จับ อดีตรปภ.โรงพยาบาล ตระเวนลักทรัพย์ ซ้ำเติมทุกข์ญาติคนป่วย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันจับกุม นายสุพจน์ฯ อายุ 57 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดเพชรบุรี (เขตอำนาจแขวง) ที่ 304/2568 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ หรือรับของโจร” โดยจับกุมได้ บริเวณหน้าลานจอดรถ บริษัทแห่งหนึ่ง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
พฤติกรรมก่อนหน้า จากกรณีเมื่อต้นเดือนมีนาคม พ.ศ.2568 ผู้เสียหายเป็นภรรยาของผู้ป่วยชาวต่างชาติรายหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ ว่าถูกคนร้ายลักขโมยน้ำมันและแบตเตอรี่รถยนต์ขณะจอดรถไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเฝ้าดูแลสามีที่กำลังล้มป่วย
จากการสืบสวนสอบสวนและแกะรอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้คือ อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรีผู้ต้องหาได้อาศัยความคุ้นเคยกับสถานที่และตารางการปฏิบัติงาน ทราบดีว่าญาติผู้ป่วยมักจะจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน จึงสบโอกาสลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ โดยเลือกเป้าหมายที่เป็นผู้ป่วยและญาติที่กำลังเดือดร้อนและอ่อนแอ เพื่อซ้ำเติมความทุกข์ของคนในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของชีวิต
ภายหลังการก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมเป็นเวลานานนับปี โดยใช้วิธีการสมัครเป็นพนักงานขับรถทัวร์ เพื่อเคลื่อนย้ายที่อยู่ตลอดเวลาและหลีกเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ แต่สุภาษิตที่ว่า “ไม่มีใครหนีเงาของตัวเองพ้น” ก็ยังคงเป็นจริงเสมอ
เพราะเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า นายสุพจน์ฯ หลบหนีมาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่พนักงานขับรถ พบยืนอยู่บริเวณหน้าลานจอดรถ บริษัทแห่งหนึ่ง จึงเข้าไปตรวจสอบก่อนแสดงหมายจับพร้อมแจ้งสิทธิ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง แต่รายละเอียดไม่ขอให้การ
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการนำผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการทวงคืนความยุติธรรมและความรู้สึกปลอดภัยให้กับสังคม โดยเฉพาะกับผู้ป่วยและญาติที่ต้องฝากชีวิตและความหวังไว้กับสถานพยาบาล