แอตต้า เตือนเหตุรุนแรงฉุดเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย จี้รัฐเร่งสื่อสาร-ฟื้นความมั่นใจ
แอตต้า เผย เหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวมาเลเซียกระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ แนะรัฐเร่งสื่อสารมาตรการความปลอดภัยให้ชัดเจน พร้อมดันแหล่งเที่ยวใหม่-ลดต้นทุนธุรกิจหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเดินหน้าต่อ
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกกิตติมศักดิ์และประธานที่ปรึกษาอาวุโส สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีที่รุนแรงและสะเทือนใจ ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเทศไทยโดยตรงแล้ว ยังสะท้อนภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของประเทศในสายตานานาชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก
“เหตุการณ์ครั้งนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นแน่นอน โดยเฉพาะหากคลิปหรือข่าวแพร่กระจายไปในวงกว้างมากเท่าใด ก็จะยิ่งขยายผลกระทบมากขึ้น แม้จะไม่เกิดขึ้นในช่วงไฮซีซั่นหรือฤดูกาลท่องเที่ยวหลักก็ตาม แต่ก็เป็นบททดสอบสำคัญของหน่วยงานรัฐว่าจะสามารถจัดการสถานการณ์และฟื้นความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้มากแค่ไหน”
จี้รัฐสื่อสารความปลอดภัย “ต้องทำจริง-พูดให้เป็น”
ประธานที่ปรึกษาแอตต้าเน้นย้ำว่า สิ่งที่ประเทศไทยควรเร่งดำเนินการคือ การพัฒนาโครงสร้างด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรม พร้อมเดินหน้าสื่อสารให้ชัดเจน ผ่านช่องทางภาษาต่างประเทศในลักษณะทางการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ที่จะอนุญาตให้พลเมืองเดินทางมาเยือนไทยได้โดยไม่ต้องกังวล
“ที่ผ่านมาเราพูดกันซ้ำ ๆ เรื่องมาตรการความปลอดภัย แต่ปัญหาคือการสื่อสารยังไม่แข็งแรงพอ ต้องสื่อสารให้ครอบคลุมเป็นภาษาต่าง ๆ ไปยังสื่อต่างชาติ ทูตานุทูต และแพลตฟอร์มที่ชาวต่างชาติใช้ เช่นเดียวกับการสื่อสารเชิงรุกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือแม้แต่ตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด”
ทั้งนี้ นายศิษฎิวัชรระบุว่า การจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมการสื่อสารของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่เน้นย้ำการประเมินสถานการณ์และหาสาเหตุที่ชัดเจน ถือเป็นการเดินมาถูกทาง แต่สิ่งที่ต้องทำต่อเนื่องคือ “การสื่อสารว่ารัฐไทยเอาจริงแค่ไหนในการจัดการกับอาชญากรรมที่กระทบกับนักท่องเที่ยว”
หวังนโยบายการเงินหนุนท่องเที่ยว-ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน นายศิษฎิวัชรยังได้กล่าวถึงปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแตะระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ว่า แม้จะกระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาเที่ยวไทยบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง เพราะยังไม่ได้แข็งค่าในระดับที่สูงจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการคาดหวังคือ นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายใต้ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ซึ่งมาจากภาคเอกชน อาจมีความเข้าใจธุรกิจมากขึ้น และสามารถขับเคลื่อนนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อบรรเทาภาระต้นทุนของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
“ที่ผ่านมาเราเรียกร้องเรื่องนี้ไปหลายรอบแต่ก็ยังไม่มีการตอบสนอง ครั้งนี้หวังว่าจะได้เห็นการขยับที่เป็นรูปธรรม ทั้งในแง่การลดดอกเบี้ยและการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามามากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้”
เสนอเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่-เดินทางสะดวก ดึงดูดนักท่องเที่ยว
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่แอตต้ายกขึ้นคือ การหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มสีสันและดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยมาเที่ยวประเทศไทยแล้วและมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ จากปลายทางที่ไม่ซ้ำเดิม
“ตอนนี้นักท่องเที่ยวหลายคนหันไปเลือกเวียดนาม เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สดใหม่ และระบบคมนาคมสะดวกกว่าไทยในหลายด้าน เช่นเดียวกับที่คนไทยนิยมไปจีน เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่เชื่อมโยงกันได้ดี ซึ่งไทยเองต้องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวรองให้ไปได้จริง เดินทางสะดวก ปลอดภัย และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ”
โดยแนะให้หน่วยงานอย่าง ททท. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันต่อยอดโครงการเส้นทางท่องเที่ยว (Thematic Routes) ที่มีอยู่แล้วให้เชื่อมโยงถึงกันได้จริงในหลายจังหวัด พร้อมสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการเดินทาง เช่น ถนน รถสาธารณะ หรือการเชื่อมต่อระหว่างเมือง เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้นักท่องเที่ยว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แอตต้า เตือนเหตุรุนแรงฉุดเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย จี้รัฐเร่งสื่อสาร-ฟื้นความมั่นใจ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net