TSEลุยM&Aต่อยอดพลังงาน ชูเป้ากำลังผลิตทะลุ300เมก
#TSE#ทันหุ้น – TSE เดินหน้ารุกดีล M&A-JV เต็มพิกัด อัพฐานต่อยอดพลังงานสะอาด คาดได้เห็นความชัดเจนภายในปีนี้ แถมศึกษาธุรกิจแบตเตอรี หนุนการเติบโตระยะยาว พร้อมปักเป้าปี 2573กำลังผลิตไฟฟ้าที่ COD แล้วทะลุ 300 เมกะวัตต์
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลและจัดหาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจพลังงานทดแทนรูปแบบใหม่ๆ ประกอบกับดีลเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือการเข้าร่วมลงทุน (JV) โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดใหม่ เพื่อสร้าง New S-Curve ให้กับกลุ่มบริษัทตามแผนและยุทธศาสตร์ธุรกิจ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเห็นความชัดเจน
รุกอัพฐานต่อยอด
ขณะที่บริษัทยังคงมุ่งมั่นการเติบโตในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ตามนโยบายภาครัฐ การลงทุนในโครงการ Solar Big Lot Phase 1 และ 2 โดยเน้นการบริหารจัดการต้นทุนและศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ในการนำระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี (BESS) มาใช้ ซึ่งควบคู่ไปการเดินหน้าศึกษาการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอื่นและโซลูชั่นด้านพลังงานสำหรับลูกค้าองค์กร (Private PPA) บริษัทเชื่อว่าการบริหารโครงการให้มีความหลากหลาย และสร้างรายได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว
นอกจากนี้ยังจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งธุรกิจสุขภาพโดยเริ่มจากการรักษาภาวะมีบุตรยาก (IVF) ก่อนต่อยอดสู่ Wellness ความงาม และเภสัชกรรม รองรับเมกะเทรนด์สุขภาพที่มีมูลค่าตลาดกว่า 6 พันล้านบาทต่อปีในไทย เสริมเป็น New S-Curve สนับสนุนการเติบโตควบคู่ธุรกิจพลังงานต่อไป
ด้านนางสาววีณัชฐย นีร ภาพิธุกานต์ เจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์อาวุโส บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการขยายฐานลงทุนทางด้านพลังงานทดแทนนั้นคือ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ฯลฯ เพื่อเสริมความแกร่งให้มากขึ้น หวังได้เห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้
ขณะที่ปัจจุบันทาง TSE โครงการที่ขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วจำนวน 34 โครงการ หรือคิดเป็นกำลังการผลิตเสนอขายรวม 153.8 เมกะวัตต์ (อิงข้อมูล 30 มิ.ย.68) และอยู่ระหว่างดำเนินการของโครงการ Solar Big Lot 28 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขาย 229.06 เมกะวัตต์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต
ส่วนโครงการขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม และเพิ่มเติม คิดเป็นกำลังรวมราว 140.40 เมกะวัตต์ และราคาอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายไฟฟ้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ และน่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ภายในปี 2568
เป้ากำลังผลิตทะลุ 300เมก
อย่างไรก็ดี หากแผนการลงทุนและขยายโครงการในส่วนต่างๆ สำเร็จตามที่วางไว้ ทาง TSE ตั้งเป้ากำลังผลิตที่ COD แล้วในปี 2573 คงขยับไปอยู่ที่ราว 302 เมกะวัตต์ รองรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ และขยายฐานการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2568 ที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Repowering, Replacement, and Upgrade Efficiency) อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่ม Solar Farm และ Solar Rooftop ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 15-20% และได้ปรับปรุงระบบงานทั้งหมดที่ส่วนกลางและโรงไฟฟ้าเพื่อลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนอื่นๆ ส่งผลให้การดำเนินงานและกำไรของบริษัทในภาพรวมมีความแข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น
ล่าสุดบริษัทคว้ารางวัล “ดีเด่น” Thailand Energy Awards 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2จากโครงการ “โรงไฟฟ้าชีวมวลออสการ์ เซฟ เดอะ เวิลด์ 1 จ.นครศรีธรรมราช” โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งกลุ่มบริษัทได้รับรางวัลดีเด่น Thailand Energy Awards 2024 จากโครงการ “โรงไฟฟ้าชีวมวลบางสวรรค์ กรีน จ.สุราษฎร์ธานี” และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนระดับภูมิภาค ด้วยรางวัลชนะเลิศ “ASEAN Renewable Energy Projects Awards ดังนั้น TSE มั่นใจโครงสร้างธุรกิจใหม่ “พลังงานสะอาด – สุขภาพ” จะขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างผลตอบแทนมั่นคงให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว