“Stronger Together” เมืองพัทยา โชว์โมเดลบูรณาการตำรวจ–เครือข่าย ฟื้นศรัทธาประชาชน
“Stronger Together” เมืองพัทยา โชว์ผลรูปธรรม-ต้นแบบการบูรณาการตำรวจ–ภาคีเครือข่าย สอดคล้องนโยบาย ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน
พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ปป.) นำคณะตรวจประเมินเป็นประธานการประชุมและแถลงผลการปฏิบัติการบูรณาการของสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ภายใต้ “โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับสถานีตำรวจ เพื่อสนับสนุนการป้องกันอาชญากรรม (Stronger Together)” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา โดยมี พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ให้การต้อนรับ ร่วมด้วยนายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง นายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้าราชการตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การนำเสนอผลงานครั้งนี้สะท้อนความร่วมมือเชิงรุกของตำรวจ ภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนเมืองพัทยาในการแก้ไขปัญหาสาธารณะเร่งด่วนอย่างตรงจุด อาทิ การแพร่ระบาดของยาเสพติด สัญญาณไฟจราจรชำรุด ไฟฟ้าส่องสว่างไม่เพียงพอ ถนนชำรุด ท่อระบายน้ำอุดตัน ปัญหาขยะ ระบบกล้องวงจรปิด สถานที่ท่องเที่ยวเสื่อมโทรม และมลพิษทางอากาศ จนเกิดผลลัพธ์ที่ “จับต้องได้” ในระดับพื้นที่ จากผลงานต่อเนื่องและชัดเจน โครงการ Stronger Together ของ สภ.เมืองพัทยาได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งของตำรวจภูธรภาค 2 และผ่านเข้ารอบการประเมินระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข และคณะ ลงพื้นที่ร่วมตรวจประเมินในครั้งนี้
พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข กล่าวว่า “Stronger Together คือการทำงาน ‘ร่วมรับผิดชอบ–ร่วมแก้ไข–ร่วมสำเร็จ’ ของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องอย่างยิ่งกับนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่มุ่งฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนผ่านผลลัพธ์บริการสาธารณะที่ดีขึ้น เห็นได้จริง และวัดผลได้ การบูรณาการระดับสถานีตำรวจแบบพัทยา เป็นต้นแบบที่พร้อมขยายผลไปยังพื้นที่อื่น”
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาโครงการ Stronger Together กล่าวเสริมว่า แบบอย่างของเมืองพัทยาชี้ให้เห็นว่าพลังเครือข่ายระหว่างตำรวจ รัฐ เอกชน และประชาชน สามารถแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน เมื่อกำหนดโจทย์ถูกต้อง ตั้งตัวชี้วัดชัดเจน และสื่อสารความคืบหน้าอย่างโปร่งใส ความไว้วางใจย่อมตามมา นี่คือหัวใจของการฟื้นฟูศรัทธาที่ประชาชนสัมผัสได้จริง และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ความสำเร็จในงานตำรวจนอกจากจะวัดกันจากผลคะแนนประเมินและรางวัลแล้ว ยังต้องทำให้ความสำเร็จนั้นถูกวัดได้จากหัวใจของประชาชนด้วย
ที่ปรึกษาโครงการฯ ยังกล่าวต่อด้วยว่า นอกจากการตรวจเยี่ยม สภ.เมือง พัทยา ที่เป็นสถานีตำรวจขนาดใหญ่แล้วผมยังได้มีโอกาสเดินทางไปยัง สภ.น้ำเป็น จังหวัดระยอง เป็น สถานีตำรวจเล็ก ๆ และได้ชื่นชมอย่างจริงใจต่อสถานีตำรวจภูธรน้ำเป็น จังหวัดระยอง ที่สามารถสร้างผลงานอันโดดเด่นจนได้รับการยกย่องเป็น ‘สถานีตำรวจดีเด่น’ แม้จะเป็นสถานีขนาดเล็ก แต่กลับมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ทำงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ และยึดมั่นในความปลอดภัยและความผาสุกของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ สิ่งที่ทำให้ สภ.น้ำเป็น จังหวัดระยอง ดีเด่นแตกต่าง ไม่ใช่เพียงสะท้อนความสำเร็จของการบริหารจัดการจำนวนกำลังพลที่จำกัดหรือขนาดเล็กของสถานี แต่ยังสะท้อนจิตวิญญาณการรับใช้ประชาชนอย่างจริงใจ พลังความสามัคคีภาคประชาชน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายบริหารท้องถิ่น ผ่านทีมงาน และความมุ่งมั่นของตำรวจที่จะเป็นที่พึ่งของชุมชนในทุกสถานการณ์
“การพบกันครั้งนี้ตอกย้ำ “กลไกความร่วมมือภาคประชาชนเชิงพื้นที่” ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาให้ตรงจุด ควบคู่กับการยกระดับความปลอดภัย วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของเมืองพัทยา—เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นศรัทธาเป็นผลสัมฤทธิ์เพื่อประชาชนเป็นที่ตั้งตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ กล่าว