย เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินเป็นสิ่งที่เราทำได้ UN ท่านมีเงิน เราจึงขายรถให้ไปในราคาต้นทุน ซึ่งเขาก็ยินดีรับ รถเกราะล้อยางของเราไปประจำการที่สหประชาชาติ

ต่อมาสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งประเทศภูฏาน ได้ทำสอบถามรถเกราะจากทั่วโลก พบว่ารถของประเทศไทยราคาไม่สูง คุณภาพดี เหมาะกับประเทศเขาจึงได้จัดซื้อจำนวน 15 คัน โดยส่งคณะทหารมาฝึกการขับรถ การบำรุงรักษา การซ่อม มีทั้งชุดที่ประจำการที่ประเทศภูฏาน และประจำการที่สหประชาชาติ ทั้งหมดนี้มีสัญญา เมื่อ 19 พ.ย.64 และส่งมอบที่กระทรวงกลาโหม ศรีสมาน นนทบุรี ซึ่งมีทูตานุทูต ผู้แทนพระองค์ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เอกอัครราชทูต ประเทศภูฏาน นับว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ส่งรถเกราะล้อยางไปประจำการที่สหประชาชาติ

นพรัตน์ ย้ำว่า บริษัทชัยเสรีทำการตลาดกับประเทศต่างๆ ในการซื้อขายได้โดยตรงอยู่แล้ว แต่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลจึงเจรจาและการทำสัญญาซื้อขายรถเกราะล้อยางแบบรัฐต่อรัฐ (Government to Government : G to G) จีทูจี โดยเสนอขายจากรัฐบาลเราไปยังรัฐบาลหลายๆ ประเทศ ซึ่งก็มีประโยชน์ต่อประเทศไทยมาก ที่สามารถผลิตยุทโธปกรณ์จำหน่ายไปทั่วโลก

ในสภาวะแบบนี้รัฐบาลต้องมีผลงาน และแสดงถึงรัฐบาลไทยมีความเข้มแข็ง เป็นหนึ่งในผู้นำอาเซียน ได้เซ็น MOU กับกองทัพฟิลิปปินส์ ในโครงการขายรถเกราะล้อยางจำนวน 900 คัน โดยล็อตแรกจำนวน 200 คันก่อน เพราะฉะนั้นคนขายต้องตามคนซื้อ ถ้าเราจะไปตั้งกฎเกณฑ์โน้นนี่นั่นมากมาย และใครจะมาซื้อของเรา การที่เราได้งานแบบนี้ ดีตรงนี้ทำให้คนงานเรามีงานทำ ในสภาวะเหตุการณ์แบบนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ “กองทัพไทย” จะติดข้อจำกัดค่านิยมด้านยุทธการ แต่พยายามหาช่องทางสนับสนุนยุทโธปกรณ์บริษัทสัญชาติไทย ควบคู่ไปกับการคงไว้เรื่องอำนาจการรบปกป้องอธิปไตยของไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

นักการทูตอียูพูดเอง! ประชุมยังไม่จบทรัมป์รีบโทรหาปูติน

26 นาทีที่แล้ว

สตง.ออกเอกสารแจงได้ที่ 1 ITA68 - 'รักชนก' ขำกลิ้ง อธิบายยิบ

49 นาทีที่แล้ว

ทบ. ซัด กัมพูชา บิดเบือนไม่เลิก ชี้ กระสุนฟอสฟอรัสขาว ไม่ใช่อาวุธเคมี

53 นาทีที่แล้ว

หุ้น SAWAD บวก 4.62% โบรกเผย สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ กลับมาโตครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส

56 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ทบ. แจงกระสุนฟอสฟอรัสขาวไม่ใช่อาวุธเคมี หลัง ‘เฮง’ บิ๊กเขมรเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง

ไทยโพสต์

'จตุพร' ย้ำม็อบ 21 ส.ค.นัดพิเศษ ก่อนชุมนุมใหญ่ หนุนเลิก MOU 43-44

กรุงเทพธุรกิจ

จับตา "ศึกเชียงราย" ลุ้น "เพื่อไทย" หวังรักษาแต้ม "ปชน." ท้าชนพรรคใหญ่ !

สยามรัฐ

ปปช. จับมือ AOT เสริมความโปร่งใส ยกระดับคะแนน CPI ดัชนีคอร์รัปชันไทย

สยามรัฐ

“เดชอิศม์” โอด วันนี้หายใจยังผิด บอกคนสงขลารู้ดีไม่ชอบเอิกเกริก

สยามรัฐ

‘ภูมิธรรม’ ย้ำ ฟ้องผู้นำเขมร ยังใช้ศาลไทย แต่ไม่ปิดช่องฟ้องอาชญากรสงคราม” ต่อศาลอาญาโลก

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม